
จริงหรือไม่ ? ว่าแค่พกมือถือไว้ในกระเป๋ากางเกงทุกวัน อาจกำลังทำร้าย “คุณภาพอสุจิ” โดยไม่รู้ตัว หลายคนอาจคิดว่ามือถือเป็นเพียงอุปกรณ์สื่อสาร แต่ในความเป็นจริง มือถือสามารถปล่อยทั้งความร้อนและคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (RF‑EMF) ที่อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหว จำนวน รวมถึงความสมบูรณ์ของอสุจิ แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่นักวิจัยต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่การรู้ถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จะช่วยให้เรารู้วิธีหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อคุณภาพของอสุจิ โดยเฉพาะผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตรให้ประสบความสำเร็จในอนาคต
ผลกระทบของคลื่นความร้อนจากมือถือ
โทรศัพท์มือถือสร้างความร้อนขณะใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเปิดแอปพลิเคชันหนัก หรือใช้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน ซึ่งหากอยู่ใกล้ถุงอัณฑะโดยตรงก็อาจส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้ชายได้ เนื่องจากอัณฑะต้องการอุณหภูมิที่ต่ำกว่าร่างกายประมาณ 2-4 องศาเซลเซียส เพื่อให้กระบวนการสร้างอสุจิทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
กระบวนการสร้างอสุจิทำงานผิดปกติ
อัณฑะเป็นอวัยวะที่ไวต่ออุณหภูมิ หากคลื่นความร้อนจากมือถือทำให้อุณหภูมิถุงอัณฑะสูงขึ้น เซลล์เซอร์โตลีและเซลล์ต้นกำเนิดอสุจิ ซึ่งทำหน้าที่สร้างอสุจิ จะทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้จำนวนอสุจิลดลงและอาจมีรูปร่างผิดปกติ เช่น หัวไม่สมบูรณ์ หรือหางผิดรูป
ความเคลื่อนไหวของอสุจิลดลง
อสุจิที่เคลื่อนไหวช้า หรือจำนวนไม่เพียงพอ มีผลโดยตรงต่อความสามารถในการปฏิสนธิ เนื่องจากอสุจิจำเป็นต้องเคลื่อนตัวไปที่ไข่ของเพศหญิงเพื่อทำการปฏิสนธิ การที่อุณหภูมิถุงอัณฑะสูงขึ้นเป็นเวลานาน จะทำให้อสุจิเคลื่อนไหวไม่เต็มที่ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง
ผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (RF‑EMF)
คลื่น RF‑EMF (Radio Frequency Electromagnetic Field) คือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่วิทยุที่มือถือใช้ในการสื่อสารข้อมูล เช่น การโทรเข้าออก การใช้อินเทอร์เน็ต หรือ Wi-Fi ซึ่งงานวิจัยเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าคลื่นนี้อาจกระทบต่อคุณภาพอสุจิ เช่น
ลดจำนวนและคุณภาพอสุจิ
คลื่น RF‑EMF สามารถรบกวนการแบ่งตัวของเซลล์อสุจิ ทำให้จำนวนอสุจิลดลง ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการปฏิสนธิ
ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอสุจิ
การเคลื่อนไหวของอสุจิที่ลดลงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้โอกาสตั้งครรภ์ต่ำ โดยพบว่าการสัมผัสคลื่น RF‑EMF ติดต่อกันหลายชั่วโมงต่อวัน อาจส่งผลให้อสุจิเคลื่อนที่ได้ช้าลง
เพิ่มความเสียหายต่อ DNA อสุจิ
คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าอาจทำให้เกิด DNA fragmentation หรือความเสียหายต่อสารพันธุกรรมของอสุจิ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คุณภาพอสุจิลดลง อีกทั้งหาก DNA เกิดความเสียหายรุนแรง ยังจะเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งบุตรอีกด้วย
เพิ่ม Oxidative stress ทำให้เกิดความเครียดในระดับเซลล์
RF‑EMF สามารถกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระในเซลล์อสุจิ ทำให้เกิดภาวะ Oxidative Stress ซึ่งเป็นภาวะเครียดของเซลล์และเนื้อเยื่อ ทำให้เซลล์อสุจิถูกทำลายเร็วขึ้นและลดคุณภาพการทำงาน
ผลกระทบต่อฮอร์โมนเพศชาย
ฮอร์โมนเพศชายที่สำคัญที่สุดคือ เทสโทสเตอโรน (Testosterone) ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมการสร้างอสุจิ สมรรถภาพทางเพศ รวมถึงการพัฒนาลักษณะทางเพศชาย การรักษาระดับฮอร์โมนนี้ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงสำคัญต่อทั้งคุณภาพอสุจิและสุขภาพทางเพศ
ระดับเทสโทสเตอโรนลดลง ส่งผลต่อความสมดุลของระบบสืบพันธุ์
การได้รับคลื่น RF‑EMF จากมือถืออย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้ระดับเทสโทสเตอโรนลดลง ทำให้การแบ่งตัวและพัฒนาของเซลล์อสุจิผิดปกติ เกิดเป็นอสุจิคุณภาพต่ำที่มีความสามารถในการปฏิสนธิลดลง อีกทั้งยังรบกวนฮอร์โมนอื่น ๆ ในระบบสืบพันธุ์ ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (RF‑EMF) ต่อระดับฮอร์โมนในมนุษย์ยังเป็นสิ่งที่ต้องวิจัยเพิ่มเติม เพื่อให้รู้ถึงผลกระทบที่แท้จริง
วิธีลดความเสี่ยงและเพิ่มคุณภาพอสุจิ
แม้ว่ามือถือจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แต่การเปลี่ยนแปลงง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดผลกระทบต่อคุณภาพอสุจิได้
ปรับพฤติกรรมการใช้มือถือ
การพกมือถือไว้ใกล้ถุงอัณฑะเป็นประจำ ทั้งในกระเป๋ากางเกงหรือวางบนตักเวลานั่ง อาจทำให้ความร้อนและคลื่น RF‑EMF ส่งผลโดยตรงต่ออัณฑะและเซลล์อสุจิ วิธีลดความเสี่ยงคือหลีกเลี่ยงการวางมือถือใกล้บริเวณนี้ เช่น พกไว้ในกระเป๋าเสื้อ กระเป๋าสะพาย หรือวางบนโต๊ะขณะใช้งาน อีกทั้งควรจำกัดการเล่นเกม หรือใช้งานแอปพลิเคชันต่อเนื่องเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้มือถือร้อนและปล่อยคลื่นมากขึ้น
รักษาสุขภาพให้เอื้อต่อการสร้างอสุจิ
สุขภาพร่างกายโดยรวมส่งผลต่อคุณภาพอสุจิโดยตรง แต่เราสามารถดูแลสุขภาพร่างกายได้ด้วยวิธีง่าย ๆ อย่างการออกกำลังกายที่สม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและการทำงานของต่อมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างอสุจิ อีกทั้งยังควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และมีสารต้านอนุมูลอิสระเพียงพอ เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว และอาหารที่มีโอเมก้า‑3 รวมถึงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อส่งเสริมการทำงานของระบบสืบพันธุ์
หลีกเลี่ยงความเครียด
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ทำให้ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง ซึ่งส่งผลต่อทั้งจำนวนและคุณภาพอสุจิ การจัดการความเครียด เช่น การทำสมาธิ ฝึกการหายใจลึก ออกกำลังกายเบา ๆ หรือใช้เวลาทำกิจกรรมที่ชอบ สามารถช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน พร้อมกับช่วยลด Oxidative Stress ในร่างกาย และเพิ่มประสิทธิภาพของระบบสืบพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้นได้
ตรวจสุขภาพสืบพันธุ์อย่างสม่ำเสมอ
การตรวจคุณภาพอสุจิเป็นวิธีที่ช่วยให้เพศชายสามารถเข้าใจสถานะการเจริญพันธุ์ของตัวเองได้ ซึ่งการวิเคราะห์น้ำเชื้อยังสามารถช่วยให้เห็นถึงต้นเหตุของปัญหา เช่น จำนวนอสุจิ การเคลื่อนไหว รูปร่างอสุจิ และระดับ DNA Fragmentation ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หรือวางแผนการรักษาได้ตรงจุด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรให้ประสบความสำเร็จ
ถึงแม้งานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จะยังคงเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาในระดับที่ลึกขึ้น แต่การดูแลสุขภาพสืบพันธุ์ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตร แต่ยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของผู้ชายในระยะยาว โดยเฉพาะหากอยู่ในช่วงวางแผนมีบุตร ยิ่งควรใส่ใจดูแลร่างกายให้พร้อมที่สุดและเข้ารับการตรวจอสุจิ เพื่อวิเคราะห์คุณภาพน้ำเชื้อ พร้อมกับได้ประเมินภาวะเจริญพันธุ์ของผู้ชาย
สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่าควรไปตรวจเชื้ออสุจิที่ไหนดี ที่สามารถให้คำปรึกษาด้านการตรวจน้ำเชื้อผู้ชายเพื่อนำไปวิเคราะห์สู่การมีบุตรในอนาคต ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) มีโปรแกรม CASA (Computer-Assisted Semen Analysis) ซึ่งจะให้บริการตรวจอสุจิในราคาคุ้มค่า ด้วยเทคโนโลยีการตรวจน้ำเชื้อที่ทันสมัย โดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีความละเอียด แม่นยำ สามารถวิเคราะห์คุณภาพน้ำเชื้อและแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจสอบความสามารถในการเคลื่อนที่ รูปร่าง รวมถึงจำนวนของอสุจิในน้ำเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยากและการปรับปรุงภาวะเจริญพันธุ์ที่เกิดขึ้น
บทความโดย แพทย์หญิงนันท์นภัส ปโรสิยานนท์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.