เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

เคล็ดลับนับวันตกไข่ ปฏิทินเจริญพันธุ์เพิ่มโอกาสมีลูกอย่างไร?

ปฏิทินเจริญพันธุ์และวิธีนับวันตกไข่ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการมีบุตร

Table of Contents

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางคู่รักพยายามมีบุตรมานานแต่ยังไม่สำเร็จ ทั้งที่ดูแลตัวเองอย่างดี หนึ่งในคำตอบสำคัญที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จได้ อาจอยู่ที่การรู้จัก “วันตกไข่” ของตัวเอง เพราะวันตกไข่คือช่วงเวลาที่ร่างกายพร้อมที่สุดสำหรับการตั้งครรภ์ อีกทั้งการนับวันตกไข่อย่างถูกวิธียังเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับปฏิทินเจริญพันธุ์และวิธีนับวันตกไข่อย่างง่าย เพื่อให้คุณและคนที่คุณรักสามารถวางแผนมีลูกได้อย่างมั่นใจและเหมาะสมมากขึ้น

ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับวันตกไข่

วันตกไข่คืออะไร?

วันตกไข่หมายถึงช่วงเวลาที่รังไข่ปล่อยไข่ที่สุกแล้วออกมาจากรังไข่เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิสนธิ โดยในแต่ละรอบประจำเดือน ผู้หญิงจะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้ง และโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นในช่วงกลางของรอบเดือน ไข่ที่ถูกปลดปล่อยออกมาจะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง หากไม่มีการปฏิสนธิจะถูกขจัดออกจากร่างกายในรูปแบบของประจำเดือน 

รอบประจำเดือนและช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการตั้งครรภ์

วงจรประจำเดือนปกติของผู้หญิงจะมีความยาวประมาณ 21-35 วัน โดยเฉลี่ยคือ 28 วัน ซึ่งการตกไข่มักเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 12-16 ของรอบประจำเดือน หรือประมาณ 14 วันก่อนประจำเดือนครั้งต่อไป 

สำหรับช่วงเวลาที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุดจะอยู่ในช่วง 3 วันก่อนมีประจำเดือน และ 1 วันหลังจากการตกไข่ เนื่องจากสเปิร์มสามารถมีชีวิตอยู่ในร่างกายผู้หญิงได้ประมาณ 3-5 วัน

สัญญาณและอาการบอกการตกไข่

  • มีมูกตกขาวใส เหนียวคล้ายไข่ขาวดิบ
  • รู้สึกปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
  • มีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นเล็กน้อยหลังไข่ตก
  • อารมณ์และความต้องการทางเพศอาจเปลี่ยนแปลง

ปฏิทินเจริญพันธุ์ (Fertility Calendar) เครื่องมือสำคัญของคนอยากมีลูก

ปฏิทินเจริญพันธุ์คืออะไร และมีข้อดีอย่างไร?

ปฏิทินเจริญพันธุ์คือวิธีที่ใช้บันทึกวันแรกของประจำเดือนแต่ละรอบ และช่วยคำนวณช่วงที่มีโอกาสตกไข่ ด้วยการใช้ข้อมูลรอบเดือนย้อนหลัง เพื่อคาดการณ์วันตกไข่ในรอบถัดไป

ปฏิทินนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจรูปแบบของรอบประจำเดือนของตัวเอง ทั้งยังช่วยให้วางแผนมีลูกได้อย่างเหมาะสม อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลไปปรึกษากับแพทย์เมื่อจำเป็น

ข้อดี:

  • นับวันได้ง่าย เหมาะกับทุกคน
  • ควบคุมและวางแผนมีลูกได้อย่างเป็นระบบ
  • รู้จักร่างกายตัวเองมากขึ้น

วิธีใช้ปฏิทินเพื่อวางแผนวันตกไข่

การใช้ปฏิทินนับวันไข่ตกเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการบันทึกวันแรกของประจำเดือนเป็นวันที่ 1 ของรอบ จากนั้นติดตามและบันทึกความยาวของรอบประจำเดือนต่อเนื่องอย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อหาความยาวเฉลี่ยของรอบ เมื่อทราบความยาวของรอบแล้ว จะสามารถนับวันไข่ตกได้โดยนับถอยหลัง 14 วันจากวันที่คาดว่าประจำเดือนจะมาครั้งต่อไป เช่น 

  • หากรอบเดือนปกติ อยู่ในช่วง 28 วัน วันตกไข่น่าจะอยู่ระหว่างวันที่ 12-14 ให้นับจากวันแรกของรอบเดือน
  • สมมุติประจำเดือนมาวันที่ 1 วันที่ 13-15 ของรอบเดือน ถือเป็นช่วงตกไข่

แนวทางการบันทึกปฏิทินเจริญพันธุ์?

ในปฏิทินควรบันทึกข้อมูลดังนี้

  • วันที่ประจำเดือนมาและหยุด 
  • ลักษณะของเมือกปากมดลูก 
  • อุณหภูมิร่างกายในแต่ละวัน 
  • อาการปวดท้องหรือความรู้สึกผิดปกติ 
  • ช่วงเวลาที่มีเพศสัมพันธ์ 

การบันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้เห็นรูปแบบที่ชัดเจนของรอบประจำเดือน และสามารถนับวันไข่ตกได้แม่นยำขึ้น

วิธีนับวันไข่ตกแบบมาตรฐาน (สูตรคำนวณวันตกไข่)

สูตรนับวันไข่ตกแบบง่าย ๆ และช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูงสุด

สูตรนับวันไข่ตกแบบง่าย ๆ

สูตรการคำนวณวันตกไข่แบบมาตรฐานคือ ความยาวของรอบประจำเดือน ลบด้วย 14 วัน เช่น 

  • หากรอบประจำเดือนยาว 28 วัน การตกไข่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 (28-14=14) 
  • หากรอบยาว 30 วัน การตกไข่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 (30-14=16) 

วิธีนี้จะให้ความแม่นยำมากขึ้นหากคุณมีรอบประจำเดือนที่สม่ำเสมอ

แอปพลิเคชันช่วยนับวันไข่ตก

ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ช่วยในการติดตามรอบประจำเดือนและคำนวณวันตกไข่ เช่น Clue, Flo, Period Tracker และ Fertility Friend แอปเหล่านี้จะช่วยบันทึกข้อมูล คำนวณวันตกไข่อัตโนมัติ และแจ้งเตือนช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ

ปัจจัยที่มีผลต่อการตกไข่และโอกาสตั้งครรภ์

สุขภาพกายและใจที่ดีช่วยให้ตกไข่สม่ำเสมอ

สุขภาพร่างกายและจิตใจเป็นพื้นฐานสำคัญของการตกไข่ที่สม่ำเสมอ รวมถึงการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่ การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการนอนหลับที่เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จะช่วยให้ระบบฮอร์โมนทำงานได้ตามปกติ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงความเครียด เนื่องจากมีผลกระทบโดยตรงต่อการตกไข่ เพราะสามารถไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนได้

อายุ

เรื่องอายุเป็นปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะโดยทั่วไปหลังอายุ 35 ปี คุณภาพและจำนวนไข่จะลดลงตามธรรมชาติ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลงและเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ดังนั้นหากวางแผนมีบุตร ควรเริ่มต้นก่อนอายุ 35 ปี เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จ

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่เราสามารถควบคุมและปรับเปลี่ยนได้ พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงในการวางแผนมีลูกได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป การนอนดึกประจำ และการใช้ยาบางชนิดที่อาจรบกวนการตกไข่ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมีนัยสำคัญ

น้ำหนักตัวและฮอร์โมน

น้ำหนักตัวที่เหมาะสมก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะน้ำหนักที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไปสามารถส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนและการตกไข่ได้ สำหรับค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ที่เหมาะสมควรอยู่ในช่วง 18.5-24.9 ก็จะช่วยให้การตกไข่เป็นไปอย่างปกติ 

โรคต่าง ๆ

โรคต่าง ๆ เช่น กลุ่มอาการซีสต์รังไข่ โรคไทรอยด์ และเบาหวานก็สามารถส่งผลกระทบต่อการตกไข่ได้เช่นกัน ดังนั้น การตรวจสุขภาพก่อนวางแผนมีลูกจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

คู่รักปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำสำหรับผู้วางแผนมีลูก

เคล็ดลับและคำแนะนำสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนมีลูก

ควรเตรียมตัวก่อนการตั้งครรภ์อย่างไรดี?

การเตรียมร่างกายก่อนตั้งครรภ์ควรเริ่มต้นอย่างน้อย 3 เดือนก่อนการวางแผนมีลูก ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานกรดโฟลิกในปริมาณ 400-800 ไมโครกรัมต่อวัน เพื่อป้องกันความผิดปกติของระบบประสาท การตรวจสุขภาพก่อนการตั้งครรภ์ เช่น การตรวจเลือด การฉีดวัคซีน รวมถึงการปรับปรุงพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม

ดูแลสุขภาพในช่วงที่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์

ในช่วงที่คาดว่าเป็นวันตกไข่ ควรให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารที่มีโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุครบถ้วน โดยหลีกเลี่ยงความเครียด และมีเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่เหมาะสมหรือทุก 2-3 วันในช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูง ควบคู่ไปกับการนอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน เพื่อช่วยให้การทำงานของระบบฮอร์โมนมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น 

เมื่อไหร่ควรไปหาหมอ?

หากพยายามมีบุตรมาแล้วเกิน 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับอายุ) แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หรือมีรอบประจำเดือนผิดปกติ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทางเพื่อตรวจหาสาเหตุและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม แพทย์อาจแนะนำการตรวจระดับฮอร์โมน การตรวจอัลตราซาวนด์ หรือการตรวจอื่น ๆ ที่จำเป็น

การดูแลสุขภาพและติดตามวันตกไข่อย่างถูกต้องเป็นกุญแจสำคัญในการเตรียมความพร้อมสำหรับการมีบุตร เพราะการวางแผนและใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้มากยิ่งขึ้น สำหรับคู่รักที่ต้องการเตรียมตัวสู่การมีลูกน้อยในอนาคต การฝากไข่เยือกแข็งก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรพิจารณา เพื่อรักษาคุณภาพไข่ในช่วงอายุที่เหมาะสม ทั้งยังช่วยให้คู่รักมีลูกได้ง่ายขึ้นในวันที่พร้อมที่สุด 

หากคุณกำลังมองหาศูนย์ที่เชี่ยวชาญด้านการวางแผนมีบุตรที่มีบริการฝากไข่ และการทำ IVF/ICSI  ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เราพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาในการเตรียมร่างกายก่อนตั้งครรภ์ รวมถึงการฝากไข่เพื่อเตรียมตัวมีบุตรในอนาคต เพื่อช่วยให้คุณวางแผนการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย และมั่นใจสำหรับการเป็นพ่อแม่ในอนาคต

 

บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.