การเดินทางของคุณแม่มือใหม่ที่เริ่มต้นจากความหวัง สู่อีกก้าวของความสำเร็จในการตั้งครรภ์
แม้ภาวะมีบุตรยากจะเป็นความท้าทายทางการแพทย์ แต่ด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ที่ล้ำหน้าในปัจจุบัน และการดูแลแบบเฉพาะทางจากทีมแพทย์ ก็สามารถเปลี่ยน “ความเป็นไปไม่ได้” ให้กลายเป็น “ความจริง” ได้
เรื่องราวของ “คุณพราวฟ้า” คือหนึ่งในตัวอย่างของความสำเร็จ ที่เกิดจากการวางแผนอย่างมีระบบ ตั้งแต่การกระตุ้นไข่ ตรวจคัดกรองตัวอ่อน ไปจนถึงการย้ายตัวอ่อน Euploid ที่ประสบผลสำเร็จ ภายใต้การดูแลของ นพ.วรวัฒน์ ศิริปุณย์ ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)
ก่อนเริ่มกระบวนการรักษา
คุณพราวฟ้าเคยตั้งครรภ์มาก่อน แต่ต้องยุติการตั้งครรภ์เมื่อต้นปี 2567 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ตัดสินใจเข้ารับการรักษาอย่างจริงจัง เพื่อวางแผนให้การตั้งครรภ์ครั้งต่อไปประสบความสำเร็จ
ก่อนเริ่มการกระตุ้นไข่ เธอได้เริ่มรับประทานวิตามินบำรุงล่วงหน้าเป็นเวลา 1 เดือน และดูแลสุขภาพด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ร่างกายแข็งแรงเต็มที่ และเพิ่มคุณภาพของฟองไข่
ปรึกษาเรื่องการกระตุ้นไข่ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)
เริ่มต้นการกระตุ้นไข่ : ก้าวแรกที่ต้องใส่ใจทุกรายละเอียด
คุณพราวฟ้าเริ่มเข้าสู่ขั้นตอนกระตุ้นไข่ ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ต้องอาศัยความแม่นยำและการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บไข่และสร้างตัวอ่อนคุณภาพสูงในภายหลัง
ผลลัพธ์ของการกระตุ้นไข่ในแต่ละขั้นตอนมีดังนี้
- ก่อนการกระตุ้น : ตรวจพบไข่ตั้งต้นจำนวน 12 ใบ
- หลังฉีดยากระตุ้น : ร่างกายตอบสนองดี จำนวนไข่เพิ่มขึ้นเป็น 15 ใบ
- วันเก็บไข่ : สามารถเก็บไข่ได้ทั้งหมด 13 ใบอย่างปลอดภัย
เมื่อเก็บไข่ได้แล้ว ทีมแพทย์จึงนำไข่ไปทำปฏิสนธิกับอสุจิภายในห้องปฏิบัติการ โดยเลี้ยงจนถึงระยะ Blastocyst ซึ่งเป็นระยะที่ตัวอ่อนมีศักยภาพสูงในการฝังตัวในโพรงมดลูก และสามารถพัฒนาต่อไปเป็นการตั้งครรภ์ได้ จากนั้นทีมแพทย์จะทำการคัดเลือกตัวอ่อนที่มีความสมบูรณ์ทางพันธุกรรมมากที่สุด ซึ่งเรียกว่า “ตัวอ่อน Euploid”
ตัวอ่อน Euploid คืออะไร ?
“Euploid” คือคำที่ใช้เรียกตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมปกติครบ 46 แท่ง ซึ่งเป็นโครโมโซมที่ควรมีในมนุษย์ หากตัวอ่อนมีจำนวนโครโมโซมเกินหรือน้อยกว่านี้ จะเรียกว่า “Aneuploid” ซึ่งมักนำไปสู่การฝังตัวไม่สำเร็จ แท้ง หรือความผิดปกติทางพันธุกรรม
ตัวอ่อน Euploid จึงถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สำเร็จและลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
ยืนยันคุณภาพตัวอ่อนด้วยการตรวจโครโมโซม
เพื่อลดความเสี่ยงของการฝังตัวอ่อนที่ผิดปกติ และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำเร็จ ทีมแพทย์แนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT-A) และพบว่าได้ตัวอ่อนที่ตรวจโครโมโซมผ่าน
การย้ายตัวอ่อน Euploid สู่การตั้งครรภ์
เมื่อถึงวันย้ายตัวอ่อน แพทย์เลือกย้ายตัวอ่อน Euploid ซึ่งมีความสมบูรณ์ทางโครโมโซมมากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสในการฝังตัวและตั้งครรภ์สำเร็จ
หลังจาก 7 วัน ของการย้ายตัวอ่อน แพทย์ได้ทำการเจาะเลือดเพื่อวัดค่าฮอร์โมนการตั้งครรภ์ (Beta-hCG) ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่เริ่มยืนยันได้ว่า มีการฝังตัวของตัวอ่อนเกิดขึ้นแล้ว
อีกไม่กี่วันถัดมา มีการตรวจค่า Beta-hCG ซ้ำอีกครั้ง ได้ค่าเพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นว่าการตั้งครรภ์กำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ทำไมการย้ายตัวอ่อน Euploid จึงสำคัญ ?
- ตัวอ่อน Euploid จะมีโครโมโซมที่สมบูรณ์ จึงช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแท้งในระยะแรก
- ตัวอ่อนคุณภาพดีสามารถฝังตัวได้ง่ายกว่า ช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จ
- เหมาะกับผู้ที่เคยแท้งหรือมีปัญหาภาวะมีบุตรยากมาก่อน
ยืนยันผลการตั้งครรภ์หลังย้ายตัวอ่อนและฝากครรภ์
ในช่วงอายุครรภ์ 8 สัปดาห์ คุณพราวฟ้าเริ่มมีอาการแพ้ท้องตามปกติ เช่น กินได้น้อย และอาเจียน ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีในแง่ของฮอร์โมนที่สูงขึ้นตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
จากนั้นคุณพราวฟ้าได้ตัดสินใจฝากครรภ์กับ อาจารย์จิตรนพิน ดุลยเกษม ที่โรงพยาบาลเวชธานี เพื่อให้การติดตามครรภ์ในระยะยาวเป็นไปอย่างราบรื่น
วางแผนการตั้งครรภ์กับทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเคสนี้
จากเคสของคุณพราวฟ้า เราได้เห็นภาพที่ชัดเจนว่า ความสำเร็จในการมีบุตรสำหรับผู้ที่ประสบภาวะมีบุตรยาก ไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นภายในวันเดียว แต่ต้องอาศัยทั้งเวลา ความอดทน และการวางแผนทางการแพทย์ที่รอบคอบและเหมาะสมกับแต่ละบุคคล
ความอดทนคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ
คุณพราวฟ้าต้องเผชิญกับประสบการณ์ที่ไม่คาดคิดจากการยุติการตั้งครรภ์ครั้งก่อน แต่เธอไม่ยอมแพ้ กลับมาเริ่มต้นใหม่ด้วยใจที่เข้มแข็ง พร้อมความหวังและเชื่อมั่นในทีมแพทย์ที่ดูแลอย่างต่อเนื่อง เคสนี้จึงแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความสำเร็จในการรักษาภาวะมีบุตรยาก มักเกิดขึ้นจากการเดินหน้าต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ
การเตรียมร่างกายก่อนกระตุ้นไข่เป็นขั้นตอนสำคัญ
การวางแผนอย่างมีระบบก่อนเข้าสู่กระบวนการกระตุ้นไข่ ไม่เพียงแค่เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง โดยการเตรียมร่างกายให้แข็งแรง การปรับสมดุลฮอร์โมน และการตรวจสุขภาพอย่างละเอียดก่อนเริ่มกระบวนการ ล้วนมีผลต่อคุณภาพของไข่ที่ได้ทั้งสิ้น
การเลือกตัวอ่อน Euploid ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ
อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของเคสนี้ คือการทำ PGT-A (Preimplantation Genetic Testing for Aneuploidy) เพื่อตรวจคัดกรองตัวอ่อนและเลือกเฉพาะตัวอ่อน Euploid ซึ่งเป็นตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมปกติสำหรับการย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ขั้นตอนนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการฝังตัวที่สำเร็จ ลดความเสี่ยงของการแท้ง และเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ที่สำเร็จได้อย่างชัดเจน
การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางคือรากฐานของการวางแผนที่ถูกต้อง
ความสำเร็จของคุณพราวฟ้าไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างผู้ป่วยและทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ที่ช่วยวางแผนเฉพาะบุคคล วิเคราะห์ผล ตรวจติดตามอย่างต่อเนื่อง และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละช่วงเวลาอย่างถูกต้อง
ความสำเร็จที่เกิดจากความตั้งใจและทีมแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
เรื่องราวของคุณพราวฟ้าคือแรงบันดาลใจสำหรับหลายคู่รักที่กำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการมีบุตร ด้วยการรักษาที่เหมาะสม การดูแลตัวเองอย่างสม่ำเสมอ และการร่วมมือกับทีมแพทย์ ไม่ว่าเส้นทางจะยากแค่ไหน ก็สามารถสัมฤทธิผลได้ในที่สุด
หากคุณกำลังวางแผนมีบุตร และกำลังมองหาศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากที่คุณสามารถไว้วางใจได้ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q : การกระตุ้นไข่คืออะไร ?
A : การกระตุ้นไข่ คือ การใช้ยากระตุ้นให้รังไข่ผลิตไข่มากกว่า 1 ฟองในรอบเดือน เพื่อให้ได้ไข่ที่สมบูรณ์และพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ ขั้นตอนนี้ช่วยเพิ่มโอกาสในการได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพสูง และเหมาะสำหรับการย้ายตัวอ่อนในภายหลัง
Q : Euploid Embryo คืออะไร และสำคัญอย่างไรในการตั้งครรภ์ ?
A : Euploid Embryo คือ ตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมปกติ ซึ่งถือเป็นตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุดและมีโอกาสฝังตัวสำเร็จสูงที่สุด การคัดเลือก Euploid Embryo ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแท้งและเพิ่มอัตราการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์
Q : การย้ายตัวอ่อน Euploid ต้องเตรียมตัวอย่างไร ?
A : ก่อนย้ายตัวอ่อน แพทย์จะประเมินเยื่อบุโพรงมดลูกว่ามีความหนาเหมาะสม (ประมาณ 8-12 มิลลิเมตร) เพื่อให้ตัวอ่อนสามารถฝังตัวได้ดี นอกจากนี้ แพทย์อาจพิจารณาให้ทานยาฮอร์โมนหรือวิตามินเสริม เพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมต่อการฝังตัวโ
Q : หลังย้ายตัวอ่อนแล้ว ค่าฮอร์โมน Beta-hCG บ่งบอกอะไร ?
A : ค่าฮอร์โมน Beta-hCG จะถูกตรวจจากเลือดหลังย้ายตัวอ่อนประมาณ 7-14 วัน หากค่าฮอร์โมนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แสดงว่าตัวอ่อนฝังตัวสำเร็จและมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นแล้ว
Q : การตั้งครรภ์หลังย้ายตัวอ่อนต้องดูแลอย่างไร ?
A : หลังย้ายตัวอ่อน ควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการออกแรงมาก งดการมีเพศสัมพันธ์ช่วงแรก และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด เมื่อยืนยันว่าตั้งครรภ์แล้ว ควรฝากครรภ์ต่อเนื่องกับสูตินรีแพทย์เพื่อดูแลพัฒนาการของทารกให้สมบูรณ์ปลอดภัยตลอดการตั้งครรภ์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.