เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

Long-term Cryo รักษาภาวะเจริญพันธุ์ เพื่อการวางแผนครอบครัว

เทคโนโลยี Long-term Cryo หรือกระบวนการแช่แข็งไข่หรือตัวอ่อน

คู่สมรสหลายคู่เลือกที่จะวางแผนครอบครัวอย่างรอบคอบ โดยคำนึงถึงความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน ทั้งในเรื่องของหน้าที่การงาน ฐานะทางการเงิน และช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเริ่มต้นบทบาทของการเป็นพ่อแม่ ซึ่งเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้แผนเหล่านี้เป็นจริง ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าสนใจและมีประโยชน์อย่างยิ่งก็คือ การแช่แข็งไข่หรือเซลล์ตัวอ่อน หรือการทำ Long-term Cryo เพื่อช่วยให้คู่สมรสสามารถรักษาคุณภาพของไข่ รวมถึงเซลล์ตัวอ่อนที่ดีที่สุดเอาไว้สำหรับใช้งาน เพราะหากในอนาคตต้องการมีลูก ก็จะช่วยให้สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ตลอดจนมีสุขภาพที่แข็งแรงทั้งคุณแม่และทารกในครรภ์ 

Long-term Cryo คืออะไร?

Long-term Cryo คือเทคนิคทางการแพทย์ที่ทันสมัย ซึ่งช่วยให้สามารถแช่แข็งเซลล์สืบพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเซลล์ไข่หรือเซลล์ตัวอ่อน โดยอาศัยการลดอุณหภูมิของเซลล์ลงสู่จุดเยือกแข็งที่ต่ำมาก ๆ จนทำให้กระบวนการทางชีวภาพของเซลล์หยุดชะงักลงชั่วคราว แต่ยังคงคุณสมบัติในการเจริญเติบโตเมื่อนำกลับมาใช้งานอีกครั้ง เทคนิคนี้เป็นเหมือนการหยุดเวลาให้แก่เซลล์สืบพันธุ์ ช่วยให้คู่สมรสสามารถวางแผนครอบครัว และตัดสินใจเรื่องการมีลูกได้ตามความพร้อมของตนเอง

อินโฟกราฟิกเกี่ยวกับ Long-term Cryo

Long-term Cryo มีกระบวนการอย่างไร?

กระบวนการทำ Long-term Cryo แบ่งออกเป็นสองส่วนหลัก ๆ คือ การแช่แข็งไข่และการแช่แข็งตัวอ่อน โดยแต่ละขั้นตอนได้รับการออกพัฒนามาอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

กระบวนการแช่แข็งไข่

  • เริ่มต้นด้วยการกระตุ้นรังไข่ของผู้หญิง โดยแพทย์จะตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านทางช่องคลอดและเจาะเลือดเพื่อตรวจจำนวนไข่ จากนั้นจะฉีดยากระตุ้นไข่ประมาณ 9-12 วัน เพื่อให้ฟองไข่ที่มีอยู่ในร่างกาย มีขนาดโตขึ้น และกลายเป็นไข่สุกที่นำมาใช้ได้ในอนาคต 
  • เมื่อไข่มีขนาดและจำนวนตามที่แพทย์ต้องการ จะฉีดยาให้ไข่สุกและเก็บไข่ผ่านทางช่องคลอดโดยใช้เข็มเจาะดูดไข่ออกมา โดยการทำหัตถการนี้จะใช้เวลาประมาณ 30-45 นาที ภายใต้การให้ยาสลบ 
  • ไข่ที่เก็บได้จะถูกคัดเลือกเฉพาะไข่ที่สมบูรณ์ เพื่อนำไปแช่แข็งด้วยวิธีแช่แข็งแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นการลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็งที่ทำลายเซลล์ไข่
  •  ไข่ที่แช่แข็งจะถูกเก็บรักษาในไนโตรเจนเหลว ที่อุณหภูมิประมาณ -196 องศาเซลเซียส ซึ่งสามารถเก็บได้นานโดยไม่สูญเสียคุณภาพ  

สำหรับคนที่สงสัยว่าฝากไข่ได้นานแค่ไหน ต้องบอกว่าไข่ที่ถูกแช่แข็งไว้จะอยู่ได้นาน 10-15 ปี และเมื่อคู่สมรสพร้อมที่จะมีลูก ไข่ที่แช่แข็งไว้จะถูกละลายและตรวจสอบความสมบูรณ์ จากนั้นจะนำไข่ไปปฏิสนธิกับอสุจิด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งมักใช้เซลล์อสุจิที่มีคุณภาพดีที่สุดจากฝ่ายชาย

หลังจากปฏิสนธิได้ตัวอ่อน จะเลี้ยงตัวอ่อนจนถึงระยะบลาสโตซีสต์ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน  แล้วจึงย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

กระบวนการแช่แข็งตัวอ่อน

ในส่วนของคู่แต่งงานที่ยังไม่พร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ สามารถเข้าสู่กระบวนการแช่แข็งตัวอ่อน ซึ่งมีขั้นตอนหลัก ดังนี้ 

  • เพาะเลี้ยงตัวอ่อนในห้องปฏิบัติการ จนถึงระยะที่เหมาะสม เช่น ระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีจะถูกคัดเลือกเพื่อนำไปแช่แข็ง 
  • ตัวอ่อนจะถูกเตรียมด้วยสารป้องกันการเกิดผลึกน้ำแข็ง (Cryoprotectants) เพื่อป้องกันความเสียหายจากการแช่แข็ง 
  • ใช้วิธีการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ซึ่งเป็นการลดอุณหภูมิของตัวอ่อนอย่างรวดเร็วมากจนของเหลวในเซลล์กลายเป็นของแข็งเสมือนแก้ว โดยไม่เกิดผลึกน้ำแข็งที่อาจทำลายเซลล์ 
  • ตัวอ่อนจะถูกเก็บรักษาในไนโตรเจนเหลว ที่อุณหภูมิประมาณ -196 องศาเซลเซียส เพื่อคงสภาพและคุณภาพของตัวอ่อนไว้เป็นเวลานาน 

เมื่อถึงเวลาที่มีความพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ ตัวอ่อนจะถูกละลายอย่างระมัดระวังและย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป

คุณแม่ตั้งครรภ์เมื่อพร้อมด้วยเทคโนโลยี Long-term Cryo

Long-term Cryo มีประโยชน์อย่างไร?

การแช่แข็งไข่หรือเซลล์ตัวอ่อน หรือ Long-term Cryo มีประโยชน์หลากหลายประการสำหรับคู่สมรสที่ต้องการวางแผนครอบครัว โดยที่พบได้หลัก ๆ มีดังนี้

รักษาภาวะเจริญพันธุ์

ผู้หญิงหลายคนอาจต้องเผชิญกับปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพและปริมาณไข่ ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มขึ้น การรักษาโรคบางชนิด เช่น การทำเคมีบำบัดเพื่อรักษาโรคมะเร็ง หรือการเจ็บป่วยบางอย่างที่อาจส่งผลต่อรังไข่ การแช่แข็งไข่หรือตัวอ่อน จึงเป็นวิธีที่ช่วยรักษาภาวะเจริญพันธุ์ ช่วยให้มีไข่หรือตัวอ่อนที่มีคุณภาพสูงสำรองไว้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ในอนาคต 

ความยืดหยุ่นในการวางแผนชีวิต 

เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการวางแผนชีวิตให้แก่คู่สมรสได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าคุณจะต้องการทุ่มเทให้กับอาชีพการงาน การศึกษาต่อ การเดินทางท่องเที่ยว หรือการสร้างความมั่นคงทางการเงินก่อนที่จะมีลูก Long-term Cryo ก็ช่วยให้คุณไม่ต้องกดดันและรีบร้อนตัดสินใจเรื่องการมีบุตร เพราะคุณได้รักษาโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพไว้แล้ว

เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จการตั้งครรภ์ 

การใช้ไข่หรือตัวอ่อนที่ผ่านการแช่แข็งและคัดเลือกมาอย่างดี สามารถเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากเป็นไข่หรือตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุด ทำให้มีคุณภาพดีกว่าไข่หรือตัวอ่อนที่อาจได้รับผลกระทบจากอายุที่มากขึ้นหรือปัจจัยอื่น ๆ ในภายหลัง 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าไข่จะสามารถเก็บไว้ได้นาน แต่สิ่งที่แพทย์มักจะแนะนำคือ การนำไข่ที่แช่แข็งไว้มาใช้ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะอายุมากขึ้น โดยทั่วไปมักจะแนะนำให้ใช้ก่อนอายุ 40-45 ปี หรือไม่ควรเกิน 48-50 ปี เนื่องจากเมื่อฝ่ายหญิงมีอายุมากเกินไป การตั้งครรภ์อาจมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเพิ่มขึ้น เช่น ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ เบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับทั้งแม่และเด็ก 

  ได้รู้กันไปแล้วว่า หากต้องการฝากไข่จะสามารถฝากไข่ได้กี่ปี และได้เห็นถึงข้อดีของเทคโนโลยี Long-term Cryo ที่ช่วยให้การวางแผนครอบครัวสำหรับการมีลูกเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น และหากคู่สมรสต้องการทำ ICSI หรือ IVF เพื่อให้สามารถตั้งครรภ์ในช่วงเวลาที่ตนเองพร้อมที่สุด ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ยินดีให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน โดยสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการ เพื่อให้การวางแผนมีบุตรทำได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น

 

บทความโดย แพทย์หญิงศรมน ทรงวีรธรรม

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Consult with Dr. Sorramon Songveeratham at our leading fertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.