
การตั้งครรภ์อย่างราบรื่นและให้กำเนิดทารกน้อยที่สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้น เกิดจากความพร้อมทางด้านร่างกายของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง ดังนั้น แม้จะไม่ได้เป็นผู้อุ้มท้องและคลอดบุตร แต่ฝ่ายชายก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวางแผนมีลูกเช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยงของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับอสุจิผิดปกติ ที่อาจนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ต่อทั้งแม่และเด็กระหว่างตั้งครรภ์ อีกทั้งปัญหานี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ชายมีบุตรยากอีกด้วย
อสุจิผิดปกติ ส่งผลอย่างไรต่อการตั้งครรภ์และมีบุตร?
อสุจิที่ผิดปกติ ถือเป็นสาเหตุสำคัญของภาวะมีบุตรยากและปัญหาในการตั้งครรภ์ ด้วยเหตุนี้ คู่สมรสจึงควรทำความเข้าใจถึงความผิดปกติว่าส่งผลอย่างไรต่อการตั้งครรภ์บ้าง เพื่อเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการ เตรียมตัวมีลูกอย่างมีประสิทธิภาพ
1. โอกาสที่จะปฏิสนธิสำเร็จลดลง
ความผิดปกติของอสุจิ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่าง จำนวน และการเคลื่อนไหว ล้วนส่งผลให้ผู้ชายมีบุตรยากทั้งสิ้น เนื่องจากอสุจิจะไม่สามารถว่ายผ่านปากมดลูกและท่อนำไข่เพื่อไปปฏิสนธิกับไข่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้โอกาสเกิดการปฏิสนธิและตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติลดลง
2. เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแท้ง
หาก DNA ของอสุจิมีความผิดปกติหรือได้รับความเสียหาย แม้จะปฏิสนธิสำเร็จจนพัฒนาเป็นตัวอ่อนได้ แต่ก็เสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติทางพันธุกรรมและพัฒนาการ เป็นสาเหตุให้เกิดการแท้งบุตรได้บ่อยครั้ง
3. ตัวอ่อนคุณภาพไม่ดีและส่งผลกระทบต่อพัฒนาการ
สืบเนื่องจากข้อที่แล้ว หากอสุจิมีความเสียหายที่ระดับ DNA ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นอาจพัฒนาได้ไม่สมบูรณ์ ทำให้การเจริญเติบโตช้าหรือผิดปกติ ไม่เป็นผลดีต่อการฝังตัวกับผนังมดลูก รวมทั้งทำให้ทารกที่คลอดออกมาเสี่ยงมีความผิดปกติ ทั้งด้านร่างกายและสมอง
4. เพิ่มความเสี่ยงการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมสู่ทารก
หากอสุจิมีความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โครโมโซมผิดจำนวนหรือมีการกลายพันธุ์ อาจเพิ่มความเสี่ยงในการถ่ายทอดโรคทางพันธุกรรมสู่ลูกได้ กรณีปฏิสนธิด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์อย่างการทำ ICSI หรือ IVF จึงจำเป็นต้องมีการคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อนอย่างเหมาะสม
DNA Fragmentation ตรวจหาอสุจิผิดปกติถึงระดับสารพันธุกรรม
DNA Fragmentation คือ การแตกหักของ DNA ในอสุจิ เป็นภาวะที่สารพันธุกรรมภายในหัวอสุจิเกิดความเสียหาย ส่งผลให้อสุจิผิดปกติ แม้จะไม่แสดงออกทางรูปร่างภายนอก แต่ DNA ภายในอาจได้รับความเสียหาย จึงต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยในห้องปฏิบัติการ ถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการปฏิสนธิ ความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และพัฒนาการของตัวอ่อนโดยตรง ซึ่งสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่
- ภาวะ Oxidative Stress จากการที่ร่างกายมีสารอนุมูลอิสระมากเกินไป เกิดจากการสูบบุหรี่ การสัมผัสสารพิษ หรือการอักเสบเรื้อรัง
- อายุที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ DNA ของอสุจิจะเสียหายเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
- ภาวะหลอดเลือดดำขอดในถุงอัณฑะ (Varicocele) ทำให้อุณหภูมิในถุงอัณฑะสูงขึ้น เป็นสาเหตุให้คุณภาพของอสุจิลดลง
- ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความเครียด การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การสัมผัสกับมลภาวะเป็นเวลานาน การติดเชื้อบางชนิด การสัมผัสความร้อน เช่น การวางโน้ตบุ๊กไว้บนตักเป็นเวลานาน หรือการขับขี่มอเตอร์ไซค์
วิธีตรวจ Sperm DNA Fragmentation ที่ผู้ชายมีบุตรยากควรรู้
การตรวจ Sperm DNA Fragmentation ของอสุจิ คือการตรวจวัดความเสียหายหรือการแตกหักของ DNA ภายในอสุจิ จึงช่วยวินิจฉัยสาเหตุของภาวะมีบุตรยากในฝ่ายชายได้ละเอียดกว่าการตรวจน้ำอสุจิเพียงอย่างเดียว
ส่วนการตรวจวัดการแตกหักของดีเอ็นเอในอสุจิ (Sperm DNA Fragmentation) โดยวิธี Sperm Chromatin Dispersion Test (SCD) เป็นวิธีการที่ใช้ประเมินคุณภาพของ DNA ในอสุจิ เพื่อช่วยในการวินิจฉัยภาวะมีบุตรยากในเพศชาย โดยเฉพาะในกรณีที่ผลการตรวจวิเคราะห์น้ำเชื้อ (Semen Analysis) ที่เบื้องต้นดูเป็นปกติ แต่คู่สามีภรรยายังคงประสบปัญหาการมีบุตรยาก หรือมีการแท้งบุตรซ้ำซาก
การตรวจ SCD Test อาศัยหลักการที่ว่า อสุจิที่มี DNA ที่สมบูรณ์ เมื่อผ่านกระบวนการทางเคมีบางอย่าง เช่น การนำโปรตีนออกจากหัวอสุจิ และการทำให้ DNA คลายตัว จะเกิดลักษณะที่เรียกว่า “รัศมี” (Halo) รอบ ๆ บริเวณหัวของอสุจิ ซึ่งเป็นลักษณะของการกระจายตัวของ DNA Loops ที่สมบูรณ์
ในทางตรงกันข้าม อสุจิที่มี DNA ที่แตกหักหรือไม่สมบูรณ์ จะไม่สามารถสร้างรัศมีดังกล่าวได้ หรืออาจสร้างได้น้อยมาก ทำให้สามารถแยกแยะอสุจิที่มี DNA ที่สมบูรณ์ออกจากอสุจิที่ DNA เสียหายได้โดยการสังเกตภายใต้กล้องจุลทรรศน์
จากนั้นนำผลการตรวจมาคำนวณเป็นดัชนีที่แสดงถึงสัดส่วนของอสุจิที่มีความเสียหายของสารพันธุกรรม (DNA) ในตัวอสุจิ หรือที่เรียกว่า Sperm DNA Fragmentation Index (DFI) การวัดเปอร์เซ็นต์ความเสียหายของอสุจิ หากมากกว่า 30% ถือว่ามีความเสียหายสูง ทำให้ลดโอกาสในการปฏิสนธิ ลดคุณภาพตัวอ่อนและการตั้งครรภ์ลดลง
ขั้นตอนการตรวจหาความผิดปกติของ DNA ในอสุจิ
สำหรับขั้นตอนการตรวจหา DNA Fragmentation มีดังนี้
- เก็บตัวอย่างน้ำอสุจิจากฝ่ายชาย
- นำตัวอย่างไปตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ
- ทำการทดสอบ DNA Fragmentation ด้วยวิธีที่กล่าวไปข้างต้น
- วิเคราะห์ผลและวางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยากที่เหมาะสมร่วมกับแพทย์ต่อไป
คัดเลือกอสุจิที่แข็งแรง พร้อมสำหรับการทำ ICSI ด้วย MACs Sperm
หากคู่สมรสที่ฝ่ายชายมีปัญหาอสุจิผิดปกติ อย่าเพิ่งหมดหวังในการมีบุตร เพราะปัจจุบันยังมีวิธีรักษาภาวะมีบุตรยาก รวมถึงเทคนิคการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงสำหรับการปฏิสนธิอีกหลากหลาย ซึ่งวิธีหนึ่งที่ควรรู้จัก คือการทำ MACs Sperm ซึ่งเป็นการคัดแยกอสุจิโดยใช้สนามแม่เหล็ก เพื่อแยกอสุจิที่มีความผิดปกติหรืออยู่ในภาวะการตายของเซลล์ (Apoptotic Sperm) ออกจากอสุจิที่มีคุณภาพดี ทำให้เหลือเฉพาะอสุจิที่สมบูรณ์ และพร้อมนำไปปฏิสนธิในขั้นตอนต่อไป
แนวทางการเตรียมความพร้อมสำหรับฝ่ายชาย อสุจิผิดปกติก็มีลูกได้
สำหรับฝ่ายชายที่มีภาวะมีบุตรยาก นอกเหนือจากการพิจารณาแนวทางการรักษาทางการแพทย์แล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางประการและการปฏิบัติตามคำแนะนำที่เหมาะสม ถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่สามารถช่วยเสริมสร้างคุณภาพและเตรียมความพร้อมของอสุจิ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมในชีวิตประจำวันมีผลโดยตรงต่อคุณภาพของอสุจิ หากคุณกำลังวางแผนมีบุตร แนะนำให้นอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จัดการความเครียดให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ และงดใช้สารเสพติดทุกชนิด
2. รับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสารต้านอนุมูลอิสระ
สารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidants) มีบทบาทสำคัญในการปกป้องอสุจิจากความเสียหายของ DNA การรับประทานอาหารที่อุดมด้วยสารเหล่านี้ เช่น หอยนางรม เนื้อแดง ไข่ ถั่ว ปลาแซลมอน ผักใบเขียว จึงช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดภาวะ DNA Fragmentation ได้อย่างมีนัยสำคัญ
3. เว้นระยะการมีเพศสัมพันธ์อย่างเหมาะสม
การมีเพศสัมพันธ์บ่อยเกินไปอาจทำให้ปริมาณอสุจิในแต่ละครั้งลดลง ขณะที่การงดนานเกินไปก็อาจทำให้อสุจิสะสมจนเสื่อมคุณภาพ โดยทั่วไปแนะนำให้เว้นระยะการมีเพศสัมพันธ์ 3–5 วันก่อนวันไข่ตกของฝ่ายหญิง เพื่อให้ได้น้ำเชื้อที่มีคุณภาพสูงสุด หรือหากมีการทำ IVF หรือ ICSI ควรเว้นช่วงเวลาการหลั่งอสุจิประมาณ 2-5 วันก่อนเก็บตัวอย่างน้ำเชื้อ
การเตรียมความพร้อมอย่างเหมาะสมทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง จะช่วยให้การรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ IVF และ ICSI มีโอกาสประสบความสำเร็จที่สูงขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงการแท้งซ้ำ และเพิ่มโอกาสให้ลูกน้อยมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง หากคุณกำลังวางแผนมีบุตรในเร็ว ๆ นี้ การตรวจประเมินสุขภาพอสุจิร่วมกับปฏิบัติตามคำแนะนำจากสูตินรีแพทย์อย่างเคร่งครัดคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด ซึ่งที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เรามีบริการให้คำปรึกษา ตรวจหาสาเหตุมีลูกยาก ตรวจสุขภาพอสุจิ และรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ให้บริการทุกขั้นตอนโดยสูตินรีแพทย์และเจ้าหน้าที่ประสบการณ์สูง
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสูตินรีเวชวิทยาและเวชศาตร์การเจริญพันธ์ุ
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.