เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

รู้ไว้ก่อนสาย ! 7 พฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากที่หลายคนมองข้าม

7 พฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากที่หลายคนมองข้าม

Table of Contents

ในยุคที่ผู้หญิงต้องรับบทบาทหลายอย่าง ทั้งการทำงานหนัก พักผ่อนน้อย และเผชิญความเครียดจากชีวิตประจำวัน หลายคนอาจไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมบางอย่างกำลังกลายเป็นพฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากโดยไม่รู้ตัว ทั้งการดื่มแอลกอฮอล์ นอนดึก รับประทานอาหารไม่ครบหมู่ หรือแม้แต่การละเลยสุขภาพช่องคลอด ซึ่งล้วนส่งผลต่อฮอร์โมนและการตกไข่ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการมีบุตรในเพศหญิง

ดังนั้น ผู้หญิงที่มีแผนอยากมีลูกในอนาคต ควรเริ่มปรับพฤติกรรมตั้งแต่วันนี้ เพราะเพียงแค่การนอนหลับให้เพียงพอ ควบคุมน้ำหนัก และตรวจสุขภาพประจำปี ก็สามารถช่วยให้ร่างกายพร้อมต่อการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วางแผนตั้งครรภ์กับแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

7 พฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากที่ควรหลีกเลี่ยง

หลายคนอาจไม่รู้ว่าพฤติกรรมในชีวิตประจำวันบางอย่างกำลังทำลายสมดุลฮอร์โมนและลดโอกาสตั้งครรภ์โดยไม่รู้ตัว ลองมาดูกันว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ควรหลีกเลี่ยง หากไม่อยากเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากในอนาคต

1. ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า เบียร์ หรือไวน์ อาจทำให้โอกาสการมีบุตรลดลงถึง 50% เพราะส่งผลต่อระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและกระบวนการตกไข่ ผู้หญิงที่ชอบสังสรรค์บ่อยจึงควรลดปริมาณการดื่ม เพื่อป้องกันความเสี่ยงของภาวะมีบุตรยากในอนาคต

2. สูบบุหรี่เป็นประจำ

ผู้หญิงที่สูบบุหรี่มากกว่าวันละ 10 มวน มีแนวโน้มมีลูกยากกว่าคนทั่วไปถึง 3 เท่า เนื่องจากสารพิษในบุหรี่จะทำลายเซลล์ไข่ และลดคุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกที่ใช้ในการฝังตัวอ่อน อีกทั้งยังทำให้เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็วขึ้นกว่าปกติ

3. ความเครียดสะสม

ความเครียดเรื้อรังส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เกิดจากความเครียดจะไปรบกวนการตกไข่ ทำให้ไข่เจริญเติบโตไม่สมบูรณ์ และมีผลทำให้ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวในมดลูกได้ยากขึ้น

4. กินอาหารไม่มีประโยชน์

การรับประทานอาหารไม่ครบ 5 หมู่ หรือขาดสารอาหารสำคัญไป เช่น วิตามิน B12, โฟเลต และสังกะสี จะส่งผลให้ระบบสืบพันธุ์ทำงานผิดปกติ จึงควรเน้นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และโปรตีนคุณภาพดี เพื่อบำรุงฮอร์โมนและไข่ให้สมบูรณ์

5. ดื่มกาแฟเกินวันละ 2 แก้ว

ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟที่มากกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณ 3 ถ้วย) อาจลดโอกาสตั้งครรภ์ได้ถึง 26% เนื่องจากคาเฟอีนส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของท่อนำไข่และการฝังตัวของตัวอ่อน จึงควรจำกัดปริมาณการดื่มให้น้อยลง

6. ไม่ออกกำลังกาย

การไม่ออกกำลังกายทำให้ระบบไหลเวียนเลือดและฮอร์โมนเพศไม่สมดุล ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่ปกติ และทำให้ไข่ไม่ตกอย่างสม่ำเสมอ การหมั่นออกกำลังกายอย่างพอดี เช่น เดินเร็ว ว่ายน้ำ หรือฝึกโยคะ จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบสืบพันธุ์ได้ดี

7. สัมผัสสารเคมีในชีวิตประจำวัน

การได้รับสารเคมีจากเครื่องสำอาง น้ำหอม หรืออาหารที่ปนเปื้อนโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว และแคดเมียม อาจทำให้รังไข่ทำงานผิดปกติ ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีโดยตรง

วิธีดูแลตัวเองเพื่อลดความเสี่ยงมีบุตรยาก

การดูแลสุขภาพอย่างต่อเนื่องช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากและเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในผู้หญิงที่วางแผนมีลูกในอนาคต ควรเริ่มดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้

  • พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูและรักษาสมดุลของฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สัปดาห์ละ 3-5 วัน ช่วยควบคุมน้ำหนัก กระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และปรับสมดุลฮอร์โมน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผัก ผลไม้ และปลาไขมันดี เพื่อบำรุงไข่และระบบสืบพันธุ์
  • หลีกเลี่ยงบุหรี่ แอลกอฮอล์ และคาเฟอีน เป็นปัจจัยมีบุตรยากที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปลดคุณภาพของไข่และการฝังตัวของตัวอ่อน
  • ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะฮอร์โมนและระบบสืบพันธุ์ เพื่อค้นหาความผิดปกติและป้องกันปัญหามีบุตรยากตั้งแต่ระยะแรก

เมื่อไหร่ควรมาพบแพทย์ ? 

หากคุณมีประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ และพยายามตั้งครรภ์มานานกว่า 1 ปีแต่ยังไม่สำเร็จ หรือมีภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับระบบฮอร์โมน เช่น ถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) ควรไปพบแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เพื่อประเมินปัจจัยมีบุตรยาก ทั้งด้านฮอร์โมน การตกไข่ และสุขภาพของมดลูก การตรวจพบปัญหาได้เร็วจะช่วยให้วางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด พร้อมกับช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้มากขึ้น

ประเมินปัจจัยมีบุตรยาก เพื่อวางแผนการมีบุตรที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

ดูแลสุขภาพวันนี้ เพื่อโอกาสการมีลูกในวันข้างหน้า

การดูแลสุขภาพตั้งแต่วันนี้คือก้าวแรกของการเตรียมตัวมีลูกอย่างมั่นใจ เพราะร่างกายที่แข็งแรงและพร้อม คือปัจจัยสำคัญในการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย หากคุณกังวลเรื่องภาวะมีบุตรยาก หรืออยากตรวจสุขภาพก่อนตั้งครรภ์ เพื่อวางแผนอนาคตของครอบครัวอย่างมั่นใจ แนะนำให้เข้ามารับคำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เพื่อการดูแลที่ตรงจุดและใส่ใจ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ 

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

#VfertilityCenter #VFC #วีเอฟซี #ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร #สาเหตุการมีบุตรยาก #มีบุตรยาก #เด็กหลอดแก้ว #ICSI #กระตุ้นไข่

#OPUการเก็บไข่ #การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน #การย้ายตัวอ่อน #การแช่แข็งตัวอ่อน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q : พฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากที่พบได้บ่อยในผู้หญิงมีอะไรบ้าง ?

A: พฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากที่พบได้บ่อยในผู้หญิง ได้แก่ การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ การสูบบุหรี่ ความเครียดสะสม การดื่มกาแฟมากเกินไป การรับสารเคมีสะสมในร่างกาย การรับประทานอาหารไม่มีประโยชน์ และการไม่ออกกำลังกาย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยมีบุตรยากที่ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์ในระยะยาว

Q : การดื่มแอลกอฮอล์มีผลต่อภาวะมีบุตรยากอย่างไร ?

A: การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากถือเป็นพฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยาก เนื่องจากจะส่งผลโดยตรงต่อระดับฮอร์โมนและกระบวนการตกไข่ ทำให้โอกาสตั้งครรภ์ลดลงได้ถึง 50% และอาจกระทบต่อคุณภาพของไข่ในระยะยาว

Q : ความเครียดเกี่ยวข้องกับการมีลูกยากจริงไหม ?

A: จริง ความเครียดมีผลต่อการทำงานของระบบฮอร์โมนสืบพันธุ์ ทำให้เกิดภาวะไม่ตกไข่หรือไข่ไม่เจริญเติบโตสมบูรณ์ ส่งผลให้การฝังตัวของตัวอ่อนทำได้ยาก จึงถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยมีบุตรยากที่ไม่ควรมองข้าม

Q : การดื่มกาแฟวันละหลายแก้วส่งผลต่อการมีลูกอย่างไร ?

A: การบริโภคคาเฟอีนเกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน (ประมาณกาแฟ 3 ถ้วย) อาจทำให้โอกาสมีบุตรลดลงถึง 26% เพราะคาเฟอีนส่งผลให้การตกไข่และการฝังตัวของตัวอ่อนช้าลง จึงควรจำกัดปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวันเพื่อป้องกันความเสี่ยง

Q : ทำไมการออกกำลังกายถึงช่วยลดความเสี่ยงมีบุตรยาก ?

A: การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยปรับสมดุลฮอร์โมน กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด และเสริมความแข็งแรงของระบบสืบพันธุ์ ทำให้ร่างกายพร้อมต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น ถือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยลดพฤติกรรมเสี่ยงมีบุตรยากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

A doctor will tell you the treatments for a blighted ovum

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.