เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ฝากไข่อายุเท่าไหร่ ? ชวนเข้าใจเพื่อวางแผนมีบุตรอย่างปลอดภัย

ผู้หญิงปรึกษาสูตินรีแพทย์ว่าควรฝากไข่อายุเท่าไหร่ดีที่สุด

Table of Contents

“ฝากไข่อายุเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด?” เป็นคำถามสำคัญของผู้หญิงยุคใหม่ที่ต้องการวางแผนมีบุตรอย่างปลอดภัยในอนาคต การฝากไข่หรือการแช่แข็งไข่ เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ช่วยเก็บรักษาไข่คุณภาพดีไว้ในช่วงวัยที่ร่างกายยังแข็งแรง เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ภายหลัง ช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดในการฝากไข่คือระหว่าง 25–35 ปี เพราะเป็นช่วงที่รังไข่ตอบสนองต่อการกระตุ้นได้ดีที่สุด ไข่มีคุณภาพสูง และมีจำนวนเพียงพอสำหรับใช้ในอนาคต ส่วนผู้ที่อายุมากกว่า 35 ปียังสามารถฝากไข่ได้เช่นกัน แต่ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อประเมินโอกาสและวางแผนอย่างเหมาะสมก่อนตัดสินใจ

ในยุคปัจจุบัน ผู้หญิงจำนวนมากเลือกให้ความสำคัญกับการเรียน การงาน หรือเป้าหมายชีวิตส่วนตัว ก่อนเรื่องการสร้างครอบครัว ทำให้แนวโน้มของการแต่งงานและมีลูกเริ่มช้าลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ช่วงอายุที่เหมาะสมต่อการมีลูกถูกเลื่อนออกไป ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไป คุณภาพของไข่ย่อมลดลงตามธรรมชาติ

เทคโนโลยีการ “ฝากไข่” หรือ “แช่แข็งไข่” จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงยังสามารถมีลูกในเวลาที่เหมาะสมกับตนเองได้ โดยไม่ต้องกังวลกับความเสื่อมของร่างกายที่มากับอายุ 

สำหรับใครที่กำลังหาข้อมูลว่า ควรฝากไข่ในช่วงอายุเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด ? บทความนี้มีคำตอบ

ควรฝากไข่ในช่วงอายุเท่าไหร่ ?

ช่วงอายุที่ดีที่สุดสำหรับการฝากไข่

ช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝากไข่ คือ ระหว่าง 25-35 ปี เนื่องจากรังไข่ยังตอบสนองต่อการกระตุ้นได้ดี ร่างกายยังผลิตไข่ที่มีคุณภาพสูง และสามารถเก็บไข่ได้ในจำนวนมาก ส่งผลให้โอกาสสำเร็จของการตั้งครรภ์ในอนาคตสูงตามไปด้วย

หากฝากไข่หลังอายุ 35 ปี จะเป็นอย่างไร ?

เมื่ออายุเกิน 35 ปี รังไข่อาจเริ่มเสื่อมสภาพลง ส่งผลให้โอกาสที่ไข่จะปฏิสนธิและฝังตัวสำเร็จลดลงอย่างต่อเนื่อง ในบางรายอาจต้องเก็บไข่หลายรอบถึงจะได้จำนวนที่เพียงพอ ซึ่งแม้ว่าจะยังสามารถฝากไข่ได้ แต่อาจต้องใช้เวลาและการดูแลที่มากขึ้น

สามารถฝากไข่ตอนอายุ 40 ปีขึ้นไปได้ไหม ?

แม้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบันจะสามารถเก็บไข่ในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปได้ แต่โอกาสตั้งครรภ์จากไข่ที่เก็บไว้ในช่วงอายุนี้จะต่ำกว่าช่วงวัยหนุ่มสาวอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องของคุณภาพไข่และความเสี่ยงของความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น ดาวน์ซินโดรม อย่างไรก็ตาม หากเป็นทางเลือกสุดท้าย การฝากไข่ในวัยนี้ยังถือว่ามีประโยชน์ โดยเฉพาะหากมีการวางแผนใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพิ่มเติม

นัดหมายสูตินรีแพทย์ เพื่อปรึกษาเรื่องการฝากไข่

ความเสื่อมของคุณภาพไข่ตามอายุ

ผู้หญิงเกิดมาพร้อมจำนวนไข่ที่มีจำกัด และร่างกายไม่สามารถสร้างไข่ใหม่ได้ตลอดชีวิต เมื่ออายุมากขึ้น ทั้งปริมาณและคุณภาพของไข่จะลดลง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป ความสามารถในการตั้งครรภ์จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และความเสี่ยงของการแท้งหรือความผิดปกติทางพันธุกรรมของทารกจะเพิ่มขึ้น

การฝากไข่จึงเป็นทางเลือกเพื่อเก็บไข่คุณภาพดีไว้ในช่วงที่ร่างกายยังพร้อม ก่อนที่ธรรมชาติจะส่งผลต่อศักยภาพในการเจริญพันธุ์

สูตินรีแพทย์กำลังให้คำแนะนำว่าควรฝากไข่อายุเท่าไหร่

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนฝากไข่

สุขภาพโดยรวมและฮอร์โมน

ก่อนตัดสินใจฝากไข่ ควรเข้ารับการตรวจประเมินร่างกาย โดยเฉพาะการตรวจฮอร์โมน AMH (Anti-Müllerian Hormone) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ปริมาณไข่ที่ยังเหลืออยู่ รวมถึงการอัลตราซาวนด์ดูจำนวนไข่ที่ยังไม่ได้ตกในรังไข่ และการประเมินฮอร์โมนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น FSH, LH, Estradiol เป็นต้น

แผนชีวิตและความพร้อมทางการเงิน

การแช่แข็งไข่มีค่าใช้จ่ายหลัก 2 ส่วน ได้แก่

  1. ค่าเก็บไข่ครั้งแรก : รวมค่าปรึกษาแพทย์ ค่ายา ค่าหัตถการ และค่าห้องปฏิบัติการ
  2. ค่าฝากไข่รายปี : สำหรับการเก็บรักษาไข่แช่แข็ง 

ผู้ที่ต้องการเข้ารับการฝากไข่ ควรวางแผนเรื่องค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องใช้ในการทำหัตถการร่วมด้วย เพื่อให้กระบวนการเป็นไปอย่างราบรื่น

ผลข้างเคียงจากการทำหัตถการ

การกระตุ้นไข่และเก็บไข่โดยทั่วไปถือว่าปลอดภัย แต่ก็อาจมีผลข้างเคียงดังต่อไปนี้

  • ภาวะรังไข่ตอบสนองมากเกินไป (OHSS)
  • อาการปวดท้องหรือแน่นท้องจากรังไข่ขยายตัว
  • มีเลือดออกเล็กน้อยภายหลังการเก็บไข่

อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงเหล่านี้สามารถลดลงได้ หากอยู่ภายใต้การดูแลของสูตินรีแพทย์

ผลลัพธ์และโอกาสสำเร็จของการฝากไข่

จากคำถามที่ว่า ควรฝากไข่ในช่วงอายุเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด คำตอบคือ การฝากไข่ในช่วงอายุน้อย จะทำให้ได้ไข่ที่มีคุณภาพดี และส่งผลต่อโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้มากกว่า ดังสถิติต่อไปนี้ 

  • ไข่ที่เก็บตอนอายุ ≤ 30 ปี มีโอกาสตั้งครรภ์สำเร็จสูงสุด (มากกว่า 60%)
  • ไข่ที่เก็บช่วงอายุ 35–37 ปี ความสำเร็จลดลงเหลือประมาณ 30-40%
  • หลังอายุ 40 ปี โอกาสสำเร็จอาจต่ำกว่า 15%

นัดหมายสูตินรีแพทย์ เพื่อปรึกษาเรื่องการฝากไข่

ฝากไข่แล้วสามารถเก็บได้นานแค่ไหน ?

ระยะเวลาเก็บรักษาไข่แช่แข็ง

ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน ไข่ที่เก็บไว้สามารถคงคุณภาพได้ยาวนานถึง 10 ปีขึ้นไป โดยไม่ส่งผลเสียต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ หากเก็บไว้ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

กฎหมายหรือข้อกำหนดของคลินิก

แม้ในทางวิทยาศาสตร์ไข่จะเก็บได้นานหลายสิบปี แต่ในทางปฏิบัติ บางคลินิกอาจมีข้อจำกัดตามแนวทางของแพทยสภา เช่น การจำกัดอายุของผู้หญิงที่สามารถนำไข่กลับมาใช้ (เช่น ไม่เกิน 50 ปี) หรือจำนวนปีที่อนุญาตให้เก็บไข่ไว้โดยไม่ต่อสัญญา

หากคุณกำลังพิจารณาเรื่องการฝากไข่เพื่อวางแผนการมีบุตรอย่างมั่นใจ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) พร้อมให้คำปรึกษาและดูแลทุกขั้นตอนโดยสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมาตรฐานระดับสากล เราเชื่อว่าทุกความฝันในการมีลูกสามารถเป็นจริงได้ เมื่อมีการวางแผนที่ดีตั้งแต่วันนี้

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

Q : ฝากไข่อายุเท่าไหร่ถึงได้ผลดีที่สุด ?

A : ช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝากไข่ คือ ระหว่าง 25-35 ปี เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายผลิตไข่คุณภาพดีมากที่สุด ส่งผลให้มีโอกาสตั้งครรภ์จากไข่ที่ฝากไว้สูงขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงอายุมากกว่า 35 ปีก็ยังสามารถฝากไข่ได้ โดยควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินโอกาสและความเหมาะสมเป็นรายบุคคล

Q : ฝากไข่ตอนอายุมากเกินไป เสี่ยงอะไรบ้าง ?

A : อายุที่มากขึ้นส่งผลต่อทั้งจำนวนและคุณภาพของไข่ ซึ่งอาจลดโอกาสในการประสบความสำเร็จเมื่อนำไข่มาใช้ในอนาคต รวมถึงเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์  เช่น การแท้งบุตร หรือ ความผิดปกติของทารก

Q : ฝากไข่แล้วสามารถเก็บได้นานแค่ไหน ?

A : ไข่ที่ถูกแช่แข็งในสภาวะไนโตรเจนเหลว สามารถเก็บรักษาได้นานหลายปีโดยไม่สูญเสียคุณภาพ ทั้งนี้ ระยะเวลาในการฝากและการนำไข่ไปใช้งาน ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขทางกฎหมายและนโยบายของสถานพยาบาล

Q : ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนเข้ารับการฝากไข่ ?

A : ควรเข้ารับการตรวจฮอร์โมนและอัลตราซาวนด์ประเมินจำนวนไข่ พร้อมทั้งงดบุหรี่ แอลกอฮอล์ และพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเริ่มกระบวนการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการกระตุ้นไข่

Q : การฝากไข่มีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงไหม ?

A : การฝากไข่เป็นกระบวนการที่มีความปลอดภัยสูง แต่ก็อาจมีอาการข้างเคียงจากการกระตุ้นไข่ เช่น ปวดท้อง แน่นท้อง หรือความเสี่ยงภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป (OHSS) ซึ่งสามารถป้องกันได้เมื่ออยู่ภายใต้การดูแลของสูตินรีแพทย์

 

บทความโดย แพทย์หญิงศรมน ทรงวีรธรรม

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Consult with Dr. Sorramon Songveeratham at our leading fertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.