เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

แนะนำเคล็ดลับ กินเจอย่างไร ไม่กระทบต่อการวางแผนตั้งครรภ์

อาหารที่คนนิยมรับประทานในช่วงเทศกาลกินเจ

Table of Contents

การรับประทานอาหารเจเป็นทางเลือกในการทำบุญและดูแลสุขภาพที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลกินเจ ซึ่งมักจะมีการจำกัดการบริโภคเนื้อสัตว์และเน้นการรับประทานผัก ผลไม้ และธัญพืชแทน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่วางแผนมีบุตร การรับประทานอาหารเจต้องได้รับการวางแผนอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ความสามารถในการมีบุตร และการวางแผนตั้งครรภ์

เคล็ดลับการวางแผนกินเจให้ไม่เสี่ยงตั้งครรภ์ยาก

การกินเจคืออะไร ต้องงดเว้นอะไรบ้าง?

เทศกาลกินเจ เป็นเทศกาลที่ผู้เข้าร่วมต้องบริโภคอาหารที่มาจากผักและไม่มีของคาวผสมเท่านั้น โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีนทุกปี ซึ่งจะตรงกับเดือนตุลาคมของไทยเป็นเวลา 9 วัน

คำว่า “เจ” ในภาษาจีนมีความหมายเดียวกับ “อุโบสถ” ซึ่งในศาสนาพุทธนิกายมหายาน หมายถึงการถือศีลและกินอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับการรักษาศีล 8 ของชาวพุทธในไทยที่ไม่รับประทานอาหารหลังเที่ยงวัน แต่การกินเจในปัจจุบันไม่ได้หมายถึงแค่การงดเว้นเนื้อสัตว์เท่านั้น ยังรวมถึงการรักษาศีลและการดำรงชีวิตอย่างบริสุทธิ์และสะอาดทั้งกาย วาจา ใจด้วย

ผู้ที่เข้าร่วมจะงดการบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น น้ำมันหมู เครื่องในสัตว์ น้ำปลา นม เนย รวมถึงหลีกเลี่ยงการบริโภคกระเทียม หัวหอม และเครื่องเทศบางชนิดที่บางวัดถือว่าเป็น “มลทิน” ซึ่งเชื่อว่าอาจขัดขวางการรักษาศีลและทำให้ไม่สะอาดทางจิตใจ

การกินเจจึงไม่ได้เป็นเพียงการควบคุมอาหาร แต่เป็นการล้างสารพิษในร่างกายและการเสริมสร้างจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ สอดคล้องกับการทำบุญและการสร้างความเป็นสิริมงคลในชีวิตประจำวัน

สิ่งที่คนกินเจต้องงดเว้น

  • งดเว้นการบริโภคอาหารและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด
  • งดเว้นการบริโภคผักกลิ่นฉุน 5 อย่าง ได้แก่
    • กระเทียม ทั้งหัวและต้นกระเทียม
    • หัวหอมทุกชนิด ประกอบด้วย หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ ต้นหอม ใบหอม
    • หลักเกียว
    • กุยช่าย
    • ใบยาสูบ
  • งดเว้นจากบุหรี่ สารเสพติด ของมึนเมาทุกชนิด
  • งดเว้นการทำผิดศีล เช่น การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การกล่าวว่าร้าย การนินทา การพูดเท็จ
  • งดเว้นจากความคิดไม่ดี ความโกรธ และสิ่งที่ทำให้จิตใจขุ่นมัว
  • งดเว้นจากการใช้ภาชนะและอุปกรณ์ประกอบอาหารร่วมกับอาหารปกติ

ข้อดีของการกินเจ

  • ลดไขมันในเลือด ความดันโลหิต และความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจจากการกินอาหารไขมันต่ำ
  • ได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากผักและผลไม้หลายชนิด จึงช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง
  • ผักและธัญพืชมีไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย
  • เป็นการปฏิบัติตามศีลธรรม รักษาความสะอาดทั้งกาย วาจา ใจ ทำให้จิตใจสงบและบริสุทธิ์

กินเจกับกินมังสวิรัติต่างกันอย่างไร?

การกินเจ เป็นการงดเว้นอาหารที่มาจากสัตว์และบางชนิดของพืชตามความเชื่อทางศาสนา ส่วนการกินมังสวิรัติ คือการงดเว้นเนื้อสัตว์เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถรับประทานผักกลิ่นฉุน เครื่องเทศและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ เช่น ไข่ นม เนย ชีส ได้ตามปกติ

ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการกินเจ

การกินเจทำให้ขาดสารอาหาร โดยเฉพาะโปรตีน

ไม่จริง เพราะแม้ว่าการกินเจจะต้องงดเว้นเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แต่ยังสามารถรับโปรตีนจากแหล่งอื่น ๆ ได้ เช่น ถั่วเหลือง ถั่วเมล็ดแห้ง เต้าหู้ และธัญพืชต่าง ๆ หากวางแผนการรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม จะไม่เกิดภาวะขาดสารอาหารอย่างแน่นอน

กินเจช่วยลดน้ำหนักได้ เนื่องจากอาหารเจทุกเมนูเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ไม่จริง เพราะอาหารเจบางชนิดอาจมีปริมาณน้ำตาลและไขมันสูง โดยเฉพาะอาหารผัด อาหารทอด และของหวาน ดังนั้นควรเลือกบริโภคอาหารเจที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว

การกินเจเป็นการให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว

ไม่จริง เพราะการกินเจไม่ใช่แค่การหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์เท่านั้น แต่ยังหมายถึงการงดเว้นอาหารบางชนิดเพื่อการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจ ควบคู่กับการปฏิบัติตามหลักศีลธรรม ช่วยฝึกจิตใจให้สงบ เสริมสร้างสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจอย่างยั่งยืน

หญิงตั้งครรภ์กินเจโดยวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อไม่ให้กระทบกับสุขภาพและการตั้งครรภ์

เคล็ดลับกินเจให้ดีต่อสุขภาพ ไม่กระทบกับการวางแผนมีบุตร

เทศกาลเจมีประโยชน์หลายด้านก็จริง แต่หากคุณกำลังวางแผนมีบุตร การเลือกอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันภาวะตั้งครรภ์ยาก โดยสามารถปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องกันได้ตามแนวทางเหล่านี้

1. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอและหลากหลาย

อาหารเจไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนหลัก การเลือกโปรตีนจากพืช เช่น ถั่ว ธัญพืช และโปรตีนจากพืชชนิดอื่น ๆ ให้หลากหลาย จะช่วยให้ร่างกายได้รับกรดอะมิโนที่จำเป็นครบถ้วน ลดความเสี่ยงตั้งครรภ์ยากได้ แต่ในทางกลับกันหากกินเจแบบเคร่งครัดเกินไปจนไม่มีความสมดุล อาจเพิ่มความเสี่ยง เพราะอาจทำให้น้ำหนักตัวต่ำเกินไป ก่อให้เกิดภาวะไข่ไม่ตกได้เช่นกัน

2. รับประทานวิตามินเสริมตามคำแนะนำของแพทย์

ผู้ที่กินเจควรเสริมอาหารที่มีธาตุเหล็ก วิตามินบี12 และกรดโฟลิกให้เพียงพอ เพราะสารเหล่านี้มีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์และการพัฒนาของทารก โดยกรดโฟลิกช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารก วิตามินบี 12 ช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และธาตุเหล็กจำเป็นในการป้องกันภาวะโลหิตจางของแม่

3. งดอาหารทอด ไขมันสูง ควบคุมปริมาณคาร์โบไฮเดรตให้เหมาะสม

อาหารไขมันสูงทำให้ร่างกายได้รับแคลอรีส่วนเกินและเพิ่มความเสี่ยงโรคอ้วน ส่งผลกระทบต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์และการตกไข่ ส่งผลให้มีลูกยาก ในการวางแผนตั้งครรภ์ จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวและน้ำมันพืชที่ผ่านการแปรรูป รวมทั้งควบคุมคาร์โบไฮเดรตเพื่อป้องกันภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

4. ปรึกษากับสูตินรีแพทย์และนักโภชนาการอย่างใกล้ชิด

หากจำเป็นต้องกินเจก่อนและระหว่างตั้งครรภ์ ควรรับคำแนะนำจากสูตินรีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าร่างกายจะได้รับสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน โดยเฉพาะสารอาหารที่สำคัญ เช่น โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ เพื่อสุขภาพของทั้งแม่และลูก

ปรึกษากับสูตินรีแพทย์เพื่อวางแผนโภชนาการที่ดีก่อนตั้งครรภ์

กินเจไม่ได้ทำให้ตั้งครรภ์ยาก หากจัดอาหารและเสริมด้วยวิตามินอย่างเพียงพอ

โดยสรุป การกินเจไม่ได้ส่งผลให้มีลูกยากโดยตรงอย่างที่หลายคนกังวล เพียงแต่ต้องวางแผนการรับประทานอาหารและได้รับวิตามินที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอตามแนวทางดังนี้

  • เน้นการรับประทานอาหารและอาหารเสริมให้สอดคล้องกับโภชนาการที่จำเป็น ได้แก่
    • โปรตีนคุณภาพจากถั่วเหลืองและธัญพืชชนิดต่าง ๆ 
    • ธาตุเหล็กจากผักใบเขียวเข้มและถั่วเลนทิล
    • สังกะสีจากเมล็ดฟักทองและธัญพืชไม่ขัดสี
    • โอเมก้า 3 จากวอลนัทและเมล็ดแฟลกซ์
    • วิตามินบี 12 ในรูปแบบของอาหารเสริม
    • วิตามินดีจากแสงแดดและอาหารเสริม
  • ควรรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน BMI อยู่ที่ 18.5-23 kg/m2
  • หลีกเลี่ยงอาหารประเภทของทอด แป้ง และน้ำตาลสูง
  • จัดสมดุลโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมันให้เหมาะสมในทุกมื้ออาหาร

  สำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนมีบุตร และต้องการรู้ว่า อยากท้องต้องกินอะไรเพื่อให้กระบวนการตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น สามารถเข้ามารับคำปรึกษาการมีบุตรและวางแผนร่วมกับสูตินรีแพทย์ประสบการณ์สูงได้ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรายินดีให้คำแนะนำด้านการเตรียมตัวตั้งครรภ์อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหาร การดูแลสุขภาพกาย การดูแลสุขภาพใจ หรือการเตรียมพร้อมในด้านอื่น ๆ พร้อมอยู่เคียงข้างคุณจนกระทั่งประสบความสำเร็จในการมีบุตร

 

บทความโดย แพทย์หญิงนันท์นภัส ปโรสิยานนท์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

A doctor will tell you the treatments for a blighted ovum

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.