การเริ่มต้นสร้างครอบครัวเป็นช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความหวังและความสุข แต่ในความเป็นจริง คู่สมรสบางคู่ต้องเผชิญกับความท้าทายในการตั้งครรภ์ ซึ่งหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จคือการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรและการเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม เพื่อให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมร่างกายให้พร้อม เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ที่ราบรื่นและให้กำเนิดลูกน้อยที่มีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง
ความสำคัญของการตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรและตรวจภาวะมีบุตรยาก
การตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ จะช่วยให้แพทย์ประเมินความพร้อมของร่างกายและหาปัจจัยเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการมีบุตร เช่น ภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือโรคทางพันธุกรรมที่สามารถส่งต่อถึงลูกได้ ซึ่งการตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจะช่วยให้สามารถรักษาหรือป้องกันภาวะแทรกซ้อนได้ก่อนตั้งครรภ์
นอกจากนี้ คู่สมรสจำนวนไม่น้อยจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะคู่ที่พยายามตั้งครรภ์ต่อเนื่องมานานกว่า 1 ปีแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ โดยสาเหตุอาจเกิดได้ทั้งจากฝ่ายหญิง ฝ่ายชาย หรือทั้งสองฝ่ายร่วมกัน การเข้าพบสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จะช่วยวิเคราะห์ถึงต้นเหตุได้อย่างแม่นยำ และวางแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น
นัดหมายตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรกับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center
ตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
ก่อนเริ่มต้นการตั้งครรภ์ แพทย์มักแนะนำให้คู่สมรสเข้ารับการตรวจสุขภาพทั้งสองฝ่าย เพื่อประเมินสภาวะร่างกายโดยรวมและระบบสืบพันธุ์อย่างละเอียด โดยสามารถแบ่งการตรวจสุขภาพได้เป็น 3 หมวดหมู่หลักด้วยกัน ได้แก่
การตรวจสุขภาพสำหรับฝ่ายหญิง
การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรของฝ่ายหญิงเน้นไปที่การประเมินระบบสืบพันธุ์และฮอร์โมน ได้แก่
- ตรวจระดับฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น FSH, LH, Estradiol และ AMH เพื่อดูว่ารังไข่ทำงานปกติหรือไม่
- ตรวจมดลูกและรังไข่ด้วยการอัลตราซาวนด์ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ เช่น ซีสต์ หรือเนื้องอก
- ตรวจท่อนำไข่ว่ามีการอุดตันหรือพังผืดหรือไม่
- ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (HIV, ซิฟิลิส, ไวรัสตับอักเสบบี, หนองใน, คลามัยเดีย)
- ตรวจโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือโรคที่อาจส่งผลต่อลูกในอนาคต
การตรวจสุขภาพสำหรับฝ่ายชาย
แม้ผู้ชายจะไม่ใช่ฝ่ายที่ต้องตั้งครรภ์ แต่สุขภาพของฝ่ายชายก็มีผลโดยตรงต่อคุณภาพอสุจิและโอกาสปฏิสนธิ จึงควรได้รับการตรวจเหล่านี้
- ตรวจน้ำเชื้อ (Semen Analysis) เพื่อดูปริมาณ การเคลื่อนไหว และรูปร่างของอสุจิ
- ตรวจระดับฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) เพื่อประเมินการสร้างอสุจิ
- ตรวจความผิดปกติของโครงสร้าง เช่น เส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ หรือภาวะอัณฑะไม่ลงถุง
- ตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคทางพันธุกรรมที่อาจถ่ายทอดจากพ่อแม่สู่ลูกได้
การตรวจสุขภาพร่วมกันของคู่สมรส
นอกเหนือจากการตรวจของฝ่ายชายและฝ่ายหญิงแล้ว ยังมีบางรายการที่ต้องตรวจร่วมกันเพื่อประเมินความเข้ากันได้ของร่างกายด้วย เช่น
- ตรวจหมู่เลือดและความเข้ากันของหมู่เลือด Rh
- ตรวจภูมิคุ้มกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella)
- ตรวจพาหะโรคทางพันธุกรรมร่วมกัน เช่น ธาลัสซีเมีย
- รับคำปรึกษาทางพันธุกรรม (Genetic Counseling) เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคที่อาจถ่ายทอดสู่บุตร
รับคำปรึกษาด้านการเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยาก
แนวทางเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่
เมื่อรู้ผลตรวจสุขภาพแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการปรับพฤติกรรมและเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ให้พร้อมที่สุด เพื่อให้การปฏิสนธิและการตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งคู่สมรสสามารถทำได้ตามแนวทางเหล่านี้
ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- งดสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมีผลโดยตรงต่อคุณภาพอสุจิและไข่
- ลดการดื่มคาเฟอีนในปริมาณสูง
- ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ลดภาวะอ้วนหรือผอมเกินไป
- พักผ่อนให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงความเครียด เพราะความเครียดส่งผลต่อการตกไข่และการสร้างอสุจิ
เสริมสารอาหารที่จำเป็นต่อการมีบุตร
สารอาหารบางชนิดมีบทบาทสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง เช่น
- กรดโฟลิก (Folic Acid) ช่วยลดความเสี่ยงความผิดปกติของทารกในครรภ์
- ธาตุเหล็ก แคลเซียม และวิตามินดี ช่วยเตรียมร่างกายของฝ่ายหญิง
- สังกะสีและซีลีเนียม ช่วยเสริมคุณภาพอสุจิในฝ่ายชาย
รักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์
หากตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรแล้วพบว่าตนเองหรือคู่สมรสมีภาวะมีบุตรยาก อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะสามารถรักษาได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความเหมาะสมของคู่สมรสแต่ละราย เช่น
- การทำ IUI (Intrauterine Insemination) เป็นวิธีที่ช่วยให้อสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ
- การทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เหมาะในกรณีที่อสุจิหรือไข่มีคุณภาพต่ำ โดยจะเป็นการคัดเลือกทั้งไข่และอสุจิที่สมบูรณ์ที่สุด จากนั้นจะทำการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรงเพื่อให้เกิดการปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ
- การตรวจคัดกรองตัวอ่อนก่อนย้าย เพื่อเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น
การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรไม่เพียงช่วยให้เข้าใจสภาพร่างกายของตนเองและคู่สมรส แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของการแท้ง ลดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ ทั้งยังช่วยหลีกเลี่ยงไม่ให้ทารกมีความผิดปกติแต่กำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเตรียมร่างกายให้พร้อมร่วมกับการรักษาภาวะมีบุตรยากภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ จะช่วยให้คู่สมรสมีโอกาสสมหวังมากยิ่งขึ้น
ตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยากกับทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรายินดีให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์
บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q : ควรเตรียมสุขภาพก่อนตั้งครรภ์เมื่อไหร่ ?
A : ควรเริ่มเตรียมสุขภาพอย่างน้อย 3-6 เดือนก่อนตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายและฮอร์โมนสมดุล พร้อมต่อการปฏิสนธิ ควรปรับพฤติกรรม เช่น งดบุหรี่ แอลกอฮอล์ คาเฟอีน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ พักผ่อนเพียงพอ และเริ่มรับประทานกรดโฟลิกเพื่อป้องกันความผิดปกติของทารกในครรภ์
Q : การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรเป็นสิ่งจำเป็นไหม ?
A : การตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรจำเป็นมาก เพราะช่วยคัดกรองโรคและภาวะเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ควรตรวจเมื่อเริ่มวางแผนมีลูก หรือก่อนเริ่มพยายามตั้งครรภ์อย่างน้อย 3 เดือน
Q : ตรวจสุขภาพก่อนมีบุตรใช้เวลานานไหม ต้องงดอาหารหรือไม่ ?
A : โดยทั่วไป การตรวจจะใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง และส่วนใหญ่ไม่ต้องงดอาหาร ยกเว้นการตรวจเลือดบางประเภท เช่น น้ำตาลหรือไขมัน ซึ่งแพทย์จะให้คำแนะนำก่อนถึงวันนัดหมาย
Q : การพักผ่อนมีผลต่อโอกาสการตั้งครรภ์หรือไม่ ?
A : มีผลโดยตรง เพราะการนอนหลับเพียงพอช่วยให้ฮอร์โมนเพศหญิงและโปรเจสเตอโรนทำงานได้ดี ส่งผลให้ร่างกายตกไข่สม่ำเสมอและเยื่อบุโพรงมดลูกพร้อมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน
Q : คู่สมรสที่กำลังเตรียมตัวมีบุตรควรออกกำลังกายแบบไหน ?
A : ควรออกกำลังกายระดับปานกลาง เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือฝึกโยคะ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือดและควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งส่งผลดีต่อระบบสืบพันธุ์ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย
Q : คู่สมรสควรเลี่ยงอาหารประเภทใดก่อนรักษาภาวะมีบุตรยาก ?
A : ควรงดแอลกอฮอล์ ลดคาเฟอีน และหลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงหรือแปรรูป เพราะอาจส่งผลต่อคุณภาพของไข่และอสุจิ รวมถึงประสิทธิภาพของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.