เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

การทำอัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยาก คืออะไร จำเป็นหรือไม่ ?

อัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยาก โดยแพทย์กำลังตรวจผ่านช่องคลอด

การทำอัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยากทางช่องคลอด เป็นหนึ่งในขั้นตอนการรักษาเพื่อดูถึงสุขภาพของการเจริญพันธุ์โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเจ็บ อีกทั้งยังช่วยให้เห็นภาพรวมภายในอุ้งเชิงกรานได้อย่างชัดเจน นับเป็นการตรวจคัดกรองที่สามารถช่วยประเมินสุขภาพของระบบสืบพันธุ์เพศหญิงได้อย่างรอบด้าน เพื่อค้นหาความผิดปกติที่อาจส่งผลต่อการมีบุตร

บทความนี้จะมาอธิบายเกี่ยวกับการทำอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด ในการตรวจภาวะมีบุตรยาก พร้อมชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ ขั้นตอนการตรวจ และเหตุผลที่คลินิกมีบุตรยากชั้นนำในกรุงเทพฯ อย่าง VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เลือกใช้วิธีการตรวจนี้เป็นหนึ่งในมาตรฐานสำคัญในการช่วยคัดกรองผู้ที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก

การทำอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด คืออะไร ?

การทำอัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยากโดยส่องผ่านช่องคลอด จะเป็นการตรวจบริเวณอุ้งเชิงกรานที่ออกแบบมาเพื่อประเมินอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงโดยเฉพาะ อาทิ มดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ และเยื่อบุมดลูก ซึ่งวิธีนี้จะแตกต่างจากการอัลตราซาวนด์ผ่านหน้าท้อง เนื่องจากการตรวจอัลตราซาวนด์บริเวณนี้จะใช้หัวตรวจขนาดเล็กที่ใส่เข้าไปในช่องคลอดได้อย่างนุ่มนวล เพื่อให้ได้ภาพโครงสร้างของระบบสืบพันธุ์ที่ชัดเจนและคมชัด ทำให้แพทย์สามารถประเมินภาวะเจริญพันธุ์ในระยะเริ่มต้นได้แม่นยำกว่า

ขั้นตอนนี้จะใช้เวลาสั้น ๆ ประมาณ 5–10 นาที ทั้งยังมีความปลอดภัย ไม่รุกล้ำเนื้อเยื่อ และไม่มีการใช้รังสีหรือยาชา อย่างไรก็ตาม ระหว่างการตรวจ อาจมีความรู้สึกไม่สบายตัวหรือรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาพักฟื้น อีกทั้งวิธีนี้ยังถือเป็นมาตรฐานสำหรับผู้ที่ต้องการเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก ตั้งแต่การตรวจเบื้องต้นจนถึงการติดตามรอบทำ ICSI

 นัดหมายตรวจร่างกายเพื่อประเมินภาวะมีบุตรยากกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

ทำไมการทำอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด ถึงสำคัญในการตรวจภาวะมีบุตรยาก ?

การทำอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอดสามารถให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพของอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิง ทำให้แพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ สามารถประเมินภาวะมีบุตรยากและวางแผนการรักษาให้ตรงกับภาวะของแต่ละคน

  • ขนาดและรูปทรงของมดลูก : ช่วยในการตรวจหาความผิดปกติแต่กำเนิด หรือก้อนเนื้อที่อาจส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน
  • สุขภาพรังไข่ : ช่วยในการสแกนขนาดและรูปทรงของรังไข่ รวมถึงการตรวจหาซิสต์หรือปัญหาต่าง ๆ ยกตัวอย่างเช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) และภาวะรังไข่เสื่อมก่อนกำหนด
  • การนับจำนวนฟองไข่ : ช่วยในการประเมินปริมาณไข่และคำนวณโอกาสในการตั้งครรภ์ของแต่ละเคส
  • เยื่อบุโพรงมดลูก : วัดความหนาและรูปแบบของเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการฝังตัวของตัวอ่อน
  • การติดตามการเจริญเติบโตของฟองไข่ : เพื่อระบุเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการตกไข่, การใส่สเปิร์ม หรือการเก็บไข่
  • การตรวจพบความผิดปกติอื่น ๆ : ช่วยในการตรวจหาปัญหาต่าง ๆ เช่น ซิสต์ในรังไข่, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ หรือท่อนำไข่ที่อุดตัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ได้

เมื่อผนวกกับการตรวจฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ เช่น AMH (ฮอร์โมนแอนติ-มิวเลเรียน), FSH (ฮอร์โมนกระตุ้นฟองไข่), LH (ฮอร์โมนกระตุ้นการตกไข่) และเอสตราไดออล (Estradiol) ผลการตรวจอัลตราซาวนด์จะช่วยให้เห็นภาพรวมของสุขภาพการเจริญพันธุ์ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งสำคัญอย่างมากกับผู้ที่กำลังพิจารณารักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ ICSI, IUI หรือการแช่แข็งไข่

เมื่อไหร่ที่ควรทำอัลตราซาวนด์ทางช่องคลอด ?

สำหรับการตรวจภาวะมีบุตรยากเบื้องต้น การทำอัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยากผ่านทางช่องคลอดมักนัดทำระหว่างวันที่ 2 ถึงวัน 5 ของรอบประจำเดือน การกำหนดเวลานี้จะช่วยให้ได้ภาพของการเปลี่ยนแปลงของรังไข่และจำนวนฟองไข่ได้อย่างแม่นยำ พร้อมนำไปใช้ในการวางแผนรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยระยะของการอัลตราซานด์เพื่อติดตามผล จะแบ่งเป็น 4 ระยะ ดังนี้

  • ระยะก่อนการตกไข่ : เพื่อตรวจขนาดและการเติบโตของฟองไข่ ทำให้สามารถเก็บข้อมูลการตอบสนองต่อฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ของร่างกาย ว่าปกติหรือไม่ รวมถึงใช้เป็นฐานการคาดการณ์วันไข่ตก เพื่อวางแผนการมีบุตรด้วย
  • ระยะกลางรอบเดือน : เพื่อยืนยันการตกไข่ ช่วยเก็บข้อมูลและนำมาใช้ประกอบการวางแผนฉีดอสุจิ (IUI) หรือวางแผนช่วงระยะเวลาเก็บไข่สำหรับแช่แข็ง ก่อนทำตามกระบวนการ ICSI ต่อไป
  • ช่วงหลังการตกไข่ : เพื่อตรวจการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุโพรงมดลูก โดยจะดูที่ความหนาและลักษณะของเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อให้เห็นถึงความพร้อมของในการฝังตัวของตัวอ่อน
  • ระหว่างการทำ ICSI : เป็นการทำอัลตราซาวนด์เพื่อดูแลและปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับสภาพร่างกาย ป้องกันการกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) รวมถึงกำหนดเวลาให้ฮอร์โมนกระตุ้นจนไข่สุก ทั้งยังช่วยให้สามารถกำหนดวันเก็บไข่ได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ได้ไข่ในช่วงที่สมบูรณ์ที่สุดสำหรับการทำปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ

สิ่งที่จะเกิดขึ้นในระหว่างการตรวจ

  • ผู้เข้ารับการตรวจจะนอนในท่าที่สบาย ขณะที่ใช้หัวอัลตราซาวนด์ที่ทาเจลหล่อลื่นแล้ว สอดเข้าไปในช่องคลอด
  • ภาพแบบเรียลไทม์จะถูกส่งไปยังจอภาพ เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจสอบมดลูกและรังไข่ได้อย่างละเอียด

แพทย์กำลังอธิบายผลอัลตราซาวนด์ตรวจภาวะมีบุตรยาก โดยส่องผ่านช่องคลอดให้ผู้ป่วยฟัง

ประโยชน์ของการทำอัลตราซาวนด์ช่องคลอด เพื่อตรวจภาวะมีบุตรยาก

สำหรับผู้ที่มีรอบเดือนผิดปกติ เคยแท้งบุตร หรือมีภาวะมีบุตรยากที่ไม่ทราบสาเหตุ การทำอัลตราซาวนด์ส่องผ่านช่องคลอดจะช่วยให้เห็นภาพความผิดปกติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งการตรวจนี้มีประโยชน์ในหลากหลายด้าน จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น

  • ปลอดภัยและรวดเร็ว : ไม่มีรังสี ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องพักฟื้น
  • ตรวจติดตามแบบเรียลไทม์ : ช่วยให้แพทย์กำหนดวันตกไข่ได้อย่างแม่นยำ และดูการเจริญเติบโตของฟองไข่ได้แบบเรียลไทม์
  • เจาะลึกสุขภาพรังไข่ : เมื่อรวมกับระดับ AMH และ FSH การนับฟอลลิเคิลจะช่วยประเมินจำนวนไข่ที่ยังเหลืออยู่
  • กำหนดเวลาที่แม่นยำ : เพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำ IUI, IVF, ICSI และการย้ายตัวอ่อนด้วยการเลือกเวลาที่เหมาะที่สุด
  • ตรวจพบปัญหาเร็ว : ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าตนเองมีเนื้องอกในมดลูก ซีสต์ หรือเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่จนกระทั่งตรวจพบจากการสแกน
  • ประเมินภาวะเกี่ยวกับฮอร์โมน : ช่วยตรวจสอบภาวะเช่น PCOS หรือการเปลี่ยนแปลงในฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการเจริญพันธุ์ที่อาจส่งผลต่อโอกาสการตั้งครรภ์

นัดหมายตรวจอัลตราซาวนด์ เพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก

ทำไมต้องเลือก VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) ในกรุงเทพฯ ?

ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เป็นหนึ่งในคลินิกมีบุตรยากชั้นนำในกรุงเทพฯ ที่ได้รับความไว้วางใจมาอย่างยาวนาน พร้อมนำเสนอแพ็กเกจตรวจภาวะมีบุตรยากที่ครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการตรวจอัลตราซาวนด์ผ่านช่องคลอด ตรวจฮอร์โมน และการปรึกษาทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลอย่างเป็นมืออาชีพในสภาพแวดล้อมที่ทันสมัย สะดวกสบาย และมีอุปกรณ์ครบครัน เรารองรับการรักษาทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก และสร้างประสบการณ์การเข้ารับบริการที่ราบรื่นตั้งแต่ต้นจนจบ

บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

 

References:

Transvaginal Ultrasound Scan. Retrieved on 31 October 2025 from https://www.guysandstthomas.nhs.uk/health-information/transvaginal-ultrasound-scan

Transvaginal Ultrasound. Retrieved on 31 October 2025 from https://my.clevelandclinic.org/health/diagnostics/4993-transvaginal-ultrasound

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.