เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญหลายด้านในวงการแพทย์ โดยเฉพาะสาขาเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ที่เน้นช่วยเหลือคู่รักที่ประสบปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยหนึ่งในกระบวนการสำคัญที่ถูกนำมาใช้รักษาภาวะนี้ คือการทำเด็กหลอดแก้ว ไม่ว่าจะเป็นการทำ IVF และ ICSI ซึ่งจะต้องอาศัยการคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และตัวอ่อนสามารถฝังตัวในมดลูกได้สำเร็จ
เทคโนโลยี iDAScore คือหนึ่งในนวัตกรรม AI ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการให้คะแนนเกรดตัวอ่อน โดยระบบจะวิเคราะห์การเจริญเติบโตของตัวอ่อนแบบอัตโนมัติและให้คะแนนตามความสมบูรณ์ เพื่อช่วยให้แพทย์สามารถเลือกตัวอ่อนที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับการตั้งครรภ์
วางแผนการตั้งครรภ์กับทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

เทคโนโลยี iDAScore คืออะไร ?
iDAScore คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อช่วยในการให้คะแนนเกรดตัวอ่อนอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำ โดยใช้การวิเคราะห์ภาพจากระบบ Time-Lapse Embryoscope ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทันสมัยและมีความสามารถพิเศษในการถ่ายภาพตัวอ่อนในทุก ๆ ช่วงเวลาอย่างต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวอ่อนออกมาจากสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมในตู้เพาะเลี้ยง
ความพิเศษของระบบ Time-Lapse Embryoscope คือสามารถบันทึกภาพการเจริญเติบโตของตัวอ่อนได้อย่างละเอียดทุก ๆ 10-15 นาที ทำให้เราสามารถสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ ของตัวอ่อนได้อย่างครบถ้วนและแม่นยำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ในการประเมินคุณภาพของตัวอ่อน โดยข้อมูลภาพเหล่านี้จะถูกนำมาวิเคราะห์โดยระบบ AI ของ iDAScore เพื่อให้คะแนนและจัดอันดับตัวอ่อนที่มีศักยภาพสูงสุดในการฝังตัวและพัฒนาเป็นทารกที่สมบูรณ์
หลักการทำงานของ iDAScore
เมื่อระบบ iDAScore ได้รับข้อมูลจากการถ่ายภาพตัวอ่อนอย่างต่อเนื่อง ระบบจะทำการประมวลผลภาพทั้งหมดผ่านอัลกอริทึม AI ที่ได้รับการฝึกจากฐานข้อมูลตัวอ่อนนับแสนชุดทั่วโลก เพื่อให้สามารถวิเคราะห์คุณภาพตัวอ่อนได้อย่างแม่นยำ โดยพิจารณาจากปัจจัยหลักดังต่อไปนี้
ความเร็วในการแบ่งตัวของเซลล์
ตัวอ่อนที่มีอัตราการแบ่งเซลล์ตรงตามระยะเวลาการแบ่งเซลล์ (Milestones) มีศักยภาพในการฝังตัวและโครโมโซมปกติในอัตราที่สูงกว่า โดยระบบ AI จะประเมินถึงความเร็วในการแบ่งเซลล์ตั้งแต่ 2 เซลล์ไปเป็น 4 เซลล์ และ 8 เซลล์ตามลำดับ ไปจนถึงระยะบลาสโตซิสต์ เพื่อคำนวณคะแนนความสมบูรณ์ของตัวอ่อน
รูปร่างของเซลล์ในแต่ละระยะ
เทคโนโลยี AI จะตรวจสอบรูปร่างและขนาดของเซลล์ รวมถึงความสมดุลในการจัดเรียง หากตัวอ่อนมีรูปร่างเซลล์ผิดปกติ เช่น การแบ่งตัวไม่สมมาตร การมี Fragmentation หรือส่วนเล็ก ๆ ของเซลล์ที่แตกออกมา รวมถึงความผิดปกติของรูปร่าง โดยระบบจะให้คะแนนต่ำกว่าตัวอ่อนที่มีโครงสร้างสมบูรณ์ เนื่องจากปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีผลต่อโอกาสในการฝังตัวทั้งสิ้น
การเคลื่อนที่ของเซลล์ภายในตัวอ่อน
การเคลื่อนไหวของเซลล์สะท้อนถึงความมีชีวิตและพลังงานภายใน ระบบ AI จะวิเคราะห์การเคลื่อนไหวเหล่านี้เพื่อตรวจหาความผิดปกติในระยะเริ่มต้น ซึ่งอาจส่งผลต่อความสามารถในการฝังตัวในโพรงมดลูก
เมื่อวิเคราะห์ครบทั้งสามปัจจัย iDAScore จะให้คะแนนตัวอ่อนในรูปแบบตัวเลข โดยคะแนนสูงจะหมายถึงตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี มีศักยภาพในการฝังตัวและตั้งครรภ์ได้มากกว่า
วางแผนการตั้งครรภ์กับทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center

ข้อดีและประสิทธิภาพของ iDAScore ในกระบวนการทำ ICSI
การนำ iDAScore มาใช้ในกระบวนการทำ เด็กหลอดแก้ว มอบข้อดีและประสิทธิภาพที่เหนือกว่าวิธีการประเมินแบบดั้งเดิมหลายประการ ดังนี้
เพิ่มความแม่นยำในการคัดเลือกตัวอ่อน
การประเมินโดย AI สามารถช่วยลดความคลาดเคลื่อนจากการประเมินด้วยสายตามนุษย์ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ของนักวิทยาศาสตร์ตัวอ่อน แต่ในทางกลับกันระบบ iDAScore จะใช้มาตรฐานเดียวกันทั่วโลก จึงให้ผลการประเมินที่เสถียรและน่าเชื่อถือ
ลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ที่ล้มเหลว
ด้วยความสามารถในการคัดเลือกเฉพาะตัวอ่อนที่มีคุณภาพสูงและมีศักยภาพในการฝังตัว ทำให้ลดโอกาสที่ตัวอ่อนจะฝังตัวไม่สำเร็จ หรือเกิดการแท้งในระยะเริ่มต้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มอัตราความสำเร็จในการทำ ICSI
นอกจากนี้ งานวิจัยหลายฉบับยังรายงานว่า การใช้ iDAScore ร่วมกับระบบ Embryoscope (ตู้เลี้ยงตัวอ่อนแบบพิเศษที่ใช้เทคโนโลยี Time-Lapse) สามารถช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จของการตั้งครรภ์ได้มากกว่า 10-20% เมื่อเทียบกับการคัดเลือกตัวอ่อนด้วยวิธีดั้งเดิม
การคัดเลือกเกรดคุณภาพตัวอ่อน เป็นหนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในกระบวนการทำ เด็กหลอดแก้ว ที่ไม่ควรมองข้าม ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เรานำเทคโนโลยี iDAScore อันทันสมัยมาใช้ในการคัดเลือกตัวอ่อน เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์และช่วยให้การทำ เด็กหลอดแก้วของคุณประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q : iDAScore แตกต่างจากการประเมินตัวอ่อนแบบเดิมอย่างไร ?
A : การให้คะแนนตัวอ่อนแบบดั้งเดิมอาศัยการประเมินด้วยสายตาของนักวิทยาศาสตร์ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามประสบการณ์ ขณะที่ iDAScore จะทำงานร่วมกับระบบ AI เพื่อวิเคราะห์จากภาพถ่ายต่อเนื่องของตัวอ่อน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำและเป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก
Q : หากใช้ iDAScore แล้ว จำเป็นต้องทำ PGT (ตรวจโครโมโซมตัวอ่อน) เพิ่มอีกหรือไม่ ?
A : ทั้งสองเทคโนโลยีมีวัตถุประสงค์ต่างกัน การใช้ iDAScore จะช่วยประเมินพัฒนาการและศักยภาพของตัวอ่อนจากภาพ Time-Lapse ส่วน PGT จะเป็นการตรวจความสมบูรณ์ของโครโมโซมในระดับพันธุกรรม การใช้ร่วมกันจะยิ่งเพิ่มความแม่นยำในการเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรง และลดความเสี่ยงของภาวะแท้งหรือความผิดปกติทางพันธุกรรม
Q : คนที่ทำ ICSI จำเป็นต้องใช้ iDAScore หรือไม่ ?
A : iDAScore เหมาะสำหรับผู้เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากทุกรายที่ทำ ICSI โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีตัวอ่อนหลายตัวและต้องการความมั่นใจสูงสุดในการเลือกตัวอ่อน อย่างไรก็ตาม แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาความเหมาะสมตามสภาพของผู้ป่วยแต่ละราย คุณสามารถปรึกษากับแพทย์ที่ VFC Center เพื่อขอคำแนะนำว่าเทคโนโลยีนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณหรือไม่
Q : การใช้ iDAScore จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้จริงหรือไม่ ?
A : การใช้เทคโนโลยี AI อย่าง iDAScore ในการคัดเลือกตัวอ่อนสามารถเพิ่มอัตราการฝังตัวและอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากระบบสามารถเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพและศักยภาพสูงสุดได้แม่นยำกว่าการประเมินด้วยวิธีดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ล้มเหลวและการแท้งบุตรด้วย
บทความโดย แพทย์ศรมน ทรงวีรธรรม
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.