เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ยังมีโอกาสสำเร็จไหม ?

คู่รักกังวลกับการทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ

การทำ IUI (Intrauterine Insemination) หรือ การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เบื้องต้นที่แพทย์มักแนะนำให้เลือกทำก่อนที่จะเข้าไปสู่กระบวนการอื่น ๆ ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่หลายคู่ที่พยายามทำ IUI หลายรอบแล้วยังไม่สำเร็จ อาจเริ่มเกิดคำถามว่า ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ยังมีหวังอยู่ไหม ?”

บทความนี้จะพาคุณมาทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่ทำ IUI ไม่ได้ผล และแนวทางการรักษาเพื่อเพิ่มโอกาสให้ประสบความสำเร็จในรอบถัดไป หรือเปลี่ยนแนวทางที่เหมาะสมมากขึ้น

ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ เกิดจากอะไร ?

คุณภาพของอสุจิไม่ดี

แม้จะมีการคัดเชื้อแล้วก่อนฉีด แต่หากอสุจิของฝ่ายชายมีความผิดปกติ ทั้งในด้านจำนวน ความแข็งแรง หรือรูปร่าง ก็ส่งผลให้ไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ได้

ไข่ไม่ตก หรือคุณภาพไข่ต่ำ

หากฝ่ายหญิงมีภาวะไข่ไม่ตก (Anovulation), ไข่ไม่สมบูรณ์ หรือรอบเดือนแปรปรวน ก็ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ แม้จะมีการกระตุ้นไข่ก่อนทำ IUI ก็ตาม

เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะสม

โดยปกติแล้วการฝังตัวของตัวอ่อนขึ้นอยู่กับความหนาและคุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูก ดังนั้น หากฝ่ายหญิงมีปัญหาเยื่อบุโพรงมดลูกบางเกินไป หรือมีความผิดปกติ ก็อาจทำให้การตั้งครรภ์ไม่เกิดขึ้น

การฉีดเชื้อไม่ตรงจังหวะ

การทำ IUI ต้องอาศัยความแม่นยำในช่วงตกไข่ หากฉีดเชื้อเร็วหรือช้าเกินไป อสุจิก็อาจไม่เจอไข่ที่เหมาะสม

Infographic เกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ

ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ยังมีโอกาสสำเร็จหรือไม่ ?

แม้การทำ IUI จะมีโอกาสสำเร็จประมาณ 10-20% ต่อรอบ แต่หากทำเกิน 3 รอบแล้วยังไม่ติด แพทย์จะแนะนำให้ประเมินสุขภาพระบบสืบพันธุ์เพิ่มเติม เช่น

  • ตรวจฮอร์โมนเจริญพันธุ์ (FSH, AMH, LH)
  • ตรวจอัลตราซาวนด์ดูภาวะไข่ตก
  • ตรวจโพรงมดลูกด้วย HSG หรือส่องกล้อง

โดยทั่วไปแล้ว หากคู่รักอายุน้อยกว่า 35 ปี อาจลองทำ IUI ได้ 3-4 รอบ แต่หากอายุเกิน 35 ปีขึ้นไป และไม่สำเร็จใน 2 รอบแรก แพทย์อาจแนะนำให้พิจารณาเปลี่ยนแนวทางการรักษา

ตรวจประเมินสุขภาพระบบสืบพันธุ์ที่ VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

วิธีเพิ่มโอกาสทำ IUI ให้ได้ผล

ตรวจหาสาเหตุเชิงลึกก่อนรอบใหม่

การทำ IUI ให้ประสบความสำเร็จ ไม่ได้หมายความว่าแค่ทำตามขั้นตอนอย่างเดียว แต่ต้องทำการประเมินและวิเคราะห์อย่างละเอียดเกี่ยวกับสุขภาพของคู่รักแต่ละคนก่อน เช่น การตรวจฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น FSH, LH และ AMH เพื่อประเมินความสมบูรณ์ของระบบการสืบพันธุ์ของฝ่ายหญิง รวมทั้งการตรวจโพรงมดลูกด้วยอัลตราซาวนด์หรือ HSG เพื่อดูว่ามีความผิดปกติหรือภาวะที่อาจทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวได้หรือไม่ ซึ่งการตรวจหาสาเหตุเหล่านี้จะช่วยให้การทำ IUI ในรอบถัดไปมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น เพราะได้แนวทางการรักษาที่เหมาะสมและแม่นยำยิ่งขึ้น

ใช้ยากระตุ้นไข่เพื่อเพิ่มจำนวนไข่ที่ตก

การใช้ยากระตุ้นไข่เช่น Clomid หรือ ยาฉีด FSH (Follicle-Stimulating Hormone) ช่วยให้รังไข่สามารถสร้างไข่หลายใบในแต่ละรอบการตกไข่ ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว การตกไข่มากกว่าหนึ่งใบสามารถเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ผ่านการทำ IUI ได้ เนื่องจากอสุจิจะสามารถพบไข่ได้มากขึ้น และมีโอกาสปฏิสนธิได้ดีขึ้น ทั้งนี้ การใช้ยากระตุ้นไข่ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ เพื่อไม่ให้เกิดผลข้างเคียงหรือภาวะการกระตุ้นไข่เกิน (OHSS)

ติดตามรอบไข่ตกอย่างแม่นยำ

การทราบวันตกไข่ที่แม่นยำ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการทำ IUI ให้ประสบความสำเร็จ เพราะการฉีดเชื้อในช่วงเวลาที่ไข่ตก คือช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิสนธิ โดยการตรวจ LH surge (การเพิ่มขึ้นของฮอร์โมน LH ที่บ่งชี้ว่าไข่กำลังตก) หรือการตรวจอัลตราซาวนด์ร่วมกับการวัดอุณหภูมิร่างกาย (Basal Body Temperature) จะช่วยให้แพทย์กำหนดวันที่ฉีดเชื้อได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น

ดูแลสุขภาพองค์รวม

การดูแลสุขภาพโดยรวม มีผลต่อความสำเร็จของการทำ IUI มากกว่าที่หลายคนคิด แต่นอกจากการดูแลเรื่องการกินอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังควรหลีกเลี่ยงความเครียด และควบคุมสภาวะทางอารมณ์ เพราะความเครียดสูงสามารถส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและการตกไข่ พร้อมกันนี้ ควรหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม เพราะน้ำหนักที่มากหรือน้อยเกินไปอาจส่งผลต่อความสามารถในการตั้งครรภ์ อีกทั้งการนอนหลับที่เพียงพอก็มีความสำคัญในการรักษาระบบฮอร์โมนให้สมดุล และเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำ IUI ให้สำเร็จเช่นกัน

คู่รักกำลังคิดหาวิธีเพิ่มโอกาสทำ IUI ให้ได้ผล

เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนจากการทำ IUI เป็น ICSI ?

  • ทำ IUI ติดต่อกันมากกว่า 3 ครั้ง และไม่สำเร็จ
  • ฝ่ายหญิงอายุมากกว่า 37 ปี และคุณภาพไข่ลดลง
  • ฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิ
  • ท่อนำไข่อุดตัน หรือมีพังผืดในอุ้งเชิงกราน

ในกรณีเหล่านี้ การทำ ICSI ซึ่งเป็นการฉีดอสุจิเข้าไข่โดยตรง จะเป็นตัวเลือกที่มีอัตราความสำเร็จสูงกว่าการทำ IUI

การทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ ไม่ได้แปลว่า “ไม่มีโอกาสมีลูก” เพราะสิ่งสำคัญคือการวิเคราะห์หาสาเหตุที่แท้จริง และเลือกแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ โดยมีแพทย์ที่เข้าใจทุกแง่มุมของภาวะมีบุตรยากเป็นผู้ดูแล

ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เราเข้าใจดีว่า การทำ IUI แล้วไม่ติดหลายรอบ อาจสร้างความกังวลให้กับคู่รัก แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ของเราพร้อมช่วยวิเคราะห์ทุกปัจจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางแผนแนวทางที่เหมาะสมที่สุดเฉพาะสำหรับแต่ละบุคคล

บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q : การทำ IUI คืออะไร ?

A : การทำ IUI (Intrauterine Insemination) คือ เทคนิคการปฏิสนธิที่แพทย์จะฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านการคัดกรองและล้างแล้วเข้าไปในโพรงมดลูกในช่วงที่ไข่ตก

Q : ทำ IUI ไม่ติดหลายรอบ มีโอกาสสำเร็จไหม ?

A : แม้การทำ IUI ไม่ติดหลายรอบก็ยังมีโอกาสสำเร็จอยู่ แต่คู่รักที่ทำหลายรอบแล้วไม่สำเร็จ ควรพิจารณาการตรวจสุขภาพเพิ่มเติม เช่น การตรวจฮอร์โมน การตรวจโพรงมดลูก และการตรวจภาวะไข่ตก ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกใช้วิธีอื่น ๆ เช่น การทำ ICSI

Q : IUI ใช้เวลานานแค่ไหนในการฟื้นตัวหลังการทำ ?

A : โดยทั่วไป หลังจากทำ IUI ผู้หญิงจะสามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังจากการฉีดเชื้อ และการฟื้นตัวจะใช้เวลาระยะสั้นประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพราะไม่มีผลข้างเคียงมากมาย แต่ควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมหนักในวันนั้น และควรติดตามผลตรวจการตั้งครรภ์ตามเวลาที่แพทย์แนะนำ

 

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.