
การตั้งครรภ์แฝด หมายถึง การที่มารดาตั้งครรภ์ทารกมากกว่าหนึ่งคนในครรภ์เดียวกัน โดยแบ่งเป็นแฝดแท้ (Identical Twins) ที่เกิดจากไข่หนึ่งใบที่ได้รับการผสมกับอสุจิหนึ่งตัวแล้วแบ่งตัว และแฝดเทียม (Fraternal Twins) ที่เกิดจากไข่สองใบที่ได้รับการผสมจากอสุจิสองตัว ปัจจุบัน ความนิยมในการทำลูกแฝดได้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลทั้งจากความต้องการมีครอบครัวที่สมบูรณ์ในคราวเดียว ประหยัดเวลาในการตั้งครรภ์ และด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เอื้ออำนวยต่อความเป็นไปได้นี้
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการมีลูกแฝด
กรรมพันธุ์
กรรมพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสในการมีลูกแฝด โดยเฉพาะหากมีประวัติครอบครัวที่มีการคลอดบุตรแฝดมาก่อน โอกาสในการมีลูกแฝดจะสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะในฝั่งมารดา ทั้งนี้ พบว่าหากมารดาเป็นฝาแฝดเอง หรือมีพี่น้องฝาแฝด โอกาสในการมีลูกแฝดจะสูงกว่าประชากรทั่วไปถึง 2-3 เท่า เนื่องจากมีแนวโน้มทางพันธุกรรมที่ส่งผลต่อการตกไข่มากกว่าหนึ่งใบในแต่ละรอบเดือน
อายุของมารดา
อายุของมารดาเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลอย่างชัดเจนต่อโอกาสในการมีลูกแฝด ผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 35 ปี มีโอกาสปล่อยไข่มากกว่า 1 ใบในรอบเดือนเดียวกัน เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน FSH (Follicle Stimulating Hormone) ที่มีระดับสูงขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ส่งผลให้มีการกระตุ้นรังไข่ให้ปล่อยไข่มากกว่าปกติ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์แฝดเทียมสูงขึ้นตามไปด้วย
เชื้อชาติและภูมิภาค
ปัจจัยทางเชื้อชาติและภูมิภาคมีผลต่ออัตราการเกิดแฝดที่แตกต่างกัน โดยพบว่าชาวแอฟริกา โดยเฉพาะในประเทศไนจีเรียและเบนิน มีอัตราการเกิดแฝดสูงที่สุดในโลก ในขณะที่ชาวเอเชีย โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นและชาวจีน มีอัตราการเกิดแฝดต่ำที่สุด ซึ่งความแตกต่างนี้มาจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันในแต่ละภูมิภาค
วิธีการเพิ่มโอกาสในการมีลูกแฝด
สำหรับวิธีที่จะช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำเด็กแฝดมีดังต่อไปนี้
การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง
การบริโภคอาหารที่มีแคลเซียมสูง โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์จากนม อาจช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกแฝดได้ เนื่องจากแคลเซียมมีผลต่อการทำงานของรังไข่และการตกไข่ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านการมีบุตรก่อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค
การรับประทานกรดโฟลิก
กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่สำคัญสำหรับสตรีที่วางแผนตั้งครรภ์ ซึ่งนอกจากจะช่วยป้องกันความผิดปกติของระบบประสาทในทารกแล้ว ยังส่งผลต่อการตกไข่และเพิ่มอัตราการฝังตัวของตัวอ่อน สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิก เช่น ผักใบเขียว ธัญพืช หรือเสริมด้วยวิตามินรวม
การหยุดยาคุมกำเนิดหลังใช้เป็นเวลานาน
การหยุดยาคุมกำเนิดหลังจากที่ใช้มาเป็นระยะเวลานาน อาจส่งผลให้ร่างกายมีการปล่อยไข่มากกว่า 1 ใบในรอบเดือน โดยเฉพาะในช่วง 3-6 เดือนแรกหลังจากหยุดใช้ยา เนื่องจากร่างกายมีการปรับสมดุลฮอร์โมนใหม่ ทำให้มีการกระตุ้นรังไข่มากกว่าปกติ ส่งผลให้มีโอกาสตกไข่มากกว่าหนึ่งใบและเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์แฝดเทียม
การใช้ยากระตุ้นการตกไข่
ยากระตุ้นการตกไข่ เช่น Clomiphene (Clomid) หรือ Letrozole เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตกไข่ โดยเฉพาะในสตรีที่มีภาวะไม่ตกไข่หรือตกไข่ไม่สม่ำเสมอ ยาเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้รังไข่ผลิตและปล่อยไข่ได้มากกว่า 1 ใบในรอบเดือน ส่งผลให้มีโอกาสในการตั้งครรภ์แฝดสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม การใช้ยากระตุ้นการตกไข่ควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
การใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์เพื่อทำลูกแฝด
การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF
การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF (In Vitro Fertilization) เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำลูกแฝด โดยกระบวนการนี้จะเริ่มจากการกระตุ้นรังไข่ให้ผลิตไข่หลายใบ จากนั้น แพทย์จะทำการเก็บไข่และนำไปผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ เมื่อได้ตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี และจะทำการย้ายตัวอ่อนมากกว่า 1 ตัวเข้าสู่มดลูก เพื่อเพิ่มโอกาสในการฝังตัวและตั้งครรภ์ โดยเปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนตัวอ่อนที่ย้ายเข้าสู่มดลูก
การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี ICSI
การทำเด็กหลอดแก้วแบบ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) เป็นเทคนิคพิเศษของการทำเด็กหลอดแก้ว โดยแพทย์จะทำการคัดเลือกอสุจิที่มีคุณภาพดีและฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง วิธีนี้เหมาะสำหรับคู่สมรสที่ฝ่ายชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพหรือจำนวนอสุจิ
การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูกโดยตรง (IUI)
การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก หรือ IUI (Intrauterine Insemination) เป็นกระบวนการที่แพทย์จะฉีดน้ำเชื้อที่ผ่านการคัดกรองแล้วเข้าไปในโพรงมดลูกโดยตรง ซึ่งวิธีทำลูกแฝดนี้มักใช้ร่วมกับการกระตุ้นไข่ด้วยยาเพื่อให้มีการตกไข่มากกว่า 1 ใบ ทำให้โอกาสมีลูกแฝดเพิ่มขึ้น
วิธีทำลูกแฝด ราคาเท่าไรบ้าง ?
วิธีมีลูกแฝดด้วยการทำเด็กหลอดแก้ว มีราคาที่แตกต่างกันไปตามเทคนิคทางการแพทย์ที่เลือกใช้ ซึ่งโดยทั่วไปจะสามารถแบ่งระดับราคาได้ดังนี้
การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี IVF
ค่าใช้จ่ายในการทำ IVF ในประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 200,000-300,000 บาทต่อรอบการรักษา ขึ้นอยู่กับโรงพยาบาล คลินิก และปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุของมารดา สภาพร่างกาย และความซับซ้อนของกรณี โดยค่าใช้จ่ายนี้ครอบคลุมการตรวจวินิจฉัย การกระตุ้นไข่ การเก็บไข่ การผสมไข่กับอสุจิ และการย้ายตัวอ่อน รวมถึงยาที่ใช้ในกระบวนการทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากการรักษาไม่ประสบความสำเร็จในรอบแรก อาจต้องทำการรักษาซ้ำซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี ICSI
ค่าใช้จ่ายในการทำ ICSI อยู่ที่ประมาณ 300,000-400,000 บาท ขึ้นอยู่กับแพ็กเกจและสภาพร่างกายของคู่สมรส โดยวิธีทำลูกแฝดด้วยวิธีนี้ราคาจะเพิ่มเติมจากการทำ IVF ปกติประมาณ 50,000-90,000 บาท เนื่องจากเป็นเทคนิคที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่
การฉีดเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก (IUI)
ค่าใช้จ่ายในการทำ IUI มีความหลากหลาย ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลและแพ็กเกจที่เลือก โดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 15,000-50,000 บาทต่อรอบการรักษา ซึ่งรวมถึงค่าการตรวจวินิจฉัย การเตรียมน้ำเชื้อ และกระบวนการฉีดเชื้อ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมจากคู่สามีภรรยาที่ประสบปัญหามีบุตรยาก
ความเสี่ยงและข้อควรระวังในการตั้งครรภ์แฝด
การตั้งครรภ์ด้วยวิธีทำลูกแฝดอาจมาพร้อมกับความเสี่ยงในหลาย ๆ ด้าน จึงต้องระมัดระวังกับเรื่องเหล่านี้เป็นพิเศษ
ภาวะแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์
การตั้งครรภ์แฝดมีความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนสูงกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว ความเสี่ยงที่สำคัญได้แก่ การคลอดก่อนกำหนด นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์ (Preeclampsia) ภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ ภาวะเลือดจาง และภาวะน้ำคร่ำมากเกินไป มารดาที่ตั้งครรภ์แฝดจึงจำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ตลอดการตั้งครรภ์
ภาระทางการเงินและการดูแลหลังคลอด
การมีลูกแฝดนำมาซึ่งภาระทางการเงินที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งค่าใช้จ่ายในการเตรียมอุปกรณ์สำหรับทารกจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า รวมถึงค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ การศึกษา และความต้องการพื้นฐานอื่น ๆ นอกจากนี้ การดูแลทารกแฝดยังมีความท้าทายในด้านเวลาและแรงงาน เนื่องจากต้องดูแลทารกสองคนในเวลาเดียวกัน ส่งผลให้ผู้ปกครองอาจเผชิญกับความเหนื่อยล้าและความเครียดที่มากกว่า คู่สมรสจึงควรมีการวางแผนทางการเงินและเตรียมความพร้อมให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจมีบุตรแฝด
หากคุณกำลังมีแพลนจะทำลูกแฝด ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เป็นศูนย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ครบวงจร ได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยประสบการณ์การรักษาด้วยเทคโนโลยีการเจริญพันธุ์มากกว่า 15 ปี ให้บริการโดยทีมสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และทีมนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเลี้ยงตัวอ่อน เริ่มต้นเส้นทางสู่การมีบุตรกับเราวันนี้ เพื่อโอกาสที่ดีที่สุดในการมีครอบครัวที่สมบูรณ์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline : 082-903-2035
LINE Official : @vfccenter
บทความโดย แพทย์หญิงศรมน ทรงวีรธรรม

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.