เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

9 สารอันตราย สาเหตุภาวะมีบุตรยาก กระทบต่อการตั้งครรภ์

แพทย์อธิบายให้คนไข้ฟังว่าสารก่อกวนฮอร์โมนส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร

การเผชิญกับสารเคมีที่อยู่รอบตัวเราในชีวิตประจำวันมีผลกระทบที่ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะสารก่อกวนฮอร์โมน (Endocrine Disruptors) ซึ่งมีคุณสมบัติในการรบกวนการทำงานของฮอร์โมนในร่างกาย ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และสุขภาพโดยรวม อีกทั้งในหลาย ๆ กรณี สารเหล่านี้ยังอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่เพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะมีบุตรยากทั้งในเพศชายและเพศหญิง ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายคนกำลังเผชิญอยู่โดยไม่รู้ตัว

สารก่อกวนฮอร์โมน (Endocrine Disruptors) คืออะไร?

สารก่อกวนฮอร์โมน หรือ Endocrine Disruptors คือ สารเคมีที่สามารถแทรกแซงการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine System) ในร่างกายมนุษย์และสัตว์ ซึ่งระบบต่อมไร้ท่อมีหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนที่ควบคุมการทำงานของกระบวนการสำคัญต่าง ๆ เช่น การเจริญเติบโต การเผาผลาญอาหาร ระบบสืบพันธุ์ และพฤติกรรมของร่างกาย จึงเป็นหนึ่งในสาเหตุของการเกิดภาวะมีบุตรยากทั้งในเพศชายและเพศหญิง ตลอดจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั่วไปได้ในระยะยาว

การทำงานของสารก่อกวนฮอร์โมน

สารเหล่านี้ทำงานโดยการจับกับตัวรับฮอร์โมน (Hormone Receptors) ทำให้เกิดผลกระทบในร่างกายของผู้ที่ได้รับสาร รวมทั้งอาจส่งผลต่อการสืบทอดในรุ่นถัดไป โดยสารกลุ่มนี้อาจเลียนแบบฮอร์โมนตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิดสัญญาณผิดปกติในร่างกายได้

บางกรณี สารก่อกวนอาจยับยั้งการออกฤทธิ์ของฮอร์โมน ทำให้ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อฮอร์โมนได้ตามปกติ นอกจากนี้ สารบางชนิดยังจะไปรบกวนกระบวนการสังเคราะห์หรือสลายฮอร์โมน ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายผิดปกติอีกด้วย

ผลกระทบจากสารก่อกวนฮอร์โมนส่งผลต่อหลายระบบในร่างกาย โดยเฉพาะในระบบสืบพันธุ์ การเจริญเติบโต ระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน และการเผาผลาญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณ ระยะเวลาที่ได้รับสาร รวมทั้งช่วงวัยที่สัมผัสสาร จึงควรทำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงเพื่อลดการเกิดความผิดปกติในร่างกาย

สารก่อกวนฮอร์โมนที่ส่งผลต่อภาวะมีบุตรยากและการตั้งครรภ์

สารก่อกวนฮอร์โมนที่ส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยาก

อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าสารก่อกวนฮอร์โมนไม่ได้ส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์เท่านั้น แต่ยังเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตทั้งในระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกัน และระบบเผาผลาญด้วย อีกทั้งสารที่มีฤทธิ์รบกวนระบบสืบพันธุ์ยังจะส่งผลทำให้มีบุตรยากได้ โดยเฉพาะสารเหล่านี้

1. Xenoestrogen

สารเคมีสังเคราะห์ที่เลียนแบบฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายมนุษย์ สามารถจับกับตัวรับฮอร์โมนในร่างกายและกระทบกับสมดุลฮอร์โมน พบในพลาสติกบางชนิด เครื่องสำอาง สีทาบ้าน ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด และยาฆ่าแมลง ทำให้มีบุตรยากได้ทั้งเพศชายและเพศหญิง เนื่องจากจะไปส่งผลให้คุณภาพไข่และสเปิร์มลดลง เพิ่มความเสี่ยงการเกิดภาวะไข่ไม่ตก โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซีสต์ในรังไข่ และมะเร็งบางชนิด

2. ยาฆ่าแมลงและยาฆ่าวัชพืช

สารเคมีที่พบเห็นบ่อยในการทำเกษตรกรรม เช่น Organochlorines, Organophosphates, Pyrethroids และ Glyphosate นอกจากจะได้รับโดยการสัมผัสโดยตรงแล้ว ยังสามารถตกค้างในผัก ผลไม้ น้ำ และอากาศในบริเวณใกล้เคียงได้ มีคุณสมบัติรบกวนการทำงานของฮอร์โมนควบคุมการตกไข่และผลิตเซลล์สืบพันธุ์ ส่งผลให้คุณภาพและปริมาณสเปิร์มลดลง รวมทั้งทำให้ไข่ตกผิดปกติ ไข่มีคุณภาพต่ำ มีบุตรยาก และเกิดภาวะแท้งได้

3. พาทาเลตส์ (Phthalates)

พบมากในกระบวนการผลิตพลาสติกที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น PVC บรรจุภัณฑ์อาหาร ของเล่นเด็ก และผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายบางชนิด มีฤทธิ์รบกวนการสร้างและหลั่งฮอร์โมนเพศ ทั้งเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ส่งผลกระทบต่อคุณภาพไข่และสเปิร์ม มีผลต่อการตกไข่ การพัฒนาของเยื่อบุโพรงมดลูก กล่าวคือ ยิ่งสัมผัสสารพาทาเลตส์มาก ก็จะยิ่งเสี่ยงต่อภาวะมีบุตรยากและแท้งได้ง่ายขึ้น 

4. โลหะหนัก

  • แคดเมียม พบในบุหรี่ อาหารทะเล ข้าว พืชผักบางชนิด การทำเหมือง โรงงานอุตสาหกรรม ทำให้รอบเดือนและการตกไข่ผิดปกติ และรบกวนการฝังตัวของตัวอ่อน
  • ตะกั่ว มักปนเปื้อนอยู่ในน้ำดื่ม หากผู้หญิงได้รับสารตะกั่วในปริมาณมาก จะลดคุณภาพและจำนวนไข่ ทำให้ความสำเร็จในการตั้งครรภ์ลดลง 
  • สารหนู อยู่ในน้ำดื่ม พืชผัก และอาหารทะเล ทำให้ระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนลดลง และขัดขวางการเจริญเติบโตและคุณภาพไข่ จึงตั้งครรภ์ได้ยากขึ้น

5. สารเคมีในพลาสติกชนิดต่าง ๆ (Dioxins)

เกิดจากกระบวนการเผาไหม้ การผลิตสารเคมีอุตสาหกรรม และพลาสติกบางชนิด สะสมในร่างกายได้เป็นเวลานาน มีคุณสมบัติลดคุณภาพเซลล์สืบพันธุ์ในเพศชาย รบกวนการทำงานของรังไข่ ไข่จึงมีจำนวนลดลง ทำให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ยากขึ้น

สารก่อกวนฮอร์โมนที่คนวางแผนมีบุตรต้องระวัง

สารก่อกวนฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบระหว่างการตั้งครรภ์

นอกเหนือจากจะส่งผลต่อระบบสืบพันธุ์และทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากทั้งในเพศชายและเพศหญิงแล้ว สารก่อกวนบางชนิดยังเป็นอันตรายสำหรับหญิงตั้งครรภ์ด้วย ซึ่งสารเคมีที่หญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงระหว่างการตั้งครรภ์ ได้แก่

1. Diethylstilbestrol (DES)

ฮอร์โมนสังเคราะห์ที่เคยใช้เพื่อป้องกันการแท้งบุตร แต่ภายหลังพบว่าส่งผลต่อหญิงตั้งครรภ์และทารกหลายประการ จึงถูกยกเลิกไป ด้วยผลกระทบ ดังนี้ 

  • เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งช่องคลอดและมะเร็งปากมดลูกในทารกเพศหญิง
  • ทำให้โครงสร้างอวัยวะสืบพันธุ์ของทารกเพศหญิงผิดปกติ เช่น ช่องคลอดสั้น มดลูกผิดปกติ
  • เพิ่มความเสี่ยงภาวะแท้ง คลอดก่อนกำหนด และทารกเสียชีวิตในครรภ์

2. เอทานอล (Ethanol)

หรือแอลกอฮอล์ที่สามารถรับประทานได้ ถือเป็นสารก่อกวนฮอร์โมนที่อันตรายมาก การดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างตั้งครรภ์จะเพิ่มความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพด้านต่าง ๆ ของทารกในระยะยาว เช่น ภาวะพิการ การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักน้อย สมองและระบบประสาทพัฒนาผิดปกติ นำไปสู่ความบกพร่องทางสติปัญญาในเด็ก

3. สารกัมมันตรังสี

พบได้ในการฉายรังสีเพื่อรักษามะเร็งและในสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติด้านสมองและร่างกายแต่กำเนิด เพิ่มความเสี่ยงโรคเลือดและโรคมะเร็งในทารก และหากได้รับในช่วง 2-5 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ อาจก่อให้เกิดภาวะแท้ง

4. Bisphenol A (BPA)

สารเคมีที่ใช้ในการผลิตพลาสติกและเรซิน เช่น ขวดน้ำพลาสติก ของเล่นเด็ก เครื่องใช้ในบ้าน มีคุณสมบัติคล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด ส่งผลต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักตัวน้อย มีความเสี่ยงครรภ์เป็นพิษ หรือแท้งได้

หลีกเลี่ยงสารเคมีอันตรายที่มีคุณสมบัติรบกวนการทำงานของฮอร์โมน เพื่อลดความเสี่ยงภาวะมีบุตรยากและผลกระทบต่อทารกในครรภ์ และหากต้องการวางแผนตั้งครรภ์ให้ราบรื่น เริ่มต้นได้ตั้งแต่การเตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ หรือคู่รักคู่ไหนกำลังตัดสินใจว่า ควรไปตรวจความพร้อมมีบุตรที่ไหนดี VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ยินดีให้คำปรึกษาทุกข้อสงสัยด้านการวางแผนตั้งครรภ์และมีบุตร รวมถึงการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีต่าง ๆ เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ดูแลทุกขั้นตอนโดยสูตินรีแพทย์และเจ้าหน้าที่มากประสบการณ์

 

บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.