เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ภาวะผนังมดลูกบาง : เข้าใจปัญหาเพื่อเพิ่มโอกาสมีบุตร

แพทย์ชี้ที่โมเดลเพื่ออธิบายเกี่ยวกับภาวะผนังมดลูกบาง

Table of Contents

การมีบุตรเป็นความปรารถนาของคู่สมรสหลายคู่ เพราะต้องการสร้างครอบครัวให้สมบูรณ์ แต่สำหรับบางคู่ การตั้งครรภ์อาจเป็นเรื่องท้าทาย เนื่องจากมีปัญหาสุขภาพ ซึ่งหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากคือ “ภาวะผนังมดลูกบาง” ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์

แพทย์ชี้ที่โมเดลเพื่ออธิบายเกี่ยวกับภาวะผนังมดลูกบาง

ความสำคัญของผนังมดลูกในกระบวนการตั้งครรภ์

ผนังมดลูก หรือที่เรียกทางการแพทย์ว่า “เอนโดเมเทรียม” (Endometrium) คือเยื่อบุผิวด้านในของมดลูกที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตั้งครรภ์ เนื่องจากผนังมดลูกมีหน้าที่สำคัญในการรองรับการฝังตัวของตัวอ่อนและให้สารอาหารในช่วงแรกของการพัฒนาตัวอ่อน

โดยในแต่ละรอบเดือน ผนังมดลูกจะมีการเปลี่ยนแปลงความหนาที่สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งปกติแล้วหลังจากมีประจำเดือน ผนังมดลูกจะบางที่สุด และจะค่อย ๆ หนาขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงช่วงกลางรอบเดือนซึ่งเป็นช่วงที่มีการตกไข่ หลังจากนั้นผนังมดลูกจะเตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนหากมีการปฏิสนธิ

สำหรับการตั้งครรภ์ที่ประสบความสำเร็จ ผนังมดลูกจำเป็นต้องมีความหนาที่เหมาะสม โดยทั่วไป ผนังมดลูกที่มีความหนาระหว่าง 8-14 มิลลิเมตร ถือว่าเหมาะสมต่อการฝังตัวของตัวอ่อน สำหรับผู้ที่มีภาวะผนังมดลูกบางและส่งผลให้มีลูกยาก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีเพิ่มความหนาของผนังมดลูกให้เหมาะสม เพื่อช่วยให้มีลูกได้ตามปกติ

ผนังมดลูกบางเกิดจากอะไร ?

  • การขูดมดลูก : การขูดมดลูกเป็นสาเหตุหลักที่พบบ่อยที่สุดของภาวะผนังมดลูกบาง โดยเฉพาะการขูดมดลูกที่ทำอย่างรุนแรงหรือบ่อยครั้ง เช่น กรณีที่มีการแท้งบุตรและต้องขูดมดลูกออก หรือการขูดมดลูกเพื่อรักษาโรคบางชนิด ซึ่งการขูดมดลูกยังอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อชั้น Basal Layer ของผนังมดลูก ซึ่งเป็นชั้นที่สร้างเซลล์ใหม่ ส่งผลให้ความสามารถในการสร้างเยื่อบุใหม่ลดลง
  • ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ : ภาวะผนังมดลูกบางอาจเกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เพราะฮอร์โมนเอสโตรเจนมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นให้ผนังมดลูกหนาตัว ดังนั้นภาวะที่มีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำก็จะมีทั้ง ภาวะรังไข่เสื่อม ภาวะก่อนหมดประจำเดือน หรือหลังหมดประจำเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ผนังมดลูกไม่สามารถหนาตัวได้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้ ความผิดปกติจากการทำงานของรังไข่ก็อาจทำให้การผลิตฮอร์โมนไม่สมดุล ส่งผลต่อการพัฒนาของผนังมดลูกเช่นกัน
  • การติดเชื้อหรืออักเสบในมดลูก : การติดเชื้อในมดลูกหรืออุ้งเชิงกรานอาจทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง ซึ่งส่งผลให้ผนังมดลูกบางลง อีกทั้งการอักเสบเรื้อรังยังจะทำให้เกิดพังผืดและทำลายเซลล์ของผนังมดลูก ลดความสามารถในการสร้างเยื่อบุใหม่ นอกจากนี้ ภาวะมดลูกอักเสบเรื้อรังยังสามารถเกิดได้จากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อราในระบบสืบพันธุ์
  • การใช้ยาคุมกำเนิดหรือยากระตุ้นรังไข่เป็นเวลานาน : การใช้ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสติน) เป็นเวลานาน เช่น ฉีดยาคุมกำเนิด ฝังยาคุมกำเนิด หรือยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเป็นหลักอาจส่งผลให้ผนังมดลูกบางลง รวมถึงการใช้ยากระตุ้นรังไข่บางชนิด เช่น Clomiphene Citrate (Clomid) ซึ่งเป็นยาที่ออกฤทธิ์ต้านฮอร์โมนเอสโตรเจน ก็อาจส่งผลให้ผนังมดลูกบางลงได้หากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • เนื้องอกในมดลูก : เนื้องอกในมดลูก เช่น เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก (Myoma) หรือเนื้องอกเยื่อบุโพรงมดลูก อาจขัดขวางการไหลเวียนของเลือดไปยังเยื่อบุโพรงมดลูก ทำให้ผนังมดลูกไม่ได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผนังมดลูกบางลง
  • ภาวะเลือดไหลเวียนในมดลูกน้อย : ปัญหาการไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีในมดลูกอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่ได้รับสารอาหารและออกซิเจนอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ผนังมดลูกบางลง ภาวะนี้อาจเกิดจากปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือภาวะลิ่มเลือดอุดตัน
  • สาเหตุไม่ทราบแน่ชัด : ในบางกรณี แพทย์อาจไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนของภาวะผนังมดลูกบางได้ว่าเกิดจากอะไร ซึ่งอาจเป็นผลมาจากปัจจัยทางพันธุกรรมหรือปัจจัยอื่น ๆ ที่ยังไม่เป็นที่เข้าใจทางการแพทย์อย่างชัดเจน

ผนังมดลูกบางส่งผลต่อการตั้งครรภ์อย่างไร ? ทำให้มีลูกยากจริงหรือไม่ ?

ภาวะผนังมดลูกบางส่งผลให้มีลูกยากโดยตรง เนื่องจากผนังมดลูกที่บางเกินไปจะทำให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ยาก และเพิ่มความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร

โอกาสในการฝังตัวของตัวอ่อนลดลง

ผนังมดลูกที่บางเกินไปจะทำให้ตัวอ่อนฝังตัวได้ยากขึ้น เนื่องจากผนังมดลูกไม่มีความหนาเพียงพอที่จะรองรับการฝังตัวและการเจริญเติบโตของตัวอ่อน เมื่อผนังมดลูกบางกว่า 7 มิลลิเมตร อัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์จะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และหากบางกว่า 5 มิลลิเมตร โอกาสในการตั้งครรภ์จะยิ่งน้อยลงไปอีก

ความเสี่ยงในการแท้งบุตรเพิ่มขึ้น

แม้จะสามารถตั้งครรภ์ได้ ผู้ที่มีภาวะผนังมดลูกบางก็มีความเสี่ยงสูงที่จะแท้งบุตรในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากผนังมดลูกไม่สามารถให้การสนับสนุนที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของตัวอ่อน นอกจากนี้ ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ หรือภาวะรกลอกตัวก่อนกำหนด

วิธีการวินิจฉัยภาวะผนังมดลูกบาง

การสอบถามประวัติทางการแพทย์

แพทย์จะสอบถามประวัติทางการแพทย์อย่างละเอียด รวมถึงประวัติการขูดมดลูก การใช้ยาต่าง ๆ ประวัติการติดเชื้อในระบบสืบพันธุ์ และปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจส่งผลต่อความหนาของผนังมดลูก

การตรวจระดับฮอร์โมน

การตรวจวัดระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน ช่วยให้แพทย์ประเมินถึงความผิดปกติของระดับฮอร์โมน ว่าเป็นสาเหตุของภาวะผนังมดลูกบางหรือไม่

การตรวจอัลตราซาวนด์ผ่านช่องคลอด

การตรวจด้วยอัลตราซาวนด์ผ่านช่องคลอด (Transvaginal Ultrasound) เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดในการวัดความหนาของผนังมดลูก แพทย์จะทำการตรวจในช่วงเวลาที่เหมาะสมของรอบเดือน โดยทั่วไปคือช่วงกลางรอบเดือนหรือช่วงที่มีการตกไข่ เพื่อประเมินความหนาสูงสุดของผนังมดลูก

การพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยและหาแนวทางรักษาผนังมดลูกบาง

แนวทางการรักษาภาวะผนังมดลูกบาง

การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจนเสริม

การให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทนเป็นวิธีรักษาหลักสำหรับภาวะผนังมดลูกบาง โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยกระตุ้นให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวขึ้น แพทย์อาจให้ฮอร์โมนในรูปแบบยาเม็ด แผ่นแปะ หรือเจลทาผิวหนัง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล

สำหรับผู้ที่ต้องการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยการทำ IVF หรือ ICSI แพทย์อาจให้ฮอร์โมนเอสโตรเจนในระหว่างการเตรียมมดลูกเพื่อเพิ่มความหนาของผนังมดลูกก่อนทำการย้ายตัวอ่อน

การรักษาการติดเชื้อหรือภาวะอักเสบ

หากภาวะผนังมดลูกบางเกิดจากการติดเชื้อหรือการอักเสบ แพทย์จะให้การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาต้านการอักเสบตามความเหมาะสม การรักษาสาเหตุพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพจะช่วยให้ผนังมดลูกฟื้นตัวและหนาขึ้นได้

การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต

การปรับเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตบางอย่างอาจช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ส่งผลดีต่อความหนาของผนังมดลูก

  • การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : อาหารที่อุดมด้วยโปรตีน วิตามิน E วิตามิน C สังกะสี และโอเมก้า-3 จะช่วยส่งเสริมการไหลเวียนของเลือดและสนับสนุนระบบสืบพันธุ์
  • การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ : การออกกำลังกายแบบไม่หักโหมช่วยเพิ่มการไหลเวียนเลือดทั่วร่างกาย รวมถึงที่มดลูก
  • การลดความเครียด : ความเครียดเรื้อรังสามารถส่งผลเสียต่อระบบฮอร์โมนและการไหลเวียนเลือด การจัดการความเครียดผ่านการทำสมาธิ โยคะ หรือกิจกรรมผ่อนคลายอื่น ๆ อาจช่วยปรับปรุงสุขภาพของระบบสืบพันธุ์ได้

การบำรุงผนังมดลูก: มดลูกบางกินอะไรบำรุงได้บ้าง ?

นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสมยังเป็นส่วนหนึ่งของการบำรุงผนังมดลูกให้แข็งแรง โดยอาหารที่ดีสำหรับผู้ที่มีภาวะมดลูกบางจนทำให้มีลูกยากควรกินเพื่อบำรุง ประกอบด้วย

  • อาหารที่อุดมด้วยเหล็ก เช่น เนื้อแดง ไก่ ปลา ถั่วเขียว และผักใบเขียวเข้ม เหล็กช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและเพิ่มการไหลเวียนเลือดไปยังมดลูก
  • อาหารที่มีวิตามิน E เช่น ถั่วแปบ เมล็ดทานตะวัน อะโวคาโด และน้ำมันมะกอก ช่วยบำรุงผนังมดลูกโดยการเพิ่มการไหลเวียนเลือดและปกป้องเซลล์จากอนุมูลอิสระ
  • โปรตีนคุณภาพสูง เช่น ไข่ ปลา ไก่ และถั่วต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อใหม่
  • อาหารที่มีโอเมก้า-3 เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า เมล็ดเซีย และวอลนัต ช่วยลดการอักเสบและสนับสนุนสุขภาพระบบสืบพันธุ์

การป้องกันภาวะผนังมดลูกบาง

หลีกเลี่ยงการขูดมดลูกหากไม่จำเป็น

การขูดมดลูกควรทำเฉพาะเมื่อมีข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ที่ชัดเจนเท่านั้น หากมีทางเลือกอื่นที่ปลอดภัยกว่า ควรพิจารณาทางเลือกนั้นก่อน

หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่เป็นอันตราย

สารเคมีบางชนิด เช่น สารกำจัดศัตรูพืช พลาสติกที่มีส่วนผสมของ BPA หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด อาจรบกวนการทำงานของระบบฮอร์โมนและส่งผลเสียต่อระบบสืบพันธุ์ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเหล่านี้ให้มากที่สุด

ดูแลสุขภาพทั่วไปและระบบสืบพันธุ์

การรักษาสุขภาพที่ดีโดยรวมเป็นสิ่งสำคัญ เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ และการนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยส่งเสริมสุขภาพของระบบสืบพันธุ์และลดความเสี่ยงของภาวะผนังมดลูกบาง

ตรวจสุขภาพประจำปี

การตรวจสุขภาพประจำปี รวมถึงการตรวจภายใน จะช่วยให้แพทย์ตรวจพบความผิดปกติของระบบสืบพันธุ์ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้สามารถเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่จะเกิดผลกระทบรุนแรงต่อผนังมดลูก

ผู้ที่พบปัญหาในการตั้งครรภ์หรือมีประวัติที่อาจเสี่ยงต่อภาวะผนังมดลูกบาง ควรปรึกษาแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม อีกทั้งการเข้ารับการรักษาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการมีบุตรอย่างมีนัยสำคัญ ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ที่ได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย เรามีทีมแพทย์พร้อมให้คำปรึกษาและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีปัญหาภาวะผนังมดลูกบาง ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและการดูแลในแบบองค์รวม

บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/

Book a consultation with Dr. Worawat Siripoon at our infertility clinic

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.