เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

บทความสุขภาพ

คู่รักที่อายุ 35 ปี เข้ารับคำปรึกษาเพื่อตรวจโครโมโซมตัวอ่อน

เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ในวัย 35+ ด้วยการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน

การตั้งครรภ์ในวัยที่มากขึ้นเป็นเรื่องที่คู่รักหลายคู่กังวลใจ เพราะเมื่ออายุเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากและโรคทางพันธุกรรมก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยเฉพาะในผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจมีโอกาสที่จะเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมในตัวอ่อนมากขึ้น นี่คือเหตุผลที่การตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนก่อนการฝังตัว หรือ PGT-A (Preimplantation Genetic Testing for Aneuploidy) กลายเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์สมบูรณ์ และลดความเสี่ยงจากการแท้งบุตรที่เกิดจากสาเหตุตัวอ่อนที่มีโครโมโซมผิดปกติ การตรวจโครโมโซม PGT-A คืออะไร? PGT-A (Preimplantation Genetic Testing for Aneuploidy) หรือการตรวจโครโมโซมตัวอ่อน คือ กระบวนการที่ใช้ในการคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมของตัวอ่อน โดยการตรวจนี้จะตรวจคัดกรองโครโมโซมทั้ง 23 คู่ เพื่อหาความผิดปกติที่อาจส่งผลต่อการพัฒนาของทารกในระยะยาว เช่น กลุ่มอาการดาวน์ (Down Syndrome), กลุ่มอาการพาทู (Patau Syndrome) และกลุ่มอาการเอ็ดเวิร์ด (Edward Syndrome) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางพันธุกรรมที่พบได้บ่อย โดย PGT-A จะช่วยเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมสมบูรณ์ก่อนการฝังตัวในมดลูก ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรม พร้อมกับช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ได้     ทำไมการตรวจ PGT-A ถึงสำคัญสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี? เมื่อผู้หญิงมีอายุเพิ่มขึ้น การผลิตไข่ของร่างกายจะเริ่มลดลง ทำให้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมในไข่ เช่น การมีโครโมโซมเกิน หรือขาด ซึ่งส่งผลให้เกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมในตัวอ่อน การตรวจโครโมโซม PGT-A จึงมีความสำคัญ ดังนี้ 1. ลดโอกาสในการมีโครโมโซมผิดปกติ เมื่อผู้หญิงมีอายุเกิน 35 ปี โอกาสที่ตัวอ่อนจะมีโครโมโซมผิดปกติจะสูงขึ้น โดยเฉพาะการเกิดกลุ่มอาการที่อาจส่งผลให้ทารกที่เกิดมามีพัฒนาการที่ผิดปกติ การตรวจโครโมโซม PGT-A จะช่วยคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพ ทั้งยังลดความเสี่ยงของการได้ตัวอ่อนที่มีโครโมโซมผิดปกติที่จะส่งผลต่อทารก  2. การลดความเสี่ยงจากการแท้งบุตร การตรวจ...

นักเทคนิคผู้มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการใช้ Time-lapse ช่วยคัดเลือกตัวอ่อน

Time-Lapse System ช่วยคัดเลือกตัวอ่อน เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์

สำหรับคู่แต่งงานที่ประสบภาวะมีบุตรยาก การทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย แต่ปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ให้ประสบความสำเร็จ คือการคัดเลือกตัวอ่อนซึ่งมีคุณภาพสูงที่สุด ที่ผ่านมา แพทย์และนักวิทยาศาสตร์จะต้องนำตัวอ่อนออกจากตู้อบ เพื่อตรวจสอบพัฒนาการเป็นระยะ ๆ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน จนนำไปสู่การตั้งครรภ์ที่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยี Time-lapse system เข้ามาช่วยติดตามพัฒนาการของตัวอ่อนได้อย่างละเอียดในแบบเรียลไทม์ โดยไม่รบกวนการเจริญเติบโตของตัวอ่อน ทั้งยังช่วยให้การคัดเลือกแม่นยำ เพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้มากยิ่งขึ้น ตัวอ่อนที่มีคุณภาพต้องมีลักษณะอย่างไร? การคัดเลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพ คือปัจจัยพื้นฐานของความสำเร็จในการฝังตัวในมดลูก และการตั้งครรภ์ โดยลักษณะของตัวอ่อนที่ดี ได้แก่  รูปร่างภายนอก (Morphology)  ตัวอ่อนที่มีคุณภาพควรมีเซลล์ที่มีขนาดและรูปร่างเหมาะสม สมมาตร ไม่มีเศษเซลล์ (fragmentation) มากเกินไป เนื่องจากเศษเซลล์เหล่านี้อาจบ่งชี้ถึงความเสียหาย หรือความผิดปกติของเซลล์ได้ นอกจากนี้ การจัดเรียงตัวของเซลล์อย่างเหมาะสม ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยซึ่งบ่งชี้ถึงสุขภาพโดยรวมของตัวอ่อนได้อีกด้วย อัตราการแบ่งเซลล์ (Cell Division Rate) ตัวอ่อนที่มีคุณภาพควรมีการแบ่งเซลล์ในระยะเวลาที่เหมาะสม ตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ การแบ่งเซลล์ที่เร็วเกินไปหรือช้าเกินไปอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติในการพัฒนาของเซลล์ อัตราการแบ่งเซลล์อย่างเหมาะสม ยังเป็นตัวบ่งชี้ถึงศักยภาพในการเจริญเติบโตของเซลล์ และการพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ที่พร้อมสำหรับการฝังตัว ความพร้อมของโครโมโซมในการพัฒนาเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์ (Chromosomal Competency) ลักษณะของโครโมโซมที่ผิดปกติ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ไม่เกิดการฝังตัวของตัวอ่อน รวมถึงการแท้งซ้ำซาก หรือความพิการของทารกตั้งแต่กำเนิด ดังนั้นการตรวจคัดกรองโครโมโซม ด้วยวิธี PGS/PGT-A (Preimplantation Genetic Screening/Testing for Aneuploidy) จึงเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ Time-Lapse System คืออะไร? Time-Lapse System คือเทคโนโลยีการเลี้ยงตัวอ่อนแบบใหม่ที่ใช้ตู้อบพิเศษ (EmbryoScope) ซึ่งมีกล้องถ่ายภาพอัตโนมัติแบบต่อเนื่องทุก 10-20 นาที โดยไม่จำเป็นต้องนำตัวอ่อนออกมาตรวจซ้ำแบบวิธีดั้งเดิมที่ใช้การส่องดูในช่วงเวลาต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการบันทึกวิดีโอแบบ...

อาการแท้งบ่อย เกิดจากอะไร มีสัญญาณเตือนอย่างไร

รู้ทันอาการแท้งลูก และสาเหตุแท้งบ่อยที่ควรระวัง

การแท้งลูกเป็นประสบการณ์ที่กระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เฝ้ารอการมีลูกมาอย่างยาวนาน ซึ่งบางครั้งหลายคนอาจไม่ทราบว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย คือสัญญาณเตือนของการแท้ง หากตรวจพบได้เร็วและได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ก็อาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปได้สำเร็จ บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการแท้งที่ควรรู้ พร้อมรู้ทันสาเหตุที่ทำให้แท้งบ่อย เพื่อการรับมืออย่างทันท่วงที อาการแท้งลูกที่ควรรู้ สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม การแท้งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการแท้งที่พบบ่อย ได้แก่ มีเลือดออกจากช่องคลอด เริ่มจากเลือดสีน้ำตาลจาง ๆ ไปจนถึงเลือดแดงสด มีอาการปวดท้องน้อยหรือปวดหลังอย่างต่อเนื่อง คล้ายอาการปวดประจำเดือนแต่รุนแรงกว่า มีของเหลวหรือชิ้นเนื้อขนาดเล็กออกมาทางช่องคลอด อาการแพ้ท้องที่เคยมีหายไปอย่างรวดเร็ว เช่น รู้สึกคลื่นไส้ลดลง เต้านมไม่คัดตึง หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและประเมินสภาพของครรภ์ทันที   แท้งบ่อยเกิดจากอะไร? ภาวะแท้งบ่อย หรือการแท้งติดต่อกันหลายครั้งไม่ใช่เรื่องปกติ และควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุ มีดังนี้ ความผิดปกติทางพันธุกรรม เกิดจากโครโมโซมหรือยีนที่ผิดปกติของไข่หรืออสุจิ ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถพัฒนาได้ตามปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแท้งบ่อยที่พบได้มากที่สุด ความผิดปกติของมดลูก หากมดลูกมีผนังกั้น โพรงมดลูกผิดรูป หรือมีพังผืด อาจส่งผลให้การฝังตัวของตัวอ่อนไม่สมบูรณ์ หรือเกิดการหลุดออกง่าย ปัญหาฮอร์โมน ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน อย่าง ภาวะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ มีผลต่อการเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมกับการฝังตัว และ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการตกไข่และการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูก โรคประจำตัวเรื้อรัง โรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ หรือภูมิคุ้มกันทำลายตัวอ่อน เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดอาการแท้งได้เช่นกัน อายุของทั้งฝ่ายหญิงและชาย หากฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี หรือฝ่ายชายมากกว่า 40 ปี โอกาสเกิดความผิดปกติของเซลล์ไข่และอสุจิจะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการปฏิสนธิและพัฒนาการของตัวอ่อน การวินิจฉัยที่แม่นยำและการวางแผนการตั้งครรภ์ร่วมกับแพทย์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการแท้งซ้ำและเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้มากขึ้น แนวทางวินิจฉัยเมื่อแท้งบ่อย สำหรับผู้ที่มีประวัติแท้งซ้ำติดต่อกัน การตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุอย่างละเอียดถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มต้นการตั้งครรภ์ใหม่ เพราะการแท้งบ่อยมักเกิดจากปัจจัยที่สามารถตรวจพบและแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางพันธุกรรม ฮอร์โมน โครงสร้างมดลูก หรือโรคประจำตัวบางชนิด  แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จะวางแผนการตรวจอย่างครอบคลุม โดยพิจารณาจากประวัติทางการแพทย์ อายุของคู่สมรส จำนวนครั้งที่แท้ง รวมถึงลักษณะของการแท้งลูกแต่ละครั้ง เพื่อให้สามารถระบุปัจจัยเสี่ยง และเลือกแนวทางการรักษาหรือการวางแผนตั้งครรภ์ที่เหมาะสมที่สุดในครั้งถัดไป โดยมีแนวทางการตรวจวินิจฉัยดังนี้ ...

การตรวจเลือดเพื่อวิเคราะห์ว่าเส้นเลือดขอดที่อัณฑะมีลูกได้หรือไม่

เส้นเลือดขอดที่อัณฑะมีลูกได้หรือไม่? เข้าใจสาเหตุ วิธีรักษา

เส้นเลือดขอดอัณฑะเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในผู้ชายวัยเจริญพันธุ์ ซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของอสุจิโดยตรง สำหรับคุณผู้ชายที่ได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะเส้นเลือดขอดที่อัณฑะ อาจเป็นกังวลว่าจะมีลูกได้หรือไม่ ดังนั้นเพื่อช่วยคลายความสงสัย เราจะพาไปรู้ถึงสาเหตุของภาวะนี้ รวมถึงอาการที่อาจเกิดขึ้น พร้อมวิธีการรักษาเพื่อช่วยเพิ่มโอกาสให้กับการมีบุตร  เส้นเลือดขอดที่อัณฑะคืออะไร? ภาวะเส้นเลือดขอดที่อัณฑะ หรือ Varicocele คือการขยายตัวของเส้นเลือดดำในถุงอัณฑะ เกิดจากลิ้นเล็ก ๆ ภายในเส้นเลือดที่ทำหน้าที่ป้องกันเลือดไหลย้อนกลับทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เลือดไหลย้อนกลับและสะสมในเส้นเลือด จนเกิดการขยายตัวและโป่งพอง  ภาวะนี้พบประมาณ 15-20% ในผู้ชายทั่วไป และพบสูงถึง 35-40% ในผู้ชายที่มีภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากการเกิดเส้นเลือดขอดที่อัณฑะ มีผลกระทบต่ออุณหภูมิในถุงอัณฑะ ซึ่งอาจทำให้การผลิตอสุจิไม่ปกติและมีโอกาสน้อยในการตั้งครรภ์ อาการและการวินิจฉัยเส้นเลือดขอดที่อัณฑะ เส้นเลือดขอดอัณฑะที่มีภาวะอันตรายจะแสดงอาการให้เห็นในหลากหลายลักษณะ หรือบางรายอาจไม่มีอาการเลย แต่ที่มักพบได้บ่อย ได้แก่ รู้สึกหนัก อึดอัด หรือปวดถ่วงบริเวณอัณฑะข้างที่เป็น อาการปวดมักจะแย่ลงเมื่อยืนนาน ๆ ออกกำลังกายหนัก หรือร่างกายมีอุณหภูมิสูง บางรายอาจสัมผัสได้ถึงเส้นเลือดที่ขยายตัวคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยวในถุงอัณฑะ สำหรับการตรวจวินิจฉัย แพทย์จะเริ่มจากการตรวจร่างกาย โดยให้ผู้ป่วยยืนและทำการเบ่ง เพื่อดูการโป่งพองของเส้นเลือด นอกจากนี้ ยังอาจต้องตรวจเพิ่มเติมด้วยการอัลตราซาวนด์ถุงอัณฑะและการตรวจอสุจิ โดยแพทย์จะจัดระดับความรุนแรงเป็นเกรด 1-3 ดังนี้ เกรด 1 คลำพบเส้นเลือดที่โป่งพองได้เฉพาะขณะเบ่ง เกรด 2 คลำพบเส้นเลือดที่โป่งพองได้ขณะที่ยืน โดยไม่ต้องเบ่ง เกรด 3 มองเห็นเส้นเลือดที่โป่งพองได้อย่างชัดเจน เส้นเลือดขอดอัณฑะอันตรายหรือไม่? เส้นเลือดขอดที่อัณฑะไม่ได้เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่จะส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ ความเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากการผลิตอสุจิที่น้อยลง หรืออสุจิไม่แข็งแรง จึงทำให้ลดโอกาสในการตั้งครรภ์ การเกิดภาวะอันตรายจากการไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม ยังจะก่อให้เกิดปัญหาการไหลเวียนเลือดที่ผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายได้ ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม อาจทำให้อัณฑะฝ่อเล็กลง และกระทบต่อการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ผลกระทบทางจิตใจและคุณภาพชีวิต เนื่องจากอาการปวดเรื้อรัง บวกกับความกังวลเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์...

HBA Test คือการทดสอบความสามารถในการจับกับสารไฮยาลูรอนิก แอซิดของตัวอสุจิ

การตรวจอสุจิ HBA Test และเทคนิค PICSI Dish เพิ่มโอกาสมีบุตร

การทำความเข้าเกี่ยวกับตรวจอสุจิ HBA Test และประโยชน์ของเทคนิค PICSI Dish ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จที่ไม่ควรมองข้าม...

ผู้หญิงกำลังใช้เข็มฉีดยากระตุ้นไข่ตกบริเวณท้อง

สรุปขั้นตอนการฉีดยากระตุ้นไข่ พร้อมวิธีดูแลตนเอง

คู่มือสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนมีบุตรด้วยวิธี ICSI พร้อมสรุปขั้นตอนฉีดยากระตุ้นไข่ว่ามีอะไรบ้าง ใช้เวลากี่วัน มีผลข้างเคียงหรือไม่ และควรดูแลตัวเองอย่างไร ? ...

ผู้หญิงที่ดูแลอาหารการกิน ดีท็อกซ์ลำไส้ เพื่อให้พร้อมสำหรับการมีบุตรอย่างสมบูรณ์

รู้จักการดีท็อกซ์ล้างลำไส้ เพื่อการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์

เตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนตั้งครรภ์ ด้วยการเลือกทานอาหารดีท็อกซ์ล้างลำไส้ที่ช่วยล้างสารพิษในร่างกาย เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จ ด้วยสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์...

คู่รักปรึกษาแพทย์เรื่องภาวะมีบุตรยากจากปัญหาโลหะหนัก

โลหะหนักสะสมในร่างกาย เสี่ยงภาวะมีบุตรยากมากกว่าที่คิด !

โลหะหนักอย่างตะกั่ว ปรอท แคดเมียม ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยาก ทั้งชายและหญิง รู้วิธีหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์...

หญิงตั้งครรภ์ปรึกษาแพทย์ว่าหากแม่เป็นไทรอยด์ ลูกจะเป็นไหม

แม่เป็นไทรอยด์ ลูกจะเป็นไหม มีความเสี่ยงใดต้องระวังบ้าง ?

ตอบคำถามพบบ่อยว่าแม่เป็นไทรอยด์มีลูกได้ไหม และลูกจะเป็นไหม พร้อมบอกความสำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์กับการตั้งครรภ์ที่คู่สมรสควรรู้...

ฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิง

ฝุ่น PM 2.5 กับการตั้งครรภ์: เข้าใจผลกระทบและแนวทางรับมือ

มลพิษฝุ่น PM 2.5 ส่งผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ของผู้หญิงอย่างไร พร้อมวิธีป้องกันและรับมือเพื่อวางแผนตั้งครรภ์อย่างเหมาะสม และมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งแม่และลูก...