เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ภาวะ APS คือหนึ่งในสาเหตุของการมีบุตรยาก พร้อมวิธีการรักษา

APS (Antiphospholipid Syndrome) คือภาวะที่ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์

คู่สมรสที่พยายามมีบุตรและกำลังเข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการ IVF (In Vitro Fertilization) หรือ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ แม้จะผ่านการกระตุ้นไข่ เก็บไข่ ปฏิสนธิ และย้ายตัวอ่อนมาหลายครั้งแล้วก็ตาม สิ่งหนึ่งที่อาจต้องพิจารณาอย่างจริงจังคือ ภาวะ APS (Antiphospholipid Syndrome) หรือที่เรียกกันว่า “แอนติฟอสโฟลิพิด ซินโดรม”

ภาวะนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่อาจส่งผลต่อการฝังตัวของตัวอ่อน และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์ การทำความเข้าใจภาวะ APS อย่างลึกซึ้ง จะช่วยให้คุณและคู่สมรสสามารถตัดสินใจหาวิธีการรักษาที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้เป็นไปตามที่คาดหวัง

ภาวะ APS คืออะไร?

ภาวะ APS (Antiphospholipid Syndrome) คือภาวะที่ระบบภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โดยการสร้างแอนติบอดีที่โจมตีโปรตีนฟอสโฟลิพิดในร่างกาย ซึ่งมีผลทำให้เกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือดและอาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงมดลูก ทำให้การฝังตัวของตัวอ่อนไม่สำเร็จ หรือเสี่ยงเกิดภาวะแท้งคุกคามได้

การตรวจวินิจฉัยเพื่อวิเคราะห์หาภาวะ APS

การวินิจฉัยภาวะ APS มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง การตรวจวินิจฉัยภาวะ APS จะดำเนินการโดยแพทย์ ซึ่งจะพิจารณาจากอาการทางคลินิกและผลการตรวจเลือด โดยเฉพาะการตรวจหาค่า Antiphospholipid Antibodies แอนติบอดีเหล่านี้ ได้แก่

  • Lupus Anticoagulant (LA)
  • Anticardiolipin Antibody (aCL) 
  • Anti-β2-glycoprotein I Antibody (anti-β2GPI) 

หากตรวจพบแอนติบอดีเหล่านี้ในปริมาณที่สูงกว่าปกติ อาจเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการเกิดภาวะ APS ได้ อีกทั้งการตรวจเลือดไม่เพียงแต่ช่วยยืนยันการวินิจฉัยเท่านั้น แต่ยังช่วยให้แพทย์รู้ถึงระดับความรุนแรงและความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้การตั้งครรภ์ไม่ประสบความสำเร็จ หรือเกิดปัญหาในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ 

ทั้งนี้ การตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำจะนำไปสู่การรักษาที่เหมาะสมและช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

APS (Antiphospholipid Syndrome) คือสาเหตุไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์

ภาวะ APS ส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์อย่างไร?

ภาวะ APS มีผลกระทบอย่างมากต่อการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกระบวนการทำเด็กหลอดแก้ว ของผู้มีภาวะมีบุตรยาก และยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ตลอดช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ ซึ่งผลกระทบหลัก ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้แก่

ผลกระทบต่อการฝังตัวของตัวอ่อน

การเกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด จะทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่สะดวก ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้การทำเด็กหลอดแก้วไม่ประสบความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ทารกในครรภ์เจริญเติบโตช้า

เมื่อการไหลเวียนของเลือดไปยังรกไม่เป็นปกติ เนื่องจากมีการอุดตันของลิ่มเลือด รกจะไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการส่งผ่านสารอาหารและออกซิเจนไปสู่ทารก ส่งผลให้ทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ทำให้เกิดภาวะทารกเจริญเติบโตช้าในครรภ์ (Intrauterine Growth Restriction – IUGR) และอาจมีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าปกติ

เสี่ยงภาวะแท้งซ้ำซาก

ภาวะ APS เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะแท้งซ้ำซาก ซึ่งหมายถึงการแท้งบุตรตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ ลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นในเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงรกและมดลูกขัดขวางการทำงานของรก ทำให้รกไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ และนำไปสู่การแท้งบุตรในที่สุด

เพิ่มโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์

นอกจากจะกระทบโดยตรงต่อตัวอ่อนและทารกแล้ว ภาวะ APS ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงอื่น ๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์ เช่น

  • ภาวะครรภ์เป็นพิษ (Preeclampsia) เป็นภาวะที่ความดันโลหิตสูงขึ้นอย่างรุนแรงและมีโปรตีนในปัสสาวะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งแม่และทารก
  • ภาวะคลอดก่อนกำหนด (Preterm Labor) การที่ลิ่มเลือดอุดตันในรกอาจนำไปสู่ภาวะรกทำงานผิดปกติ ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนดได้

ภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด (Placental Abruption) เป็นภาวะฉุกเฉินที่รกลอกตัวออกจากผนังมดลูกก่อนกำหนดคลอด ทำให้เกิดเลือดออกอย่างรุนแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตทั้งแม่และทารก

ภาพสื่อถึงการรักษาภาวะ APS คือการใช้ยาและจากการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

วิธีรักษาภาวะ APS ที่ช่วยลดผลกระทบต่อการตั้งครรภ์

ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด

แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพรินหรือเฮพาริน เพื่อลดการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด โดยยาชนิดนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการอุดตันของเลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิด

การติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ชิดและปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการวางแผนมีบุตรเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการรักษาภาวะ APS ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อลดความเสี่ยงในการแท้งบุตรและภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น 

ปรึกษาเฉพาะทางด้านการตั้งครรภ์

การปรึกษาเฉพาะทางด้านการตั้งครรภ์กับสูตินรีแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การรักษาภาวะ APS เป็นไปตามความเหมาะสม และเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ

สำหรับคู่สมรสที่ต้องการเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ การเข้ารับการตรวจวินิจฉัยภาวะ APS นับเป็นอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หรือหากคุณสงสัยว่าตนเองมีภาวะ APS การปรึกษาแพทย์ที่คลินิก IVF อย่าง VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) จะช่วยให้คุณเข้าใจและสามารถวางแผนมีบุตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับได้รับคำแนะนำในการวางแผนการตั้งครรภ์ที่เหมาะสม ด้วยการดูแลอย่างใส่ใจ 

 

บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter 

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.