เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

รีวิวทำ ICSI ที่ VFC Center ประสบการณ์จริงและคู่มือเตรียมตัว

รีวิวทำ ICSI ที่ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) รักษาโดยแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

Table of Contents

การตัดสินใจเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิค ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ถือเป็นก้าวสำคัญในการเดินทางสู่การมีลูก สำหรับคู่รักที่กำลังเผชิญกับภาวะมีบุตรยาก การไปปรึกษาแพทย์ในสถานพยาบาลที่เชื่อถือได้เป็นเสมือนจุดเริ่มต้นของการรักษาภาวะมีบุตรยากให้ประสบความสำเร็จได้เร็วขึ้น

หากคุณคือคนหนึ่งที่อยากมีลูกในเร็ววัน ลองมาศึกษากระบวนการต่าง ๆ จากรีวิวการทำ ICSI ที่เป็นประสบการณ์จริงของคุณวริยานันท์ มาร์วัน (แป้ง) ที่เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีการทำ ICSI กับศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) หรือ VFC Center พร้อมข้อมูลครบถ้วนที่อาจเป็นประโยชน์กับผู้ที่กำลังเตรียมตัวเริ่มต้นเส้นทางนี้อยู่

รีวิวทำ ICSI : เรื่องราวของคุณวริยานันท์ มาร์วัน (แป้ง) – จากการรอคอยสู่การตัดสินใจทำ ICSI

จุดเริ่มต้นของการรักษาภาวะมีบุตรยากของคุณแป้ง เกิดจาก หลังแต่งงานเป็นเวลา 1 ปี แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จในการมีลูก ประกอบกับความรู้สึกว่าตนเองแต่งงานในช่วงวัยที่ไม่ใช่วัยเด็กแล้ว จึงทำให้เธอตัดสินใจมองหาทางเลือกในการทำ ICSI เพื่อเพิ่มโอกาสในการมีบุตร

การเลือกคลินิกและแพทย์อย่างรอบคอบ เพื่อรักษาภาวะมีบุตรยาก สู่ขั้นตอนการทำ ICSI

การตัดสินใจเลือกสถานที่รักษาของคุณแป้งไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เธอใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลอย่างพิถีพิถัน โดยเฉพาะการหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และด้วยความไว้วางใจที่มีต่อโรงพยาบาลเวชธานี ทำให้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ในการรักษา

อีกทั้งคุณแป้งยังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแพทย์ผู้ทำการรักษา เพื่อสร้างความมั่นใจ และหลังจากได้ปรึกษาเบื้องต้น คุณแป้งจึงตัดสินใจรักษากับ “คุณหมอวรวัฒน์ ศิริปุณย์” เพราะรู้สึกเชื่อใจและสบายใจจากการได้พูดคุยเบื้องต้นถึงกระบวนการรักษาในขั้นตอนต่าง ๆ

การเผชิญกับปัญหาและการแก้ไข

เมื่อเข้าสู่กระบวนการรักษา คุณแป้งพบว่าเธอมีปัญหาผนังมดลูกที่บางกว่าปกติ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการมีบุตร ทีมแพทย์จึงวางแผนการรักษาโดยการให้ยาบำรุงผนังมดลูกเป็นระยะเวลา 3 เดือนก่อนที่จะเริ่มกระบวนการ ICSI

ในระหว่างช่วงเวลา 3 เดือน ทีมแพทย์มีการปรับเปลี่ยนสูตรยาและเพิ่มยาตามความเหมาะสม จนกระทั่งผนังมดลูกมีความหนาเพียงพอและพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อน

ประสบการณ์การดูแลที่น่าประทับใจ

สิ่งที่ทำให้คุณแป้งประทับใจอย่างลึกซึ้งคือการดูแลแบบองค์รวมที่ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องตรวจ แต่ทุกคนล้วนมีส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์ที่ดีและสร้างบรรยากาศที่อบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นแพทย์และพยาบาลที่คอยให้การสนับสนุนและกำลังใจ ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ให้บริการด้วยความเอาใจใส่

นอกจากการรักษาทางกายภาพแล้ว การดูแลด้านจิตใจก็เป็นอีกจุดเด่นในการรักษาเช่นกัน โดยทีมแพทย์และพยาบาลของที่นี่ช่วยสร้างมุมมองในเชิงบวก โดยการทำให้คุณแป้งเข้าใจว่าปัญหาที่เธอเผชิญสามารถแก้ไขได้ด้วยการรักษาที่เหมาะสม ความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นจึงค่อย ๆ ลดลงและเปลี่ยนเป็นความหวังและความมั่นใจในที่สุด

คุณแป้งทิ้งท้ายถึงประสบการณ์การทำ ICSI ที่ VFC Center ไว้ว่า

“ที่นี่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่า การเป็นแม่ไม่ได้ยาก เราเป็นได้ค่ะ”

ทำความเข้าใจ ถึงกระบวนการทำ ICSI – เทคนิคช่วยการเจริญพันธุ์ที่ก้าวหน้า

ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection เป็นเทคนิคที่พัฒนามาจากวิธี IVF แบบดั้งเดิม โดยมีความแม่นยำและประสิทธิภาพสูงกว่าในหลายกรณี สำหรับเทคนิคนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของวิธี IVF แบบเดิมและเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการรักษาให้มากยิ่งขึ้น

ICSI คือการฉีดสเปิร์มตัวเดียวเข้าไปในไข่โดยตรง เหมาะกับกรณีที่เคยทำวิธี IVF แบบเดิมแล้วไม่สำเร็จ

ความแตกต่างระหว่างวิธี IVF และ ICSI

การทำ IVF แบบดั้งเดิม จะนำไข่และสเปิร์มมาวางรวมกันในจานเพาะเลี้ยง โดยปล่อยให้เกิดการผสมแบบธรรมชาติ วิธีนี้เหมาะสำหรับกรณีที่ทั้งไข่และสเปิร์มมีคุณภาพดี เพราะหากสเปิร์มมีความแข็งแรงไม่เพียงพอที่จะเจาะผนังไข่เข้าไป การปฏิสนธิก็จะไม่เกิดขึ้น

ในขณะที่ เทคนิค ICSI จะมีการฉีดสเปิร์มตัวเดียวเข้าไปในไข่โดยตรงภายใต้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูง ทำให้การปฏิสนธิเกิดขึ้นได้แน่นอน เทคนิคนี้เหมาะสำหรับกรณีที่สเปิร์มมีปัญหาด้านจำนวน การเคลื่อนไหว หรือรูปร่าง รวมถึงกรณีที่เคยทำ IVF แบบดั้งเดิมแล้วไม่ประสบความสำเร็จ

ข้อได้เปรียบของวิธี ICSI

การเลือกใช้เทคนิค ICSI มีข้อได้เปรียบหลายประการที่ชัดเจน ทั้งในเรื่องอัตราการปฏิสนธิที่สูงกว่าการทำ IVF อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากการฉีดสเปิร์มเข้าไปในไข่โดยตรง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาความสามารถในการเจาะผนังไข่ของสเปิร์ม นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุมากขึ้น เพราะไข่ที่อายุมากอาจมีผนังแข็งกว่าปกติ ทำให้สเปิร์มเจาะเข้าไปได้ยากขึ้น

ขั้นตอนการเตรียมตัวและการรักษาด้วยวิธี ICSI

การตรวจประเมินเบื้องต้น

ขั้นตอนแรก คือการตรวจสุขภาพอย่างครบถ้วน โดยแพทย์จะตรวจประวัติการแพ้ยาและโรคประจำตัว รวมถึงตรวจฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ ประเมินคุณภาพไข่ในรังไข่ และวิเคราะห์คุณภาพสเปิร์มอย่างละเอียด ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์วางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละคู่

การเตรียมตัวก่อนรักษา

การเตรียมตัวที่ดีเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จ โดยควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะผักใบเขียว ผลไม้ และโปรตีนคุณภาพดี ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หนักเกินไป นอนหลับให้เพียงพอ และจัดการความเครียด รวมถึงทานอาหารเสริมตามคำแนะนำของแพทย์

ขั้นตอนการรักษา ICSI

  1. การกระตุ้นไข่ ฉีดยาฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่หลาย ๆ ฟอง โดยต้องฉีดตามเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ระยะเวลาประมาณ 10-14 วัน พร้อมติดตามด้วยอัลตราซาวนด์เป็นระยะเพื่อปรับขนาดยา
  2. การเก็บไข่และสเปิร์ม เมื่อไข่โตพอเหมาะแล้ว จะฉีดยากระตุ้นการปล่อยไข่และนัดเก็บไข่ภายใน 34-36 ชั่วโมง การเก็บไข่จะทำภายใต้การระงับความรู้สึก ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ขณะเดียวกันจะทำการเก็บสเปิร์มเพื่อให้พร้อมในขั้นตอนต่อไป
  3. การทำ ICSI นักวิทยาศาสตร์จะเลือกสเปิร์มที่มีคุณภาพดีที่สุดและฉีดเข้าไปในไข่โดยตรงภายใต้กล้องจุลทรรศน์ โดยไข่แต่ละฟองจะได้รับสเปิร์ม 1 ตัว กระบวนการนี้จะต้องใช้ความละเอียดสูงและดำเนินการโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์
  4. การเพาะเลี้ยงตัวอ่อน หลังการฉีดสเปิร์มแล้ว ไข่จะถูกเพาะเลี้ยงในตู้อบพิเศษเป็นเวลา 3-5 วัน เพื่อติดตามการแบ่งตัวและพัฒนาเป็นตัวอ่อน
  5. การย้ายตัวอ่อน เลือกตัวอ่อนที่มีคุณภาพดีที่สุด เพื่อย้ายเข้าไปในมดลูกผ่านสายสวนบาง กระบวนการใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีและไม่เจ็บปวด
  6. การติดตามผล หลังย้ายตัวอ่อนแล้ว 14 วัน จะทำการตรวจเลือดเพื่อดูว่าตั้งครรภ์หรือไม่ หากผลบวก จะติดตามการเจริญเติบโตของทารกต่อไป

คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการทำ ICSI

Q: การทำ ICSI เจ็บไหม มีความเสี่ยงอย่างไร ?

A: หลายคนกังวลเรื่องความเจ็บปวด แต่จริง ๆ แล้วจากรีวิวการทำ ICSI ผู้ที่มีประสบการณ์จริงพบว่า รู้สึกเจ็บน้อยมาก โดยช่วงที่อาจรู้สึกไม่สบายคือตอนกระตุ้นและการเก็บไข่เท่านั้น และความเสี่ยงของการทำ ICSI นั้นต่ำมาก หากรักษากับผู้เชี่ยวชาญและคลินิกที่ได้มาตรฐาน

Q: อัตราความสำเร็จของ ICSI เป็นอย่างไร ?

A: เป็นคำถามที่ทุกคู่รักอยากรู้ที่สุด ซึ่งอัตราความสำเร็จขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยเฉพาะอายุและสุขภาพของผู้เข้ารับการรักษา โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40-60% ต่อรอบการรักษา แต่ในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 35 ปี อาจสูงถึง 60-70%

Q: ต้องเตรียมตัวอย่างไรก่อนทำ ICSI ?

A: การเตรียมตัวที่ดีช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จ ซึ่งควรเตรียมตัวในเรื่องเหล่านี้

  • งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 3 เดือนก่อน
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักใบเขียวและโปรตีน
  • ออกกำลังกายสม่ำเสมอแต่ไม่หนักเกินไป
  • หาวิธีลดความเครียด เช่น เล่นโยคะ หรือทำสมาธิ
  • ทานวิตามินและอาหารเสริมตามที่แพทย์แนะนำ โดยเฉพาะกรดโฟลิก

Q: การทำ ICSI ใช้เวลานานเท่าไหร่ ?

A: เวลาที่ใช้จะแตกต่างกันในแต่ละคน แต่โดยทั่วไปกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2-3 สัปดาห์ ตั้งแต่การฉีดยากระตุ้นไข่ การเก็บไข่ การทำ ICSI จนถึงการฝังตัวอ่อน หากต้องมีการเตรียมตัวพิเศษ เช่น บำรุงผนังมดลูกก่อน อาจใช้เวลานานขึ้น

Q: ค่าใช้จ่ายในการทำ ICSI เป็นอย่างไร ?

A: เรื่องค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ต้องวางแผน โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันตามแต่ละคลินิกและความซับซ้อนของแต่ละเคส โดยทั่วไปอยู่ระหว่าง 150,000-300,000 บาท ควรปรึกษาคลินิกโดยตรงเพื่อข้อมูลที่ชัดเจนและเป็นปัจจุบัน รวมถึงสอบถามเรื่องการผ่อนชำระด้วย

Q: หลังทำ ICSI ต้องระวังอะไรบ้าง ?

A: การดูแลตัวเองหลังการรักษาสำคัญมาก โดยควรปฏิบัติดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักและการยกของหนัก
  • พักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับ 7-8 ชั่วโมง
  • ทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
  • ติดตามนัดหมายตามกำหนดเพื่อเช็กผลการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนจัดและซาวน่า
  • รับประทานอาหารที่สะอาดและมีประโยชน์

การเตรียมตัวอย่างรอบคอบและการเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน จะช่วยให้การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคนิค ICSI เป็นไปอย่างราบรื่นและมีอัตราความสำเร็จที่สูงขึ้น และจากรีวิวการทำ ICSI ของคุณแป้ง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐานในระดับสากล บวกกับทีมแพทย์ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ควบคู่ไปกับการดูแลที่ครอบคลุมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

หากคุณกำลังพิจารณาเข้ารับการรักษาด้วยเทคนิค ICSI และมองหาสถานพยาบาลที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัย เครื่องมือได้มาตรฐานสากล มีทีมแพทย์ที่เข้าใจและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) พร้อมช่วยดูแลสู่ความสำเร็จในการมีบุตรของคุณ

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline : 082-903-2035

LINE Official : @vfccenter

A doctor will tell you the treatments for a blighted ovum

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.