
สำหรับคู่แต่งงานที่วางแผนจะมีลูก และมีความสงสัยว่าช่วงตกไข่คือช่วงไหน รวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาดังกล่าวจะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าหลังประจำเดือนหมดกี่วันตกไข่อีกครั้ง เพื่อให้การนับวันตกไข่มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น เราจะมาช่วยไขข้อสงสัย พร้อมบอกวิธีคำนวณวันตกไข่ให้ได้รู้กัน
วันตกไข่คืออะไร?
ภาวะตกไข่ เกิดได้กับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคน โดยจะเป็นภาวะที่ร่างกายปล่อยไข่ใบที่สุกที่สุดออกจากรังไข่ เพื่อให้ไข่ได้เคลื่อนที่ไปยังส่วนปลายของท่อนำไข่ และรอให้อสุจิมาปฏิสนธิ ก่อนที่จะเคลื่อนที่กลับไปฝังยังผนังมดลูกต่อไป
หลังประจำเดือนหมด กี่วันตกไข่ มีวงจรอย่างไร?
ในผู้หญิงที่รอบเดือนมาปกติทุกเดือน การตกไข่จะเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 14 ก่อนการมีประจำเดือนครั้งถัดไป หรือนับง่าย ๆ คือหลังจากหมดประจำเดือนไปทุก ๆ 14 วัน จะมีการตกไข่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถบอกถึงวงจรการตกไข่ได้ดังนี้
- ในช่วงวันที่ 2-14 ของรอบเดือน ร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนฟอลลิเคิล สติมูเลติง (Follicle-Stimulating Hormone: FSH) เพื่อไปกระตุ้นให้ไข่สุก และยังเป็นการช่วยสร้างเยื่อบุมดลูกให้หนาขึ้น สำหรับเตรียมให้ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้วมาฝังตัว
- ในช่วงวันที่ 11-21 ของรอบเดือน จะเป็นระยะตกไข่ หรือเป็นช่วงไข่สุกคือวันที่ 14 ของรอบเดือน และไข่ที่สุกจะเคลื่อนที่ไปตามท่อนำไข่ เพื่อเตรียมรับการปฏิสนธิจากอสุจิ อยู่บริเวณปลาท่อนำไข่
- หลังจากที่ไข่สุกและตกมาแล้ว จะมีชีวิตอยู่ในท่อนำไข่ได้เพียง 12-24 ชั่วโมงเท่านั้น หากไม่มีการปฏิสนธิ ไข่ก็จะเสื่อมสภาพและสลายไป ส่วนเยื่อบุมดลูกก็จะหนาตัวขึ้น แล้วจะสลายกลายเป็นประจำเดือนในที่สุด
การนับวันตกไข่ จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้คู่แต่งงานสามารถหาช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ และเพิ่มโอกาสให้ตั้งครรภ์ได้สำเร็จ
อาการตกไข่มีกี่วัน สังเกตอย่างไร?
สำหรับอาการตกไข่จะสังเกตได้ไม่ยาก มักแสดงออกมาให้เห็นเป็นเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ดังนี้
มูกช่องคลอดลื่น
ในช่วงระยะตกไข่ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้น ส่งผลให้มูกช่องคลอดลื่นและใส เพื่อให้อสุจิสามารถผ่านเข้าไปปฏิสนธิได้ง่ายขึ้น
มีแรงขับทางเพศ
หากสงสัยว่าเข้าสู่ช่วงระยะตกไข่แล้วหรือยัง สิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้ คือช่วงที่ผู้หญิงมีแรงขับทางเพศค่อนข้างสูง เนื่องจากปฏิกิริยาของฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงการสูบฉีดของเลือด อีกทั้งในช่วงนี้ผู้หญิงยังจะดูมีน้ำมีนวลมากกว่าปกติอีกด้วย
อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น
เนื่องจากในช่วงเวลาที่ตกไข่ ร่างกายจะมีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ออกมา รวมถึงมีเลือดที่สูบฉีดเพิ่มมากขึ้น จึงทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงเล็กน้อย ประมาณ 0.3–0.6 องศาเซลเซียส
เจ็บคัดเต้านม
ด้วยปริมาณของฮอร์โมนในร่างกายที่เพิ่มสูงขึ้น ในช่วงเวลาที่ตกไข่ จึงทำให้มีอาการเจ็บตึง คัดที่หน้าอกได้ ปวดตื้อ ๆ หนัก ๆ หรือปวดร้าว หรือสัมผัสโดนบริเวณหัวนมจะมีอาการเจ็บมาก
ปวดท้องน้อย
อาการปวดท้องน้อย เป็นอีกหนึ่งสัญญาณของภาวะตกไข่ มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของระบบสืบพันธุ์ภายใน ให้พร้อมกับการฝังตัวของไข่ที่ผ่านการปฏิสนธิแล้ว
ท้องอืด ตัวบวม
เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจน และฮอร์โมนลูทิไนซิง (Luteinizing hormone: LH) เพิ่มสูงขึ้นในช่วงตกไข่ ส่งผลให้ผู้หญิงบางคนมีอาการบวมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้อง มือ และข้อเท้า ทั้งยังมีอาการท้องอืดร่วมด้วย
มีตกขาว
สิ่งหนึ่งที่สามารถสังเกตได้ในช่วงเวลาตกไข่ คือระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะสูงขึ้น จึงกระตุ้นให้มีตกขาวคล้ายไข่ขาวดิบมากกว่าปกติ เพื่อช่วยให้อสุจิสามารถเคลื่อนที่ไปปฏิสนธิกับไข่ได้ง่ายขึ้น
ปากมดลูกเปลี่ยนแปลง
เมื่อร่างกายอยู่ในระยะตกไข่ ปากมดลูกจะเปลี่ยนแปลงไป สามารถสังเกตได้ด้วยตนเองโดยการสัมผัส หากสอดนิ้วเข้าไปในช่องคลอดจนปลายนิ้วแตะที่ปากมดลูก จะพบว่าปากมดลูกนุ่มขึ้น ยกตัวสูงขึ้น และเปิดออกมากกว่าเดิม ซึ่งอาจสังเกตด้วยตนเองได้ยาก แต่สามารถเข้ารับการตรวจปากมดลูกจากสูตินรีแพทย์โดยตรงได้
อารมณ์แปรปรวน
เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิง ไม่ว่าจะเป็นเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และฮอร์โมนลูทิไนซิง ที่เกิดขึ้นในช่วงตกไข่ ส่งผลให้อารมณ์แปรปรวนขึ้น ๆ ลง ๆ ดีใจหรือเสียใจได้ง่าย หรือกระสับกระส่าย หงุดหงิดง่าย คนรอบตัวต้องพยายามทำความเข้าใจเป็นพิเศษ
การนับวันไข่ตก สำคัญอย่างไร?
การนับวันไข่ตกเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับคู่รักที่วางแผนจะมีบุตร เพราะช่วยให้สามารถกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากขึ้น นอกจากนี้ ยังช่วยให้ผู้หญิงเข้าใจรอบเดือนของตนเองได้ดียิ่งขึ้น โดยสังเกตจากความผิดปกติของร่างกาย ทำให้สามารถวางแผนสุขภาพด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วันตกไข่นับอย่างไร?
สำหรับวิธีการคำนวณวันตกไข่สามารถทำได้ทั้งการนับด้วยตนเอง หรืออาศัยเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น โดยแบ่งออกเป็น ดังนี้
นับวันตกไข่ด้วยตนเอง
วิธีการคำนวณวันตกไข่ง่าย ๆ สามารถทำได้ด้วยการนับวันตกไข่ด้วยตนเอง ด้วยการจดบันทึกวันที่ประจำเดือนเริ่มมา และวันที่ประจำเดือนหมด ซึ่งปกติไข่จะตกในช่วงวันที่ 14 ของรอบเดือน หรือในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ ก่อนที่จะมีประจำเดือนรอบใหม่ โดยให้มีเพศสัมพันธ์ในช่วงวันที่ 12 ของรอบเดือน เพราะอสุจิจะมีชีวิตรอผสมไข่อยู่ได้ประมาณ 2 วันก่อนการตกไข่ เมื่อถึงวันที่ 14 ที่ตกไข่ อสุจิก็จะสามารถเข้าไปปฏิสนธิได้ทันที แต่วิธีนี้สามารถใช้ได้กับคนที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอเท่านั้น สำหรับคนที่รอบเดือนมาไม่ปกติ มีโอกาสที่จะประสบผลสำเร็จได้น้อยมาก
ใช้ชุดตรวจสอบการตกไข่
ชุดตรวจการตกไข่ (Ovulation Test Kit) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยตรวจจับฮอร์โมนลูทิไนซิง (LH) ในปัสสาวะ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีการกระตุ้นให้ไข่สุก โดยมักหลั่งออกมาก่อนการตกไข่ประมาณ 24-36 ชั่วโมง การใช้ชุดตรวจนี้จะช่วยให้ผู้หญิงสามารถคำนวณช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตั้งครรภ์ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ฮอร์โมนลูทิไนซิงอาจเพิ่มขึ้นในบางกรณี เช่น ผู้ที่มีภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) อาจได้ผลคลาดเคลื่อนได้ จึงควรสังเกตมูกปากมดลูกและอุณหภูมิร่างกายร่วมด้วย
การใช้แอปนับวันตกไข่ (Ovulation Tracker Apps) กลายเป็นวิธีที่สะดวกและแม่นยำมากขึ้นในการคำนวณช่วงตกไข่สำหรับผู้ที่ต้องการตั้งครรภ์หรือคุมกำเนิดโดยวิธีธรรมชาติ แอปเหล่านี้จะช่วยติดตามรอบเดือน คาดการณ์วันตกไข่ และแสดงช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงได้อย่างง่ายดาย ซึ่งที่นิยมใช้งานกัน คือ
- Flo Period & Pregnancy Tracker ช่วยคำนวณรอบเดือนและวันตกไข่ได้อย่างแม่นยำ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์มากยิ่งขึ้น
- Ovia Fertility ช่วยในการติดตามระยะเวลาตกไข่ โดยออกแบบมาเพื่อช่วยให้ตั้งครรภ์ได้เร็วขึ้น
- Period Tracker by GP Apps อินเทอร์เฟซเรียบง่าย เหมาะกับมือใหม่ ใช้ติดตามทั้งรอบเดือนและการตกไข่อย่างมีประสิทธิภาพ
หลังจากตกไข่กี่วันถึงรู้ว่าตั้งครรภ์?
หลังจากตกไข่แล้ว หากมีการปฏิสนธิและตัวอ่อนฝังตัวในผนังมดลูก ร่างกายจะเริ่มผลิตฮอร์โมน hCG (Human Chorionic Gonadotropin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ตรวจพบได้ในคุณแม่ตั้งครรภ์ ซึ่งสามารถเริ่มตรวจด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วที่สุดประมาณ 12-14 วันหลังตกไข่ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำยิ่งขึ้น ควรรอให้ประจำเดือนขาดไปประมาณ 14 วันหลังไข่ตก หรือประมาณ 1 สัปดาห์หลังจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา แล้วจึงใช้ชุดตรวจครรภ์ เพราะระดับฮอร์โมน hCG จะสูงขึ้นพอที่จะตรวจพบได้อย่างชัดเจน
ทั้งนี้ หากต้องการความแม่นยำมากขึ้น สามารถเข้ารับการตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ซึ่งสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้เร็วกว่า และให้ผลที่แน่นอนมากกว่าการใช้ชุดตรวจปัสสาวะทั่วไป
คงเข้าใจกันแล้วว่า ช่วงเวลาตกไข่มีความสำคัญอย่างไรต่อผู้ที่วางแผนจะมีลูก แต่ถ้าหากคู่แต่งงานได้ลองใช้วิธีนับวันตกไข่แล้วไม่สำเร็จ ลองมาวางแผนการมีบุตร รักษาภาวะมีบุตรยากกับสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่คลินิกมีบุตรยาก ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร VFC Center เราพร้อมให้บริการครอบคลุมทั้งให้คำปรึกษา ตรวจวินิจฉัย และให้การรักษาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ห้องปฏิบัติการได้มาตรฐานระดับสากล
บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter
ข้อมูลอ้างอิง:
- ไข่ตก สาระสุขภาพที่ผู้หญิงควรรู้. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 จาก https://www.pobpad.com/ไข่ตก-สาระสุขภาพที่ผู้ห
- นับวันไข่ตกอย่างไรไม่ให้พลาด. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2567 จาก https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/calendar-method/

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.