
อาการแพ้น้ำอสุจิ เป็นภาวะที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีอยู่จริง และกลายเป็นปัจจัยที่กระทบต่อการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งนำไปสู่ปัญหาการตั้งครรภ์โดยวิธีธรรมชาติ ดังนั้นการทำความเข้าใจอาการ สาเหตุและวิธีการรักษาภาวะแพ้น้ำอสุจิจึงเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากจะช่วยให้คู่สมรสสามารถวางแผนในการมีลูกได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย
อาการแพ้น้ำอสุจิ เกิดจากสาเหตุอะไร?
แพ้น้ำอสุจิ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า “Seminal Plasma Hypersensitivity” เป็นภาวะที่เกิดจากการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อโปรตีนที่อยู่ในน้ำอสุจิ ซึ่งเมื่อร่างกายได้รับน้ำอสุจิจากฝ่ายชาย ระบบภูมิคุ้มกันจะเข้าใจว่าโปรตีนในน้ำอสุจิเป็นสิ่งแปลกปลอมและเริ่มตอบสนองจนทำให้เกิดอาการแพ้ โดยอาการนี้อาจทำให้การมีเพศสัมพันธ์ไม่ราบรื่นและทำให้เกิดความยากลำบากในการตั้งครรภ์
อาการแพ้น้ำอสุจิ
อาการแพ้น้ำอสุจิ อาจแสดงออกมาได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในบริเวณที่สัมผัสโดยตรง หรือส่งผลกระทบไปทั่วร่างกาย ซึ่งสัญญาณเหล่านี้มักเกิดขึ้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ไม่นานนัก ดังนี้
- คันหรือแสบบริเวณอวัยวะเพศ เป็นอาการที่พบมากที่สุดหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ โดยจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหลังจากการสัมผัสกับน้ำอสุจิ และอาจคงอยู่ได้นานหลายชั่วโมง
- ผื่นแดงคล้ายกับผื่นลมพิษ หรืออาการบวมที่บริเวณอวัยวะเพศหรือรอบ ๆ ช่องคลอด อาการนี้อาจแพร่กระจายไปยังบริเวณใกล้เคียงได้
- ระคายเคือง แสบร้อน หรืออักเสบภายในช่องคลอด ทำให้รู้สึกไม่สบายและอาจมีผลต่อการทำกิจวัตรประจำวัน
- หายใจหอบ ติดขัด หายใจไม่ออก หลังจากมีเพศสัมพันธ์ เป็นปฏิกิริยาแพ้อย่างรุนแรง ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
- คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากมีเพศสัมพันธ์ อาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่มีปฏิกิริยาแพ้ระดับปานกลางถึงรุนแรง
อาการแพ้น้ำอสุจิรักษาอย่างไร?
สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้น้ำอสุจิ แพทย์จะพิจารณาให้การรักษาด้วยยาต้านฮิสตามีน เพื่อบรรเทาอาการแพ้ หรือในบางกรณีอาจแนะนำการรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Desensitization Therapy) ซึ่งเป็นการค่อย ๆ ให้ร่างกายสัมผัสกับโปรตีนในน้ำอสุจิในปริมาณน้อย ๆ เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันค่อย ๆ ปรับตัวและลดการตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้ลง
วิธีป้องกันอาการแพ้น้ำอสุจิ
การป้องกันอาการแพ้น้ำอสุจิ สามารถทำได้ด้วยวิธีการเหล่านี้
การใช้ถุงยางอนามัย
การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิสัมผัสกับเยื่อบุผิวในช่องคลอดโดยตรง ทำให้ลดความเสี่ยงในการเกิดอาการแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังวางแผนจะมีบุตร จึงจำเป็นต้องอาศัยแนวทางการรักษาอื่น ๆ เพิ่มเติม
การตรวจสุขภาพ
การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณสงสัยว่ามีอาการแพ้น้ำอสุจิ โดยแพทย์จะแนะนำให้ฝ่ายชายตรวจวิเคราะห์น้ำอสุจิ เพื่อหาโปรตีนที่ก่อให้เกิดการแพ้ รวมถึงการตรวจเลือดของฝ่ายหญิงเพื่อดูระดับสารภูมิแพ้ การตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องจะช่วยยืนยันภาวะความผิดปกติต่าง ๆ และแพทย์จะสามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
การปรึกษาแพทย์
หากคุณมีอาการแพ้น้ำอสุจิ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้หรือสูตินรีแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำในการใช้ยาหรือวิธีการรักษาที่เหมาะสม
วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับผู้มีอาการแพ้น้ำอสุจิ
สำหรับคู่รักที่ต้องการมีบุตร แต่ฝ่ายหญิงมีอาการแพ้น้ำอสุจิ แพทย์จะแนะนำให้ใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์มาช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ ซึ่งมีดังนี้
IUI (Intrauterine Insemination)
การทำ IUI หรือการฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคู่รักที่เผชิญกับภาวะแพ้น้ำอสุจิ โดยในกระบวนการนี้ แพทย์จะนำน้ำอสุจิของฝ่ายชายมาผ่านกระบวนการคัดกรองและเตรียมความพร้อมในห้องปฏิบัติการ เพื่อแยกเอาเฉพาะอสุจิที่แข็งแรงและมีคุณภาพดีที่สุด และช่วยแยกโปรตีนในน้ำอสุจิที่อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้ออกไป จากนั้นจะฉีดอสุจิเข้าไปในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิงโดยตรงในช่วงเวลาที่มีการตกไข่ ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับช่องคลอดและลดปฏิกิริยาการแพ้ได้
ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection)
ในกระบวนการ ICSI แพทย์จะทำการเก็บไข่ของฝ่ายหญิงและอสุจิของฝ่ายชาย จากนั้นจะทำการคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดเพียงหนึ่งตัว แล้วฉีดเข้าไปในเซลล์ไข่ที่สมบูรณ์ที่สุดของฝ่ายหญิง หลังจากนั้นจะนำตัวอ่อนที่ปฏิสนธิแล้วกลับไปฝังในโพรงมดลูกของฝ่ายหญิง ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้มั่นใจว่าการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นได้โดยไม่จำเป็นต้องมีการสัมผัสกับน้ำอสุจิในช่องคลอดแต่อย่างใด
สำหรับคนที่สงสัยว่าตนเองมีอาการแพ้น้ำอสุจิและต้องการเพิ่มโอกาสในการมีลูก หรือต้องการตรวจหาสาเหตุมีลูกยาก ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) พร้อมให้คำปรึกษาและนำเสนอทางเลือกในการรักษาที่เหมาะสมกับคุณ
บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.