เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

อุณหภูมิถุงอัณฑะสูง เพิ่มความเสี่ยงมีบุตรยากจริงไหม?

แพทย์อธิบายว่าอุณหภูมิถุงอัณฑะส่งผลต่อคุณภาพอสุจิอย่างไร

Table of Contents

คุณภาพอสุจิ กุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้การตั้งครรภ์ดำเนินไปอย่างราบรื่น และทำให้ทารกที่คลอดออกมามีสุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า ‘อุณหภูมิถุงอัณฑะ‘ ที่เปรียบเสมือนโรงงานผลิตอสุจิก็ส่งผลต่อคุณภาพของอสุจิเช่นกัน แต่กลับเป็นสิ่งที่หลายคนมองข้ามไป จนเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากตามมา

อุณหภูมิถุงอัณฑะ ปัจจัยสำคัญต่อคุณภาพอสุจิ

อัณฑะ (Testes) เป็นอวัยวะที่มีหน้าที่สำคัญในการผลิตอสุจิและฮอร์โมนเพศชาย (Testosterone) ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้มีบทบาทในการพัฒนาและการทำงานของอวัยวะเพศชาย ตลอดจนการผลิตอสุจิในกระบวนการที่เรียกว่า Spermatogenesis โดยกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นภายในหลอดที่เรียกว่า Seminiferous Tubules ที่อยู่ในลูกอัณฑะ ซึ่งการผลิตอสุจิที่มีคุณภาพจะเกิดได้ดีที่สุดเมื่ออัณฑะมีอุณหภูมิที่ต่ำกว่าร่างกายเล็กน้อย หรือประมาณ 34-35 องศาเซลเซียส

กระบวนการสร้างอสุจิ

โดยทั่วไป กระบวนการสร้างอสุจิตั้งแต่เซลล์เริ่มต้นไปจนถึงอสุจิที่สามารถปฏิสนธิได้ จะใช้เวลาประมาณ 64-72 วัน โดยรายละเอียดของกระบวนการมีดังนี้

  • เซลล์ Spermatogonia ในอัณฑะแบ่งตัวแบบ Mitosis เพื่อเพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่อง และเปลี่ยนเป็น Primary Spermatocyte ซึ่งมีโครโมโซมจำนวน 46 แท่ง (Diploid)
  • Primary Spermatocyte แบ่งตัวแบบ Meiosis ครั้งที่ 1 เพื่อลดจำนวนโครโมโซมลงครึ่งหนึ่ง กลายเป็น Secondary Spermatocyte ที่มีโครโมโซม 23 แท่ง (Haploid)
  • Secondary Spermatocyte แบ่งตัวแบบ Meiosis ครั้งที่ 2 เพื่อแยกโครโมโซมออกเป็นเซลล์เล็ก ๆ ทำให้ได้ Spermatid จำนวน 4 เซลล์ ซึ่งมีโครโมโซม 23 แท่ง
  • Spermatid ผ่านกระบวนการเปลี่ยนรูปร่างและพัฒนาเป็น Spermatozoa หรืออสุจิที่สมบูรณ์ โดยมีส่วนหัว หาง และส่วนกลางสำหรับเคลื่อนที่และการปฏิสนธิ
  • อสุจิที่สมบูรณ์จะถูกปล่อยออกจากเยื่อบุหลอดสร้างอสุจิเข้าสู่ท่อส่งอสุจิ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการหลั่งออกสู่ภายนอกร่างกาย 

อุณหภูมิอัณฑะสูงเกินไปส่งผลต่อคุณภาพอสุจิอย่างไรบ้าง?

อุณหภูมิที่สูงเกินไปในถุงอัณฑะสามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพอสุจิได้หลายด้าน ดังนี้

  • ความร้อนที่สะสมภายในถุงอัณฑะส่งผลให้การสร้างอสุจิลดลง ทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ ทำให้โอกาสในการปฏิสนธิตั้งครรภ์ลดลงตามไปด้วย
  • การเคลื่อนไหวของอสุจิลดลง ทำให้อสุจิไม่สามารถว่ายไปปฏิสนธิกับไข่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร จึงไม่เกิดการปฏิสนธิ
  • ทำให้เกิดภาวะออกซิเดชัน (Oxidative Stress) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดการสร้างอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ที่สามารถทำลาย DNA ของอสุจิได้ เป็นสาเหตุของภาวะแท้งและความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารก

พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพอสุจิ

11 พฤติกรรมควรเลี่ยง หากไม่อยากเสี่ยงมีบุตรยาก

การมีบุตรยากเป็นปัญหาที่เกิดได้จากหลายปัจจัย รวมทั้งพฤติกรรมบางอย่างที่อาจทำลายสุขภาพและระบบสืบพันธุ์ของเพศชายโดยตรง ซึ่งพฤติกรรมที่ผู้ชายควรหลีกเลี่ยงหากไม่อยากประสบปัญหามีบุตรยาก ทั้งยังเป็นการช่วยให้คุณภาพอสุจิอยู่ในเกณฑ์ที่ดี มีดังนี้

1. งดการสูบบุหรี่

บุหรี่เต็มไปด้วยสารเคมีหลายชนิดที่ส่งผลต่ออสุจิและภาวะมีบุตรยากโดยตรง เช่น

  • นิโคติน ลดความสามารถในการผลิตอสุจิและทำให้อสุจิเคลื่อนที่ได้ช้าลง
  • สารก่อมะเร็ง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งอัณฑะและเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
  • สารตะกั่ว ทำให้ฮอร์โมนเพศชายที่จำเป็นต่อการผลิตอสุจิลดลง

2. การใช้สารเสพติดและยาเคมีบางชนิด

การใช้สารเสพติด เช่น กัญชา (THC) หรือโคเคนสามารถรบกวนกระบวนการสร้างอสุจิ ลดการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และอาจทำให้เกิดการหดตัวของหลอดเลือด ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดไปยังอวัยวะเพศชาย ทำให้เกิดปัญหาการหลั่งอสุจิและสมรรถภาพทางเพศลดลง

3. การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำจะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน GnRH ได้น้อยลง ซึ่งส่งผลให้ระดับ LH และ FSH ลดลงตามไปด้วย อีกทั้งยังจะกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ทำให้จำนวนอสุจิที่ผลิตได้ลดลง หรือมีรูปร่างและการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

4. การมีความเครียดเรื้อรัง

ความเครียดเรื้อรังจะทำให้ร่างกายหลั่งคอร์ติซอลออกมามาก ซึ่งจะไปกระตุ้นการยับยั้งการผลิตเทสโทสเตอโรนและลดจำนวนอสุจิ รวมถึงทำให้คุณภาพของอสุจิต่ำลง และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ DNA ในอสุจิถูกทำลาย

5. การสัมผัสความร้อนสูงเป็นเวลานาน

การสัมผัสความร้อนจากการเข้าซาวน่า การวางแล็ปท็อปลงบนตัก หรือการสวมกางเกงรัดรูปมากเกินไป ส่งผลให้อุณหภูมิอัณฑะสูงขึ้น กระทบกับกระบวนการสร้างอสุจิโดยตรง ก่อให้เกิดความผิดปกติและทำให้ปริมาณอสุจิน้อยลง อีกทั้งยังทำให้เซลล์อสุจิตายได้

6. มีน้ำหนักตัวมากเกินไป

ผู้ชายที่มีน้ำหนักเกินมักมีระดับฮอร์โมนเพศชายต่ำลง เนื่องจากไขมันในร่างกายจะเปลี่ยนเทสโทสเตอโรนไปเป็นเอสโตรเจน ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง และทำให้คุณภาพและจำนวนอสุจิลดลงด้วย

7. การออกกำลังกายหักโหมเกินไป

การออกกำลังกายที่หนักเกินไปโดยไม่พักผ่อนให้เพียงพอ จะทำให้ระดับคอร์ติซอลสูงขึ้นและเทสโทสเตอโรนต่ำลง รวมถึงเสี่ยงกับการเกิดภาวะ Overtraining Syndrome ที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามปกติ ส่งผลต่อสุขภาพองค์รวมในระยะยาว

8. การนอนหลับพักผ่อนน้อย

หากนอนหลับน้อยกว่า 6-8 ชั่วโมงติดต่อกันเป็นเวลานาน ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนจะลดลง และเพิ่มการผลิตแอนติบอดีต่อต้านอสุจิสูงกว่าคนทั่วไป ซึ่งทำให้เกิดปัญหาการมีบุตรยากได้

9. การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์

อาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และขาดสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามิน C, E, และสังกะสี จะกระตุ้น Oxidative Stress ทำให้เกิดการทำลาย DNA ของอสุจิ อีกทั้งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายผิดปกติ และทำให้คุณภาพอสุจิต่ำลง

10. การติดเชื้อทางระบบสืบพันธุ์

การติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ เช่น โรคหนองใน โรคหนองในเทียม หรือเชื้อ HPV จะทำให้ท่อนำอสุจิและอัณฑะเกิดการอักเสบ เซลล์เริ่มต้นในกระบวนการสร้างอสุจิถูกทำลาย เสี่ยงต่อภาวะท่ออสุจิอุดตัน

11. การได้รับสารเคมีและสารพิษจากสิ่งแวดล้อม

สารเคมีในสิ่งแวดล้อม เช่น โลหะหนักและสารกำจัดศัตรูพืช สามารถรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเพศชายและกระบวนการสร้างอสุจิได้ โดยจะไปกระตุ้น Oxidative Stress ซึ่งทำลายเซลล์อสุจิและ DNA ส่งผลให้จำนวนและคุณภาพอสุจิลดลง รวมถึงอาจไปรบกวนการควบคุม Epigenetic ทำให้การผลิตอสุจิผิดปกติ

ผู้ชายเข้าซาวน่าบ่อย ทำให้อุณหภูมิอัณฑะสูงและส่งผลต่อคุณภาพสอุจิ

ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับคุณภาพอสุจิที่คุณผู้ชายต้องรู้

1. การมีเพศสัมพันธ์บ่อยมากจะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้

หลายคนเชื่อว่าการมีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ จะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ แต่ความจริงแล้ว การมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพของอสุจิได้ หากการหลั่งน้ำเชื้อไม่เพียงพอระหว่างรอบเดือน อาจทำให้มีจำนวนอสุจิลดลง แต่หากมีจำนวนอสุจิเพียงพอการมีเพศสัมพันธ์บ่อยไม่ส่งผลเสียต่อการมีลูก จึงควรมีการวางแผนมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีการตกไข่เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สูงขึ้น

2. กัญชาไม่มีผลต่อภาวะเจริญพันธุ์ของเพศชาย

การใช้กัญชาสามารถรบกวนกระบวนการสร้างอสุจิได้ โดยลดจำนวนอสุจิและทำให้สเปิร์มมีคุณภาพต่ำลง เนื่องจากสาร THC ในกัญชามีคุณสมบัติรบกวนการสร้างอสุจิ และเพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วย

3. มีน้ำเชื้อหลั่งออกมามาก แปลว่าอสุจิมีคุณภาพสูง

ปริมาณน้ำเชื้อที่หลั่งออกมาไม่ได้บ่งบอกถึงคุณภาพของอสุจิเสมอไป ส่วนเกณฑ์ที่ใช้วัดว่าอสุจิมีคุณภาพดีหรือไม่นั้น คือจำนวน ความสามารถในการเคลื่อนไหว และรูปร่างที่สมบูรณ์ ดังนั้น แม้ว่าจะมีน้ำเชื้อหลั่งออกมาในปริมาณมาก แต่หากอสุจิมีจำนวนต่ำหรือเคลื่อนไหวผิดปกติ ก็จะลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้

4. อสุจิคุณภาพต่ำ ไม่สามารถมีบุตรได้

ปัจจุบันเทคโนโลยีการแพทย์อย่างการทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ แม้อสุจิจะมีคุณภาพต่ำ ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงมีภาวะเป็นหมัน หรือเกิดจากภาวะมีบุตรยากจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ตาม

หากคุณพยายามมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติมานาน และยังไม่ประสบความสำเร็จ อาจเกิดจากปัญหาอสุจิมีคุณภาพต่ำก็เป็นได้ แต่อย่าเพิ่งหมดหวัง ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรามีเทคโนโลยีการเก็บอสุจิจากลูกอัณฑะด้วยวิธี PESA, TESA, TESE และ MESA ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สำหรับคู่สมรสที่มีปัญหาภาวะมีบุตรยาก โดยทีมสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการของเรายินดีให้คำแนะนำ ดูแล และทำการรักษาอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยเติมเต็มครอบครัวของคุณตามเป้าหมายที่วางไว้

 

บทความโดย แพทย์หญิงวนากานต์ สิงหเสนา

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Dr. Wannakan Singhasena, a fertility specialist in Thailand

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.