เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

กลูเตนกับภาวะมีบุตรยาก: ความเชื่อมโยงที่คุณควรรู้

กลูเตนอาจส่งผลให้เกิดภาวะมีบุตรยากหากมีอาการแพ้กลูเตนโดยไม่รู้ตัว

ในปัจจุบัน ปัญหาภาวะมีบุตรยากเป็นเรื่องที่หลายคู่รักให้ความสำคัญและใส่ใจมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในปัจจัยที่อาจส่งผลต่อโอกาสในการตั้งครรภ์ที่หลายคนอาจมองข้ามไปก็คือเรื่องของโภชนาการ โดยเฉพาะการรับประทานอาหารกลูเตนฟรี ที่หลายงานวิจัยพบว่า ภาวะแพ้กลูเตนหรือโรคเซลิแอคอาจมีผลต่อสุขภาพของระบบสืบพันธุ์ และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากโดยไม่รู้ตัว

กลูเตนคืออะไร?

กลูเตนเป็นโปรตีนที่พบในธัญพืชหลายชนิด โดยเฉพาะข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวไรย์ โปรตีนชนิดนี้ทำหน้าที่ช่วยให้แป้งมีความยืดหยุ่นและเหนียวหนึบ จึงทำให้ขนมปังและผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ต่าง ๆ มีเนื้อสัมผัสที่นิ่มและอร่อย กลูเตนประกอบไปด้วยโปรตีนสองชนิดหลัก คือ กลูเทนิน (Glutenin) และกลาอิดิน (Gliadin) ซึ่งเป็นสารที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ในผู้ที่มีความไวต่อกลูเตน

อาหารที่มีกลูเตน

ในชีวิตประจำวัน เราสามารถพบกลูเตนในอาหารหลายประเภท เช่น ขนมปังทุกชนิด พาสต้า เส้นใหญ่ เส้นหมี่ ข้าวโอ๊ตบางชนิด ขนมเบเกอรี่ เค้ก คุกกี้ เบียร์ ซอสถั่วเหลือง ซอสปรุงรสต่าง ๆ รวมถึงอาหารแปรรูปจำนวนมากที่มีการเติมแป้งสาลีเป็นส่วนประกอบ นอกจากนี้ ยังอาจมีในผลิตภัณฑ์อย่าง ลูกอมบางชนิด หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

อาการแพ้กลูเตนและโรคเซลิแอค

ความแตกต่างระหว่างอาการแพ้กลูเตนกับโรคเซลิแอค

โรคเซลิแอค (Celiac Disease) เป็นโรคระบบภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสร้างแอนติบอดีต่อต้านกลูเตน ทำให้เกิดการอักเสบและการทำลายเยื่อบุผนังลำไส้เล็ก ส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารผิดปกติ 

ในขณะที่ความไวต่อกลูเตนที่ไม่ใช่โรคเซลิแอค (Non-Celiac Gluten Sensitivity) แต่อาการที่เกิดขึ้นจะคล้ายคลึงกัน แต่ไม่มีการทำลายเยื่อบุลำไส้ และไม่พบแอนติบอดีในเลือด

อาการที่ควรสังเกต

อาการแพ้กลูเตนมีความหลากหลาย ตั้งแต่อาการในระบบย่อยอาหาร เช่น ท้องอืด ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก คลื่นไส้ อาเจียน ไปจนถึงอาการนอกระบบย่อยอาหาร เช่น ผื่นคัน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดข้อ โลหิตจาง ความผิดปกติของระบบประสาท รวมถึงความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์

อาการแฝงและการวินิจฉัย

ในบางรายอาจไม่มีอาการชัดเจน หรือมีอาการเบา ๆ ที่หลายคนมักมองข้ามไป แต่อาการอักเสบเรื้อรังในร่างกายจะยังคงดำเนินต่อไป และมักส่งผลต่อสุขภาพระยะยาว รวมถึงอาจไปกระทบต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ ทำให้เป็นสาเหตุของภาวะมีบุตรยากโดยที่ไม่รู้ตัว 

กลไกที่กลูเตนส่งผลต่อภาวะมีบุตรยาก

การอักเสบและการดูดซึมสารอาหารผิดปกติ

เมื่อผู้ที่แพ้กลูเตนรับประทานอาหารที่มีกลูเตน ร่างกายจะเกิดการอักเสบในลำไส้ ทำให้เยื่อบุผนังลำไส้เสียหาย และส่งผลให้การดูดซึมสารอาหารที่จำเป็นต่อระบบสืบพันธุ์ผิดปกติ เช่น กรดโฟลิก วิตามินบี 12 เหล็ก แคลเซียม วิตามินดี และสังกะสี ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการสร้างเซลล์สืบพันธุ์ การตั้งครรภ์ และการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

ผลกระทบต่อฮอร์โมนและการตั้งครรภ์

การอักเสบเรื้อรังจากการแพ้กลูเตนอาจส่งผลต่อการสร้างและการทำงานของฮอร์โมนสืบพันธุ์ เช่น ฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และฮอร์โมน LH และ FSH ทำให้เกิดความผิดปกติของรอบประจำเดือน การไม่ตกไข่ หรือรังไข่ไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ การอักเสบยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการแท้งซ้ำซาก การคลอดก่อนกำหนด และความผิดปกติของรกในสตรีที่มีปัญหาการแพ้กลูเตน

แนวทางการวินิจฉัยและดูแลตนเอง

ใครบ้างที่ควรสงสัยว่าตนเองแพ้กลูเตน?

  • ผู้ที่มีอาการทางเดินอาหารเรื้อรัง 
  • ผู้ที่มีประวัติการแท้งซ้ำ 
  • ผู้ที่มีบุตรยากโดยไม่ทราบสาเหตุ 
  • ผู้ที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวานชนิดที่ 1 หรือโรคไทรอยด์ 
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคเซลิแอค 
  • ผู้ที่มีอาการโลหิตจางหรือขาดสารอาหารโดยไม่ทราบสาเหตุ

วิธีการตรวจวินิจฉัย

การตรวจวินิจฉัยสำหรับผู้ที่แพ้กลูเตน เริ่มต้นจากการตรวจเลือดเพื่อหาแอนติบอดีที่เฉพาะเจาะจง เช่น Anti-TTG และ Anti-Endomysial Antibodies หากผลการตรวจเลือดผิดปกติ อาจต้องทำการส่องกล้องตรวจลำไส้เล็กเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของเยื่อบุผนังลำไส้ 

สำหรับผู้ที่สงสัยว่าตนเองมีความไวต่อกลูเตนที่ไม่ใช่โรคเซลิแอค ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือแพทย์ เพื่อหาแนวทางในการดูแลตนเองต่อไป 

การดูแลสุขภาพเมื่อแพ้กลูเตน

เมื่อได้รับการวินิจฉัยแล้ว การรักษาที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการหลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลูเตนอย่างเข้มงวด หากสามารถทำได้อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้เยื่อบุผนังลำไส้หายเป็นปกติ การดูดซึมสารอาหารดีขึ้น และอาการต่าง ๆ ลดลง ซึ่งจะส่งผลดีต่อสุขภาพระบบสืบพันธุ์ในระยะยาว

กลูเตนฟรีห้ามกินอะไร ? ห้ามกินอาหารจากข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และผลิตภัณฑ์จากธัญพืชเหล่านี้

อาหารกลูเตนฟรี: ทางเลือกเพื่อสุขภาพการมีบุตร

  • กลูเตนฟรีห้ามกินอะไร ? : ข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวไรย์ และผลิตภัณฑ์จากธัญพืช 
  • กลูเตนฟรีกินอะไรได้บ้าง ? : ข้าวสาร ข้าวโพด ข้าวโอ๊ตที่ปลอดกลูเตน ข้าวฟ่าง ข้าวเหนียวดำ คีนัว เมล็ดเชีย และถั่วทุกชนิด รวมถึงผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ไข่ นม และผลิตภัณฑ์จากนมที่ไม่มีการเติมส่วนผสมที่มีกลูเตน

วิธีอ่านฉลากอาหาร

การเลือกซื้ออาหารกลูเตนฟรีต้องอาศัยความระมัดระวังในการอ่านฉลากอาหาร โดยควรมองหาสัญลักษณ์ “Gluten-Free” หรือ “ปลอดกลูเตน” บนบรรจุภัณฑ์ 

หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีคำเตือน “อาจมีกลูเตน” และระวังส่วนผสมที่อาจมีกลูเตนซ่อนอยู่ เช่น มอลต์ ยีสต์ สตาร์ช หรือรสชาติธรรมชาติ

การดูแลโภชนาการให้สมดุล

การรับประทานอาหารกลูเตนฟรีต้องให้ความสำคัญกับการได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะสารอาหารที่มีความสำคัญต่อระบบสืบพันธุ์ เช่น กรดโฟลิก จากผักใบเขียว วิตามินบี 12 จากเนื้อสัตว์ เหล็ก รวมถึงเนื้อแดงและผักใบเขียว สังกะสี ถั่วและเมล็ดพืช โดยแนะนำให้ปรึกษานักโภชนาการเพื่อการวางแผนรับประทานอาหารที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

การดูแลสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการมีบุตร ไม่ใช่แค่เรื่องของการรักษาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเลือกอาหารที่เหมาะสมและการได้รับสารอาหารครบถ้วน หากกำลังมองหาว่า ควรจะไปรักษาภาวะมีบุตรยาก หรือทำ IVF/ICSI ที่ไหนดี ? ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) เราพร้อมดูแลและให้คำปรึกษาเรื่องการเตรียมร่างกายก่อนตั้งครรภ์ การตรวจสุขภาพเพื่อการมีบุตร และการวางแผนการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย เพื่อให้คุณมั่นใจและพร้อมสำหรับการเป็นพ่อแม่ในอนาคต

 

บทความโดย แพทย์หญิงวนากานต์ สิงหเสนา

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter

Dr. Wannakan Singhasena, a fertility specialist in Thailand

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.