
การแท้งลูกเป็นประสบการณ์ที่กระทบต่อทั้งร่างกายและจิตใจของผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่เฝ้ารอการมีลูกมาอย่างยาวนาน ซึ่งบางครั้งหลายคนอาจไม่ทราบว่าอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกาย คือสัญญาณเตือนของการแท้ง หากตรวจพบได้เร็วและได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง ก็อาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนหรือเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไปได้สำเร็จ
บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการแท้งที่ควรรู้ พร้อมรู้ทันสาเหตุที่ทำให้แท้งบ่อย เพื่อการรับมืออย่างทันท่วงที
อาการแท้งลูกที่ควรรู้ สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
การแท้งส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งอาการแท้งที่พบบ่อย ได้แก่
- มีเลือดออกจากช่องคลอด เริ่มจากเลือดสีน้ำตาลจาง ๆ ไปจนถึงเลือดแดงสด
- มีอาการปวดท้องน้อยหรือปวดหลังอย่างต่อเนื่อง คล้ายอาการปวดประจำเดือนแต่รุนแรงกว่า
- มีของเหลวหรือชิ้นเนื้อขนาดเล็กออกมาทางช่องคลอด
- อาการแพ้ท้องที่เคยมีหายไปอย่างรวดเร็ว เช่น รู้สึกคลื่นไส้ลดลง เต้านมไม่คัดตึง
หากมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและประเมินสภาพของครรภ์ทันที
แท้งบ่อยเกิดจากอะไร?
ภาวะแท้งบ่อย หรือการแท้งติดต่อกันหลายครั้งไม่ใช่เรื่องปกติ และควรได้รับการตรวจอย่างละเอียดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุ มีดังนี้
ความผิดปกติทางพันธุกรรม
เกิดจากโครโมโซมหรือยีนที่ผิดปกติของไข่หรืออสุจิ ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถพัฒนาได้ตามปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของการแท้งบ่อยที่พบได้มากที่สุด
ความผิดปกติของมดลูก
หากมดลูกมีผนังกั้น โพรงมดลูกผิดรูป หรือมีพังผืด อาจส่งผลให้การฝังตัวของตัวอ่อนไม่สมบูรณ์ หรือเกิดการหลุดออกง่าย
ปัญหาฮอร์โมน
ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน อย่าง ภาวะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่ำ มีผลต่อการเตรียมผนังมดลูกให้พร้อมกับการฝังตัว และ ภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบ (PCOS) เป็นปัญหาที่ส่งผลต่อการตกไข่และการเจริญของเยื่อบุโพรงมดลูก
โรคประจำตัวเรื้อรัง
โรคประจำตัวต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคไทรอยด์ หรือภูมิคุ้มกันทำลายตัวอ่อน เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดอาการแท้งได้เช่นกัน
อายุของทั้งฝ่ายหญิงและชาย
หากฝ่ายหญิงมีอายุมากกว่า 35 ปี หรือฝ่ายชายมากกว่า 40 ปี โอกาสเกิดความผิดปกติของเซลล์ไข่และอสุจิจะเพิ่มขึ้น ส่งผลต่อการปฏิสนธิและพัฒนาการของตัวอ่อน
การวินิจฉัยที่แม่นยำและการวางแผนการตั้งครรภ์ร่วมกับแพทย์ จะช่วยลดความเสี่ยงของการแท้งซ้ำและเพิ่มโอกาสในการมีบุตรได้มากขึ้น
แนวทางวินิจฉัยเมื่อแท้งบ่อย
สำหรับผู้ที่มีประวัติแท้งซ้ำติดต่อกัน การตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุอย่างละเอียดถือเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนเริ่มต้นการตั้งครรภ์ใหม่ เพราะการแท้งบ่อยมักเกิดจากปัจจัยที่สามารถตรวจพบและแก้ไขได้ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางพันธุกรรม ฮอร์โมน โครงสร้างมดลูก หรือโรคประจำตัวบางชนิด
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จะวางแผนการตรวจอย่างครอบคลุม โดยพิจารณาจากประวัติทางการแพทย์ อายุของคู่สมรส จำนวนครั้งที่แท้ง รวมถึงลักษณะของการแท้งลูกแต่ละครั้ง เพื่อให้สามารถระบุปัจจัยเสี่ยง และเลือกแนวทางการรักษาหรือการวางแผนตั้งครรภ์ที่เหมาะสมที่สุดในครั้งถัดไป โดยมีแนวทางการตรวจวินิจฉัยดังนี้
- ตรวจโครโมโซมของทั้งพ่อและแม่
- ตรวจมดลูกด้วยการอัลตราซาวนด์ หรือส่องกล้องโพรงมดลูก
- ตรวจฮอร์โมนในช่วงรอบเดือน
- ตรวจระบบภูมิคุ้มกัน
- ตรวจคุณภาพอสุจิ รวมถึงการตรวจ DNA Fragmentation
ICSI คืออะไร และช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างไร?
เมื่อพบสาเหตุของการแท้งลูกบ่อย และได้รับการวินิจฉัยอย่างครบถ้วนแล้ว ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือการเลือกแนวทางที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ให้สำเร็จมากขึ้นอย่างปลอดภัย ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีทางเลือกที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย คือ การทำ ICSI
ICSI หรือ Intracytoplasmic Sperm Injection คือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่แพทย์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุด นำไปฉีดเข้าไปในไข่โดยตรง เพื่อช่วยให้เกิดการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ตอบโจทย์อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกรณีที่อสุจิหรือไข่มีคุณภาพต่ำ หรือมีความเสี่ยงต่อการเกิดความผิดปกติของตัวอ่อน ซึ่งมักเป็นสาเหตุหนึ่งของการแท้งบ่อย
การทำ ICSI มาพร้อมกับข้อดีดังนี้
- ลดโอกาสการปฏิสนธิที่ผิดปกติ เพราะเลือกใช้อสุจิที่มีคุณภาพสูง
- สามารถตรวจคัดกรองพันธุกรรมของตัวอ่อนก่อนย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก (PGT) เพื่อเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุด
- เหมาะกับผู้ที่มีคุณภาพไข่หรืออสุจิต่ำ หรือผู้ที่เคยพยายามมีบุตรแต่ไม่ประสบความสำเร็จ
- เพิ่มโอกาสการฝังตัวของตัวอ่อนที่มีคุณภาพ และลดความเสี่ยงของการแท้งในอนาคต
เพราะการแท้งลูกไม่ใช่เรื่องเล็ก และการเกิดขึ้นซ้ำหลายครั้งควรได้รับการตรวจวินิจฉัยอย่างจริงจัง การเข้าใจอาการแท้งตั้งแต่เนิ่น ๆ พร้อมหาสาเหตุที่แท้จริง จะช่วยให้สามารถป้องกันและดูแลครรภ์ในครั้งต่อไปได้อย่างเหมาะสม
สำหรับคู่รักที่ต้องการวางแผนตั้งครรภ์อย่างมั่นใจ การทำ ICSI คือเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และลดความเสี่ยงการแท้งในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้ามาปรึกษาได้ที่ ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ศูนย์เฉพาะทางด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก ที่ได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย เราพร้อมดูแลคุณ เพื่อช่วยให้คุณสามารถวางแผนครอบครัวได้อย่างปลอดภัย ในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด
บทความโดย แพทย์หญิงวนากานต์ สิงหเสนา
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter
คำถามที่พบบ่อย
แท้งแล้วต้องรอกี่เดือนถึงจะตั้งครรภ์ใหม่ได้?
โดยทั่วไป แนะนำให้พักร่างกายและจิตใจอย่างน้อย 2–3 เดือน ก่อนเริ่มวางแผนตั้งครรภ์ใหม่ และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง
การแท้ง 1-2 ครั้ง ถือว่าแท้งบ่อยไหม?
หากแท้งติดต่อกัน 2 ครั้งขึ้นไป ถือว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะแท้งซ้ำ ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุอย่างละเอียด
ICSI กับ IVF ต่างกันอย่างไร?
IVF คือการผสมไข่กับอสุจิในห้องปฏิบัติการแล้วปล่อยให้ปฏิสนธิเอง ส่วน ICSI คือการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง เพิ่มความแม่นยำและลดความผิดปกติ
การทำ ICSI ต้องเตรียมตัวล่วงหน้านานแค่ไหน?
ควรมีการตรวจร่างกายเบื้องต้นทั้งชายและหญิง รวมถึงวางแผนกับแพทย์ล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.