“โรคอะไรมีลูกไม่ได้” มักเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ (เช่น PCOS, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เนื้องอกมดลูก), คุณภาพสเปิร์มที่ลดลงในผู้ชาย (เช่น varicocele, ฮอร์โมนเพศต่ำ, การติดเชื้อเรื้อรัง), และโรคเรื้อรังที่รบกวนฮอร์โมน/การไหลเวียน (เช่น ไทรอยด์ เบาหวาน โรคไต/ตับ โรคภูมิคุ้มกัน อ้วน) รวมถึงผลข้างเคียงของยาบางชนิด (คีโม ยาบางกลุ่ม) แนวทางคือประเมินสุขภาพ ฮอร์โมน และโครงสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ พร้อมวางแผนรักษาเฉพาะบุคคล และพิจารณาเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ (IUI/ICSI) เมื่อต้องการเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์อย่างปลอดภัย
การมีบุตรเป็นความฝันของคู่รักหลาย ๆ คู่ ที่ต้องการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ในความเป็นจริง คู่รักอีกหลาย ๆ คู่กลับต้องเจอกับอุปสรรคจากปัญหาสุขภาพบางประการที่ส่งผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์ ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากหรือทำให้ไม่สามารถมีลูกได้ บทความนี้จะพาไปสำรวจกันว่ามีโรคอะไรบ้างที่ทำให้มีลูกยาก หรือส่งผลกระทบจนมีลูกไม่ได้ เพื่อให้คู่รักสามารถวางแผนการใช้ชีวิตในอนาคต
สาเหตุที่ทำให้อาการป่วย เป็นหนึ่งในปัจจัยที่กระทบต่อการตั้งครรภ์
การมีบุตรเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องอาศัยการทำงานร่วมกันของหลายระบบในร่างกาย เมื่อมีโรคหรือภาวะผิดปกติเกิดขึ้น อาจส่งผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์และกลายเป็นอุปสรรคต่อการมีบุตรในที่สุด อีกทั้งยังสามารถเกิดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย การเข้าใจถึงสาเหตุคือสิ่งที่คู่รักต้องทำความเข้าใจอย่างรอบด้าน เพื่อให้เห็นถึงแนวทางการรักษาและการดูแลตนเองในขั้นตอนต่อไป
ปัจจัยทางร่างกายและฮอร์โมน
ความไม่สมดุลของฮอร์โมนถือเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยาก โดยเฉพาะในผู้หญิงที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ เช่น ฮอร์โมน FSH, LH, และโปรเจสเตอโรน หากไม่สมดุลจะส่งผลให้ไข่ไม่ตกสม่ำเสมอ หรือบางรอบเดือนไม่มีไข่ตกเลย ทำให้โอกาสในการปฏิสนธิลดลง
ปัจจัยทางสุขภาพ อาการป่วยเรื้อรัง
หากถามว่ามีโรคอะไรบ้างที่เป็นสาเหตุทำให้มีลูกไม่ได้ ? โรคเรื้อรังบางชนิดอย่าง โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ หรือโรคเกี่ยวกับระบบเผาผลาญ ถือเป็นตัวการสำคัญ เนื่องจากภาวะของอาการจะส่งผลกระทบต่อร่างกายค่อนข้างมาก จนทำให้ร่างกายเข้าสู่สภาวะที่ไม่พร้อมต่อการตั้งครรภ์ได้ นอกจากนี้ การทำงานของฮอร์โมนที่ไม่สมบูรณ์จากโรคเหล่านี้ยังจะส่งผลต่อคุณภาพของไข่และสเปิร์มอีกด้วย
นอกจากนี้ ผลข้างเคียงของยารักษาโรคบางชนิด เช่น ยาคีโม ยาลดความดันโลหิตบางประเภท หรือยาต้านซึมเศร้า ก็ถือเป็นสาเหตุที่ส่งผลกระทบต่อการผลิตสเปิร์มหรือการตกไข่ได้เช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้ที่มีอาการป่วยเรื้อรังและต้องใช้ยารักษาในระยะยาว จึงควรปรึกษาแพทย์ก่อนวางแผนมีบุตร
นัดหมายประเมินภาวะมีบุตรยากที่นี่
โรคในผู้หญิงที่อาจส่งผลทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก
กลุ่มโรคที่เกี่ยวกับมดลูกและรังไข่
- PCOS (ถุงน้ำรังไข่หลายใบ) : ภาวะนี้ทำให้รังไข่มีถุงน้ำเล็ก ๆ จำนวนมาก ส่งผลให้ไข่ไม่ตกสม่ำเสมอ และมีความผิดปกติของฮอร์โมนอินซูลินร่วมด้วย ซึ่งเป็นโรคที่ทำให้มีลูกยากโดยตรง
- เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) : เซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตผิดตำแหน่ง เช่น ที่รังไข่หรือท่อนำไข่ ก่อให้เกิดพังผืดและอุดตัน ทำให้ตัวอ่อนปฏิสนธิหรือฝังตัวได้ยาก
- เนื้องอกในมดลูก (Fibroid) : หากมีขนาดใหญ่หรืออยู่ในตำแหน่งที่ขัดขวางการฝังตัว อาจลดโอกาสตั้งครรภ์ และเพิ่มความเสี่ยงแท้งบุตร
โรคในผู้ชายที่อาจทำให้มีลูกไม่ได้
โรคที่ส่งผลต่อสเปิร์ม
- ภาวะเส้นเลือดขอดในถุงอัณฑะ (Varicocele) : เป็นสาเหตุของสเปิร์มคุณภาพต่ำ เนื่องจากอุณหภูมิบริเวณอัณฑะสูงกว่าปกติ ทำให้สเปิร์มไม่แข็งแรง
- ฮอร์โมนเพศชายต่ำ (Low Testosterone) : เมื่อระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำลง จะกระทบต่อการสร้างสเปิร์มโดยตรง
- การติดเชื้อเรื้อรังในอัณฑะหรือท่อปัสสาวะ : การอักเสบเรื้อรังอาจทำลายเซลล์สืบพันธุ์ และทำให้สเปิร์มเคลื่อนไหวได้ไม่ดี
โรคอะไรที่ทำให้มีลูกไม่ได้ ? : โรคเรื้อรังที่มักสร้างปัญหาต่อภาวะมีบุตรยาก
- โรคไทรอยด์ : ทั้งภาวะไทรอยด์เป็นพิษ (Hyperthyroidism) และภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์ (Hypothyroidism) หากไม่ได้รับการรักษา อาจรบกวนวงจรประจำเดือนและการตกไข่ ทำให้มีบุตรยาก
- โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) : เบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลได้ไม่ดี อาจส่งผลต่อความสมดุลของฮอร์โมน ทำให้การตกไข่ผิดปกติ และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์
- โรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน (Autoimmune Diseases) : บางโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน เช่น โรคลูปัส (Lupus) หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) อาจทำให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีขึ้นมาทำลายเซลล์สืบพันธุ์หรือขัดขวางการตั้งครรภ์
- โรคอ้วน (Obesity) : ภาวะน้ำหนักเกินอย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลต่อการตกไข่ ทำให้ประจำเดือนมาไม่ปกติหรือขาดหายไป และเพิ่มความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์
- ความผิดปกติของต่อมใต้สมอง : ต่อมใต้สมองทำหน้าที่ควบคุมฮอร์โมนหลายชนิดที่เกี่ยวข้องกับการตกไข่ หากเกิดความผิดปกติ เช่น ภาวะฮอร์โมนโพรแลกตินสูง (Hyperprolactinemia) อาจทำให้การตกไข่หยุดชะงัก
- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เรื้อรัง : การติดเชื้อบางชนิด เช่น หนองในแท้ (Gonorrhea) หรือหนองในเทียม (Chlamydia) หากไม่ได้รับการรักษา อาจทำให้เกิดการอักเสบในอุ้งเชิงกราน และทำให้ท่อนำไข่อุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการมีบุตรยาก
การป้องกันและวางแผนก่อนมีบุตร สำหรับผู้ป่วยโรคที่มีผลกระทบต่อการสืบพันธุ์

ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงานหรือก่อนพยายามมีลูก
สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะของโรคเรื้อรังและเสี่ยงมีลูกไม่ได้ การประเมินสุขภาพโดยรวม ตลอดจนการตรวจเลือดเพื่อหาความผิดปกติของฮอร์โมน ร่วมกับการตรวจด้านพันธุกรรม คือทางออกที่จะช่วยให้คู่รักทราบความเสี่ยงที่อาจกระทบต่อการมีบุตร ซึ่งการตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาหรือการปรับพฤติกรรมได้อย่างเหมาะสม
ตรวจสุขภาพและประเมินภาวะมีบุตรยากกับแพทย์ผู้ชำนาญการของเราได้ตั้งแต่วันนี้
ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านมีบุตรยาก (Reproductive Specialist)
หากตรวจพบปัจจัยมีบุตรยากหรือโรคที่ส่งผลต่อการสืบพันธุ์ แพทย์จะสามารถแนะนำแนวทางการรักษาเฉพาะบุคคลได้อย่างเหมาะสม หรือหากจำเป็นอาจต้องใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ในขั้นตอนการรักษา เช่น
- ICSI : ฉีดสเปิร์มเข้าไปในไข่โดยตรง เหมาะสำหรับผู้ชายที่มีสเปิร์มจำนวนน้อยหรือคุณภาพไม่ดี
- IUI : ฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกในช่วงไข่ตก เพื่อเพิ่มโอกาสการปฏิสนธิ
โรคบางอย่างทำให้การมีลูกยากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีทางออก หลายคู่มักตั้งคำถามว่าโรคอะไรมีลูกไม่ได้ ซึ่งความจริงคือ แม้จะมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง แต่การรักษาร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ สามารถช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่รักมีลูกได้ การตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญที่ช่วยให้คุณมีลูกได้อย่างที่ตั้งใจ
ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรามีทีมสูตินรีแพทย์ พร้อมดูแลผู้มีภาวะมีบุตรยากและให้คำปรึกษา ภายใต้การดูแลด้วยเทคโนโลยี เช่น IUI และ ICSI เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังเผชิญภาวะมีลูกยากให้มีความหวังและเส้นทางใหม่ในการสร้างครอบครัว
คำถามที่พบบ่อย (FAQ): โรคอะไรบ้างที่ทำให้มีลูกยากหรือมีไม่ได้?
Q1: มีโรคอะไรบ้างที่สัมพันธ์กับภาวะมีบุตรยาก?
A: พบได้ทั้งเพศหญิงและชาย เช่น ในผู้หญิง: PCOS, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่, เนื้องอกมดลูก; ในผู้ชาย: varicocele, ฮอร์โมนเพศชายต่ำ, การติดเชื้อเรื้อรังของอัณฑะ/ทางเดินปัสสาวะ รวมถึงโรคเรื้อรังและยาบางชนิดที่กระทบฮอร์โมน/สเปิร์ม/มดลูก
Q2: โรคเรื้อรังทั่วไปมีผลต่อการมีลูกอย่างไร?
A: ไทรอยด์ เบาหวาน โรคไต/ตับ โรคหัวใจ และโรคภูมิคุ้มกัน อาจรบกวนฮอร์โมน การตกไข่ คุณภาพสเปิร์ม และการไหลเวียนเลือดไปยังมดลูกและรก ส่งผลให้ตั้งครรภ์ยาก เสี่ยงแท้ง หรือคลอดก่อนกำหนดมากขึ้น
Q3: ยาที่ใช้รักษาโรคมีผลทำให้มีลูกไม่ได้หรือไม่?
A: ยาบางชนิด (เช่น คีโม, ยาบางกลุ่มที่มีผลต่อฮอร์โมน การสร้างสเปิร์ม) อาจลดความสามารถในการเจริญพันธุ์ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ก่อนวางแผนมีบุตรเพื่อพิจารณาปรับยา และช่วงเวลาให้เหมาะสม
Q4: เมื่อไรควรประเมินภาวะมีบุตรยากอย่างจริงจัง?
A: เมื่อพยายามตั้งครรภ์ ≥12 เดือน (หรือ ≥6 เดือนในอายุ ≥35 ปี) มีประจำเดือนผิดปกติ ปวดอุ้งเชิงกรานเรื้อรัง สงสัยท่อนำไข่อุดตัน หรือผลตรวจน้ำเชื้อผิดปกติ ควรประเมินครบวงจร (ฮอร์โมน อัลตราซาวนด์ โครงสร้าง ท่อนำไข่ น้ำเชื้อ)
Q5: หากมีโรคหรือปัจจัยเสี่ยง สามารถเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
A: รักษาโรคต้นเหตุ/ปรับยา ควบคุมโรคประจำตัว (น้ำตาล/ความดัน/ไทรอยด์) ปรับพฤติกรรมสุขภาพ และพิจารณาเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ตามข้อบ่งชี้ เช่น IUI เพื่อพาอสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก หรือ ICSI เมื่อสเปิร์มหรือปัจจัยฝ่ายหญิงมีข้อจำกัด
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.