การทำ IUI แล้วไม่ติดไม่ได้หมายความว่าคู่รักไม่มีโอกาสมีบุตร แต่สะท้อนว่ามีหลายปัจจัยที่ยังต้องประเมินให้ลึกขึ้น ทั้งเรื่องอายุและคุณภาพไข่ของฝ่ายหญิง ปัญหามดลูกหรือท่อนำไข่ ภาวะอสุจิผิดปกติของฝ่ายชาย ตลอดจนไลฟ์สไตล์ ความเครียด และโรคประจำตัว การเข้าใจว่าสาเหตุของการทำ IUI ไม่สำเร็จอาจมาจากทั้งสองฝ่ายและปัจจัยแวดล้อมร่วมกัน จะช่วยให้ปรึกษาแพทย์ วางแผนตรวจเพิ่มเติม และพิจารณาทางเลือกอย่าง ICSI หรือเทคโนโลยีเสริมอื่น ๆ ได้ตรงจุดมากขึ้น แทนที่จะมองว่าเป็นความล้มเหลวของการรักษา
หลายคู่รักที่กำลังวางแผนมีบุตรอาจเคยได้ยินว่า การทำ IUI มีโอกาสที่จะไม่ติดตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ซึ่งเป็นข้อมูลที่อาจสร้างความกังวลใจให้แก่คู่สมรส เพราะถึงแม้ว่าการทำ IUI จะเป็นหนึ่งในวิธีช่วยเจริญพันธุ์ที่ได้รับความนิยม แต่ผลลัพธ์ไม่ได้รับประกันความสำเร็จในทุกครั้ง การเข้าใจถึงสาเหตุ และปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ จึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการวางแผนรักษาภาวะมีบุตรยาก
นัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาการทำ IUI / ICSI
ทำ IUI ไม่ติด เกิดจากอะไร เข้าใจสาเหตุและปัจจัยสำคัญ
การทำ IUI (Intrauterine Insemination) เป็นการผสมเทียมโดยใช้วิธีทางการแพทย์ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ด้วยการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง สร้างโอกาสให้เชื้ออสุจิเข้าถึงไข่ได้เร็วและตรงจุดมากขึ้น ซึ่งขั้นตอนนี้มักทำร่วมกับการกระตุ้นไข่ และการตรวจติดตามรังไข่ เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ให้เกิดการตั้งครรภ์ เหมาะสำหรับคู่รักที่มีปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของอสุจิ ช่องทางเดินไข่ไม่มีปัญหา รวมถึงคู่รักที่ต้องการเพิ่มโอกาสให้เชื้ออสุจิเข้าใกล้ไข่มากที่สุด
อัตราความสำเร็จของ IUI
โดยทั่วไปอัตราความสำเร็จของการทำ IUI จะอยู่ที่ประมาณ 10–20% ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เช่น อายุของฝ่ายหญิง, สุขภาพโดยรวม, คุณภาพของไข่และอสุจิ รวมถึงปัจจัยภาวะเจริญพันธุ์ของคู่สมรส แต่ทั้งนี้ ข้อจำกัดทางด้านอายุอาจมีผลมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ที่การทำ IUI อาจมีโอกาสไม่ติดสูงกว่าปกติ
สาเหตุที่ทำ IUI แล้วไม่ติด
หลายคู่ที่พบปัญหาทำ IUI แล้วไม่ติด อาจเกิดจากหลายปัจจัย ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้
ปัจจัยด้านผู้หญิง
- คุณภาพไข่ลดลงตามอายุ : การมีอายุเพิ่มขึ้นส่งผลให้จำนวนและคุณภาพของไข่ลดลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสการตั้งครรภ์
- ปัญหามดลูก : เช่น เกิดเนื้องอก, พังผืด หรือเยื่อบุโพรงมดลูกผิดปกติ อาจทำให้ไข่ไม่สามารถฝังตัวได้เต็มที่
- ท่อนำไข่อุดตันบางส่วน : แม้ท่อนำไข่ไม่อุดตันทั้งหมด แต่ความผิดปกติใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับท่อนำไข่ก็ตาม อาจลดโอกาสให้เชื้ออสุจิเคลื่อนตัวไปพบกับไข่ได้เช่นกัน
ปัจจัยด้านผู้ชาย
- จำนวนอสุจิน้อย : การมีจำนวนอสุจิน้อยเกินไป อาจทำให้โอกาสในการปฏิสนธิลดลง
- ความเคลื่อนไหวไม่ดี : อสุจิที่เคลื่อนไหวช้า หรือไม่สามารถว่ายไปหาไข่ได้อย่างรวดเร็ว ย่อมส่งผลต่อการทำ IUI ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
- ความผิดปกติของรูปร่างอสุจิ : รูปร่างที่ผิดปกติทำให้โอกาสการผสมกับไข่ลดลง
ปัจจัยอื่น ๆ
- ความเครียดและไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต : ไม่ว่าจะเป็น การพักผ่อนไม่เพียงพอ, ความเครียดเรื้อรัง หรือการทำงานหนักสามารถส่งผลต่อฮอร์โมนและคุณภาพไข่
- โรคประจำตัว : เช่น โรคเบาหวาน, ความดันโลหิตสูง หรือภาวะฮอร์โมนไม่สมดุล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การทำ IUI ไม่ติด หรือมีโอกาสลดลงได้
ควรทำ IUI ไม่ติดกี่ครั้ง ถึงควรเริ่มพิจารณาวิธีอื่น ?
โดยทั่วไปแพทย์มักแนะนำให้ทำ IUI ประมาณ 3–6 รอบ หากไม่สำเร็จควรประเมินหาสาเหตุและปรึกษาแพทย์เพื่อเปลี่ยนแนวทางการรักษา โดยเฉพาะการทำ ICSI
เมื่อไหร่ควรเปลี่ยนไปทำ ICSI ?
- ผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปี : อายุที่มากขึ้น ทำให้คุณภาพของไข่ลดลง และส่งผลต่อความสำเร็จของการทำ IUI
- ปัญหามดลูกหรือท่อนำไข่ : หากพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับมดลูกหรือท่อนำไข่ การทำ IUI อาจไม่เพียงพอ
- ผู้ชายมีภาวะอสุจิผิดปกติรุนแรง : จำนวนอสุจิน้อยมาก (Oligospermia) หรือภาวะไม่มีอสุจิ (Azoospermia) รวมถึงเกิดภาวะเกี่ยวกับคุณภาพของอสุจิ เช่น ตัวอสุจิไม่มีการเคลื่อนไหว หรือรูปร่างผิดปกติ เป็นต้น
ICSI อีกหนึ่งทางเลือก เมื่อทำ IUI ไม่สำเร็จ
หนึ่งในทางเลือกที่ได้รับความนิยมในกรณีที่ทำ IUI ไม่ติด คือการทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ที่ตอบโจทย์กับคู่รักที่มีปัญหาอสุจิคุณภาพต่ำ แม้จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องใช้ความชำนาญมาก แต่ก็มีอัตราความสำเร็จสูงกว่าเมื่อเทียบกับวิธี IUI โดยเฉพาะในคู่ที่มีอายุมากหรือมีปัญหาภาวะเจริญพันธุ์ร่วม

ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)
ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ชนิดหนึ่งที่ใช้ในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว โดยเป็นการฉีดอสุจิที่แข็งแรงและสมบูรณ์เพียงหนึ่งตัวเข้าไปในเซลล์ไข่ 1 ฟองโดยตรง ด้วยเข็มขนาดเล็กภายใต้กล้องจุลทรรศน์ เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิและการตั้งครรภ์ โดยเหมาะสำหรับคู่รักที่ทำ IUI ไม่ติดมาแล้วหลายครั้ง เนื่องจากฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิผิดปกติ เช่น จำนวนอสุจิน้อยมาก เคลื่อนไหวไม่ดี หรือไม่สามารถเจาะเข้าไปในไข่เองได้
นัดหมายแพทย์เพื่อปรึกษาการทำ ICSI
เทคโนโลยีเสริมด้านการเจริญพันธุ์ ตัวช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จ
นอกจากการทำ ICSI แบบมาตรฐานแล้ว ปัจจุบันยังมีเทคโนโลยีเสริมที่ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์สำหรับคู่รักที่พบปัญหาทำ IUI ไม่ติด เช่น
- Microfluidic Chip สำหรับคัดสเปิร์มคุณภาพ : เป็นเทคนิคที่ช่วยคัดเลือกอสุจิที่มีความสมบูรณ์ แข็งแรง และเคลื่อนไหวดีที่สุด เพื่อลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดในการปฏิสนธิ
- การตรวจโครโมโซมตัวอ่อน (PGT-A) : การตรวจโครโมโซมของตัวอ่อนก่อนการย้ายกลับสู่มดลูก ช่วยเลือกตัวอ่อนที่มีโครโมโซมปกติ เพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และลดความเสี่ยงแท้ง
การเตรียมตัวเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์
การปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวัน
การปรับพฤติกรรมชีวิตประจำวันเป็นสิ่งสำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จของการทำ ICSI แม้ว่าจะเป็นขั้นตอนทางการแพทย์ที่ซับซ้อน แต่การดูแลตัวเองตั้งแต่ก่อนการกระตุ้นไข่จนถึงหลังการย้ายตัวอ่อน มีผลต่อความสำเร็จทั้งสิ้น
- ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เพราะน้ำหนักตัวมีผลต่อฮอร์โมนและการทำงานของรังไข่
- เลิกบุหรี่ ลดหรือหลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ เพราะสิ่งเหล่านี้อาจลดคุณภาพของไข่และอสุจิ
- พักผ่อนเพียงพอ และจัดเวลานอนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความเครียดและปรับสมดุลฮอร์โมน
โภชนาการและอาหารเสริม
อาหารมีบทบาทสำคัญต่อคุณภาพไข่และอสุจิ การเลือกอาหารที่เหมาะสมและเสริมด้วยวิตามิน สามารถช่วยให้ร่างกายพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์
- รับประทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผลไม้สด ผักใบเขียว เพื่อป้องกันการทำลายเซลล์ไข่
- โฟเลต วิตามินบี 12 และโอเมกา-3 ช่วยส่งเสริมการสร้างฮอร์โมนและคุณภาพของไข่
- โปรตีนจากแหล่งคุณภาพ เช่น ปลา ไข่ และเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน มีส่วนช่วยในการพัฒนารังไข่และเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย
การดูแลสุขภาพจิตใจ
ความเครียดเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อโอกาสสำเร็จของการทำ ICSI การดูแลสุขภาพจิตใจจึงเป็นสิ่งจำเป็น
- ฝึกสมาธิหรือทำกิจกรรมผ่อนคลาย เช่น ฝึกโยคะ หรือ ฝึกการหายใจลึก ๆ
- ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนที่ช่วยผ่อนคลาย
- การสนับสนุนจากคู่สมรสหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต จะช่วยให้ผู้หญิงรู้สึกมั่นใจและลดความเครียด
การทำ IUI ไม่ติดอาจสร้างความกังวลใจก็จริง แต่ไม่ใช่สัญญาณของความล้มเหลวถาวร การวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกวิธีสามารถช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้อีกทางหนึ่ง หากคุณกำลังวางแผนมีบุตรหรือมีปัญหาเกี่ยวกับภาวะเจริญพันธุ์ สามารถเข้ารับการตรวจ ประเมิน และวางแผนการรักษาที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) ทีมแพทย์พร้อมให้คำแนะนำและดูแลทุกขั้นตอนด้วยแผนการรักษาที่ออกแบบเฉพาะบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์อย่างมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q : ทำไมบางคนทำ IUI แล้วไม่ติด ทั้งที่สุขภาพโดยรวมอยู่ในเกณฑ์ปกติ ?
A : การทำ IUI แล้วไม่ติด เกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งยังสามารถเกิดได้จากทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ในผู้หญิงมักเกิดจากคุณภาพของไข่ลดลงตามอายุ ท่อนำไข่บางส่วนอุดตัน หรือมีปัญหามดลูก ส่วนฝ่ายชาย มักเกิดจากจำนวนอสุจิน้อย เคลื่อนไหวไม่ดี หรือรูปร่างผิดปกติ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยร่วมอื่น ๆ เช่น ความเครียด โรคประจำตัว หรือฮอร์โมนไม่สมดุล การประเมินปัจจัยทั้งหมดจะช่วยให้วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
Q : การตรวจสุขภาพก่อนทำ IUI จำเป็นแค่ไหน ช่วยลดโอกาสไม่สำเร็จได้ไหม ?
A : การตรวจสุขภาพที่ครบถ้วนก่อนทำ IUI เป็นขั้นตอนที่สำคัญ เพราะมีส่วนช่วยระบุปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้ทำ IUI ไม่ติด เช่น ภาวะท่อนำไข่อุดตัน ปัญหามดลูก หรือภาวะอสุจิผิดปกติ เมื่อแพทย์ทราบผลการตรวจร่างกายก็จะสามารถปรับแนวทางการกระตุ้นไข่หรือคัดสเปิร์มได้อย่างเหมาะสมมากขึ้น
Q : หากทำ IUI หลายครั้งแล้วไม่ติด ควรปรึกษาแพทย์เมื่อไหร่ ?
A : หากทำ IUI ครบ 3–6 รอบแต่ยังไม่ตั้งครรภ์ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะมีบุตรยาก เพื่อประเมินปัจจัยเพิ่มเติมและพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น การทำ ICSI ซึ่งมักให้ผลลัพธ์ที่สูงกว่า
Q : การรักษามดลูกอักเสบส่งผลกระทบต่อคุณภาพของไข่หรืออสุจิหรือไม่ ?
การรักษาอาการมดลูกอักเสบ โดยทั่วไปจะใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของไข่หรืออสุจิ อย่างไรก็ตาม การอักเสบที่เกิดขึ้นในโพรงมดลูกอาจส่งผลเสียต่อการฝังตัวของตัวอ่อนได้
บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.