เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

สรุปแนวทาง เตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยาก

การเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยาก

การเริ่มต้นสร้างครอบครัวเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข แต่ในความเป็นจริง คู่สมรสบางคู่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งครรภ์ ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จคือการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรและการเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมร่างกายให้พร้อม เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ที่ราบรื่นและให้กำเนิดลูกน้อยที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง

ความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรและตรวจภาวะมีบุตรยาก

การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จะช่วยให้แพทย์ประเมินความพร้อมของร่างกายและหาปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการมีบุตร เช่น ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรคทางพันธุกรรมที่สามารถส่งต่อถึงลูกได้ ซึ่งการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยให้สามารถรักษาหรือป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ก่อนตั้งครรภ์

นอกจากนี้ คู่สมรสจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะคู่ที่พยายามตั้งครรภ์ต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปีแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยสาเหตุอาจเกิดได้ทั้งจากฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย หรือทั้งสองฝ่ายร่วมกัน การเข้าพบสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จะช่วยวิเคราะห์ถึงต้นเหตุได้อย่างแม่นยำ และวางแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น

นัดหมายตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center

ตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรต้องเตรียมตัวอย่างไร ?

ก่อนเริ่มต้นการตั้งครรภ์ แพทย์มักแนะนำให้คู่สมรสเข้ารับการตรวจสุขภาพทั้งสองฝ่าย เพื่อประเมินสภาวะร่างกายโดยรวมและระบบสืบพันธุ์อย่างละเอียด โดยสามารถแบ่งการตรวจสุขภาพได้เป็น 3 หมวดหมู่หลักด้วยกัน ได้แก่

การตรวจสุขภาพสำหรับฝ่ายหญิง

การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรของฝ่ายหญิงเน้นไปที่การประเมินระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมน ได้แก่

  • ตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น FSH, LH, Estradiol และ AMH เพื่อดูว่ารังไข่ทำงานปกติหรือไม่
  • ตรวจมดลูกและรังไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ เช่น ซีสต์ หรือเนื้องอก
  • ตรวจท่อนำไข่ว่ามีการอุดตันหรือพังผืดหรือไม่
  • ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบบี, หนองใน, คลามัยเดีย)
  • ตรวจโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคที่อาจส่งผลต่อลูกในอนาคต

การตรวจสุขภาพสำหรับฝ่ายชาย

แม้ผู้ชายจะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องตั้งครรภ์ แต่สุขภาพของฝ่ายชายก็มีผลโดยตรงต่อคุณภาพอสุจิและโอกาสปฏิสนธิ จึงควรได้รับการตรวจเหล่านี้

  • ตรวจน้ำเชื้อ (Semen Analysis) เพื่อดูปริมาณ การเคลื่อนไหว และรูปร่างของอสุจิ
  • ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เพื่อประเมินการสร้างอสุจิ
  • ตรวจความผิดปกติของโครงสร้าง เช่น เส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ หรือภาวะอัณฑะไม่ลงถุง
  • ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคทางพันธุกรรมที่อาจถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้

การตรวจสุขภาพร่วมกันของคู่สมรส

นอกเหนือจากการตรวจของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแล้ว ยังมีบางรายการที่ต้องตรวจร่วมกันเพื่อประเมินความเข้ากันได้ของร่างกายด้วย เช่น

  • ตรวจหมู่เลือดและความเข้ากันของหมู่เลือด Rh
  • ตรวจภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella)
  • ตรวจพาหะโรคทางพันธุกรรมร่วมกัน เช่น ธาลัสซีเมีย
  • รับคำปรึกษาทางพันธุกรรม (Genetic Counseling) เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคที่อาจถ่ายทอดสู่บุตร

รับคำปรึกษาด้านการเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยาก

แนวทางเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่

เมื่อรู้ผลตรวจสุขภาพแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการปรับพฤติกรรมและเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ให้พร้อมที่สุด เพื่อให้การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งคู่สมรสสามารถทำได้ตามแนวทางเหล่านี้

ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

  • งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพอสุจิและไข่
  • ลดการดื่มคาเฟอีนในปริมาณสูง
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
  • ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลดภาวะอ้วนหรือผอมเกินไป
  • พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดส่งผลต่อการตกไข่และการสร้างอสุจิ

เสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีบุตร

สารอาหารบางชนิดมีบทบาทสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เช่น

  • กรดโฟลิก (Folic Acid) ช่วยลดความเสี่ยงความผิดปกติของทารกในครรภ์
  • ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินดี ช่วยเตรียมร่างกายของฝ่ายหญิง
  • สังกะสีและซีลีเนียม ช่วยเสริมคุณภาพอสุจิในฝ่ายชาย

รักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์

หากตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรแล้วพบว่าตนเองหรือคู่สมรสมีภาวะมีบุตรยาก อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความเหมาะสมของคู่สมรสแต่ละราย เช่น

  • การทำ IUI (Intrauterine Insemination) เป็นวิธีที่ช่วยให้อสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ
  • การทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เหมาะในกรณีที่อสุจิหรือไข่มีคุณภาพต่ำ โดยจะเป็นการคัดเลือกทั้งไข่และอสุจิที่สมบูรณ์ที่สุด จากนั้นจะทำการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ
  • การตรวจคัดกรองตัวอ่อนก่อนย้าย เพื่อเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น

การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรไม่เพียงช่วยให้เข้าใจสภาพร่างกายของตนเองและคู่สมรส แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการแท้ง ลดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้ทารกมีความผิดปกติแต่กำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมร่างกายให้พร้อมร่วมกับการรักษาภาวะมีบุตรยากภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ จะช่วยให้คู่สมรสมีโอกาสสมหวังมากยิ่งขึ้น

ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยากกับทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรายินดีให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์

บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q : ควรเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เมื่อไหร่ ?

A : ควรเริ่มเตรียมสุขภาพอย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายและฮอร์โมนสมดุล พร้อมต่อการปฏิสนธิ ควรปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ และเริ่มรับประทานกรดโฟลิกเพื่อป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์

Q : การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรเป็นสิ่งจำเป็นไหม ?

A : การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรจำเป็นมาก เพราะช่วยคัดกรองโรคและภาวะเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ควรตรวจเมื่อเริ่มวางแผนมีลูก หรือก่อนเริ่มพยายามตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน

Q : ตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรใช้เวลานานไหม ต้องงดอาหารหรือไม่ ?

A : โดยทั่วไป การตรวจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และส่วนใหญ่ไม่ต้องงดอาหาร ยกเว้นการตรวจเลือดบางประเภท เช่น น้ำตาลหรือไขมัน ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำก่อนถึงวันนัดหมาย

Q : การพักผ่อนมีผลต่อโอกาสการตั้งครรภ์หรือไม่ ?

A : มีผลโดยตรง เพราะการนอนหลับเพียงพอช่วยให้ฮอร์โมนเพศหญิงและโปรเจสเตอโรนทำงานได้ดี ส่งผลให้ร่างกายตกไข่สม่ำเสมอและเยื่อบุโพรงมดลูกพร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน

Q : คู่สมรสที่กำลังเตรียมตัวมีบุตรควรออกกำลังกายแบบไหน ?

A : ควรออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือฝึกโยคะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งส่งผลดีต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย

Q : คู่สมรสควรเลี่ยงอาหารประเภทใดก่อนรักษาภาวะมีบุตรยาก ?

A : ควรงดแอลกอฮอล์ ลดคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงหรือแปรรูป เพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของไข่และอสุจิ รวมถึงประสิทธิภาพของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.