การทำ IUI (Intrauterine Insemination) หรือ การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เบื้องต้นที่แพทย์มักแนะนำให้เลือกทำก่อนที่จะเข้าไปสู่กระบวนการอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่หลายคู่ที่พยายามทำ IUI หลายรอบแล้วยังไม่สำเร็จ อาจเริ่มเกิดคำถามว่า “ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ยังมีหวังอยู่ไหม ?”
บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำ IUI ไม่ได้ผล และแนวทางการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสให้ประสบความสำเร็จในรอบถัดไป หรือเปลี่ยนแนวทางที่เหมาะสมมากขึ้น
ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ เกิดจากอะไร ?
คุณภาพของอสุจิไม่ดี
แม้จะมีการคัดเชื้อแล้วก่อนฉีด แต่หากอสุจิของฝ่ายชายมีความผิดปกติ ทั้งในด้านจำนวน ความแข็งแรง หรือรูปร่าง ก็ส่งผลให้ไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ได้
ไข่ไม่ตก หรือคุณภาพไข่ต่ำ
หากฝ่ายหญิงมีภาวะไข่ไม่ตก (Anovulation), ไข่ไม่สมบูรณ์ หรือรอบเดือนแปรปรวน ก็ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ แม้จะมีการกระตุ้นไข่ก่อนทำ IUI ก็ตาม
เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสม
โดยปกติแล้วการฝังตัวของตัวอ่อนขึ้นอยู่กับความหนาและคุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก ดังนั้น หากฝ่ายหญิงมีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกบางเกินไป หรือมีความผิดปกติ ก็อาจทำให้การตั้งครรภ์ไม่เกิดขึ้น
การฉีดเชื้อไม่ตรงจังหวะ
การทำ IUI ต้องอาศัยความแม่นยำในช่วงตกไข่ หากฉีดเชื้อเร็วหรือช้าเกินไป อสุจิก็อาจไม่เจอไข่ที่เหมาะสม

ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ยังมีโอกาสสำเร็จหรือไม่ ?
แม้การทำ IUI จะมีโอกาสสำเร็จประมาณ 10-20% ต่อรอบ แต่หากทำเกิน 3 รอบแล้วยังไม่ติด แพทย์จะแนะนำให้ประเมินสุขภาพระบบสืบพันธุ์เพิ่มเติม เช่น
- ตรวจฮอร์โมนเจริญพันธุ์ (FSH, AMH, LH)
- ตรวจอัลตราซาวนด์ดูภาวะไข่ตก
- ตรวจโพรงมดลูกด้วย HSG หรือส่องกล้อง
โดยทั่วไปแล้ว หากคู่รักอายุน้อยกว่า 35 ปี อาจลองทำ IUI ได้ 3-4 รอบ แต่หากอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป และไม่สำเร็จใน 2 รอบแรก แพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาเปลี่ยนแนวทางการรักษา
ตรวจประเมินสุขภาพระบบสืบพันธุ์ที่ VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
วิธีเพิ่มโอกาสทำ IUI ให้ได้ผล
ตรวจหาสาเหตุเชิงลึกก่อนรอบใหม่
การทำ IUI ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าแค่ทำตามขั้นตอนอย่างเดียว แต่ต้องทำการประเมินและวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพของคู่รักแต่ละคนก่อน เช่น การตรวจฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น FSH, LH และ AMH เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของระบบการสืบพันธุ์ของฝ่ายหญิง รวมทั้งการตรวจโพรงมดลูกด้วยอัลตราซาวนด์หรือ HSG เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือภาวะที่อาจทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวได้หรือไม่ ซึ่งการตรวจหาสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้การทำ IUI ในรอบถัดไปมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น เพราะได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมและแม่นยำยิ่งขึ้น
ใช้ยากระตุ้นไข่เพื่อเพิ่มจำนวนไข่ที่ตก
การใช้ยากระตุ้นไข่เช่น Clomid หรือ ยาฉีด FSH (Follicle-Stimulating Hormone) ช่วยให้รังไข่สามารถสร้างไข่หลายใบในแต่ละรอบการตกไข่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การตกไข่มากกว่าหนึ่งใบสามารถเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ผ่านการทำ IUI ได้ เนื่องจากอสุจิจะสามารถพบไข่ได้มากขึ้น และมีโอกาสปฏิสนธิได้ดีขึ้น ทั้งนี้ การใช้ยากระตุ้นไข่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะการกระตุ้นไข่เกิน (OHSS)
ติดตามรอบไข่ตกอย่างแม่นยำ
การทราบวันตกไข่ที่แม่นยำ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ IUI ให้ประสบความสำเร็จ เพราะการฉีดเชื้อในช่วงเวลาที่ไข่ตก คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิสนธิ โดยการตรวจ LH surge (การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน LH ที่บ่งชี้ว่าไข่กำลังตก) หรือการตรวจอัลตราซาวนด์ร่วมกับการวัดอุณหภูมิร่างกาย (Basal Body Temperature) จะช่วยให้แพทย์กำหนดวันที่ฉีดเชื้อได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น
ดูแลสุขภาพองค์รวม
การดูแลสุขภาพโดยรวม มีผลต่อความสำเร็จของการทำ IUI มากกว่าที่หลายคนคิด แต่นอกจากการดูแลเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงความเครียด และควบคุมสภาวะทางอารมณ์ เพราะความเครียดสูงสามารถส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและการตกไข่ พร้อมกันนี้ ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพราะน้ำหนักที่มากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ อีกทั้งการนอนหลับที่เพียงพอก็มีความสำคัญในการรักษาระบบฮอร์โมนให้สมดุล และเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำ IUI ให้สำเร็จเช่นกัน

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนจากการทำ IUI เป็น ICSI ?
- ทำ IUI ติดต่อกันมากกว่า 3 ครั้ง และไม่สำเร็จ
- ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 37 ปี และคุณภาพไข่ลดลง
- ฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิ
- ท่อนำไข่อุดตัน หรือมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน
ในกรณีเหล่านี้ การทำ ICSI ซึ่งเป็นการฉีดอสุจิเข้าไข่โดยตรง จะเป็นตัวเลือกที่มีอัตราความสำเร็จสูงกว่าการทำ IUI
การทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ไม่ได้แปลว่า “ไม่มีโอกาสมีลูก” เพราะสิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ โดยมีแพทย์ที่เข้าใจทุกแง่มุมของภาวะมีบุตรยากเป็นผู้ดูแล
ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เราเข้าใจดีว่า การทำ IUI แล้วไม่ติดหลายรอบ อาจสร้างความกังวลให้กับคู่รัก แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ของเราพร้อมช่วยวิเคราะห์ทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนแนวทางที่เหมาะสมที่สุดเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล
บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q : การทำ IUI คืออะไร ?
A : การทำ IUI (Intrauterine Insemination) คือ เทคนิคการปฏิสนธิที่แพทย์จะฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านการคัดกรองและล้างแล้วเข้าไปในโพรงมดลูกในช่วงที่ไข่ตก
Q : ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ มีโอกาสสำเร็จไหม ?
A : แม้การทำ IUI ไม่ติดหลายรอบก็ยังมีโอกาสสำเร็จอยู่ แต่คู่รักที่ทำหลายรอบแล้วไม่สำเร็จ ควรพิจารณาการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เช่น การตรวจฮอร์โมน การตรวจโพรงมดลูก และการตรวจภาวะไข่ตก ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การทำ ICSI
Q : IUI ใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัวหลังการทำ ?
A : โดยทั่วไป หลังจากทำ IUI ผู้หญิงจะสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจากการฉีดเชื้อ และการฟื้นตัวจะใช้เวลาระยะสั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะไม่มีผลข้างเคียงมากมาย แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักในวันนั้น และควรติดตามผลตรวจการตั้งครรภ์ตามเวลาที่แพทย์แนะนำ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.