เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

รู้จักสารอันตรายในครีมที่คนท้องห้ามใช้ เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย

คุณแม่ทาสกินแคร์โดยหลีกเลี่ยงครีมที่คนท้องห้ามใช้

ในช่วงระหว่างการตั้งครรภ์ ร่างกายของคุณแม่มีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนอย่างมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาผิวหนัง เช่น ฝ้า สิว ผิวหมองคล้ำ หรือผิวแห้งแตก ส่งผลให้คุณแม่หลายคนต้องการดูแลผิวด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงต่าง ๆ แต่รู้หรือไม่ว่า มีครีมบางประเภทที่คนท้องห้ามใช้เด็ดขาด เพราะอาจมีสารอันตรายที่ส่งผลต่อทารกในครรภ์โดยไม่รู้ตัว

ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลผิวพรรณได้อย่างปลอดภัย เราจะมาแนะนำสารอันตรายในครีมที่คนท้องห้ามใช้ จะได้หลีกเลี่ยงพร้อมกับหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิวของคุณแม่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะ

 

ทำไมคนท้องต้องระวังเรื่องการเลือกใช้ครีมบำรุงผิว ?

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาพิเศษที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญกับทุกสิ่งที่เข้าสู่ร่างกาย ซึ่งไม่เพียงแค่การรับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสกินแคร์ที่ใช้ทาภายนอกด้วย เนื่องจากหากเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจเสี่ยงมีส่วนผสมอันตราย ที่จะส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ หรือทารกในครรภ์ได้

 

คนท้องห้ามใช้ครีมอะไร มีสารอันตรายชนิดใดบ้าง ?

คนท้องสามารถใช้ครีมบำรุงผิวแบรนด์มาตรฐานได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงครีมที่มีสารเคมีอันตรายเหล่านี้

วิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Retinoids)

ถึงแม้วิตามินเอหรือเรตินอยด์จะมีสรรพคุณช่วยลดริ้วรอยและฟื้นฟูผิว แต่หากใช้ในปริมาณสูงระหว่างการตั้งครรภ์ อาจทำให้เกิดความผิดปกติต่อทารกในครรภ์

กรดซาลิซิลิก (Salicylic Acid) หรือบีเอชเอ (Beta Hydroxy Acid)

กรดซาลิซิลิกหรือบีเอชเอ ที่มักพบในผลิตภัณฑ์รักษาสิว ควรหลีกเลี่ยงใช้งานในระหว่างการตั้งครรภ์ เพราะมีความเสี่ยงในการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์

เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ (Benzoyl Peroxide)

เบนโซอิลเพอร์ออกไซด์ เป็นสารอีกหนึ่งชนิดซึ่งมักได้รับการบรรจุอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการรักษาสิว อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาผิวระหว่างการตั้งครรภ์ให้แย่ลง

น้ำหอม (Perfume)

น้ำหอมและสารให้กลิ่นหอมในผลิตภัณฑ์สกินแคร์ อาจรบกวนการทำงานของฮอร์โมน จนส่งผลต่อพัฒนาการของทารก อีกทั้งในช่วงตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะไวต่อกลิ่นมากขึ้น จึงทำให้เกิดอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนได้ง่าย

พาราเบน (Parabens)

พาราเบนเป็นสารกันเสียที่นิยมใช้ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ซึ่งอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว และกระทบการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน จนส่งผลต่อการพัฒนาระบบสืบพันธุ์ของทารก

พาทาเลต (Phthalates)

พาทาเลตเป็นสารที่ช่วยให้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์มีความยืดหยุ่น รวมถึงเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม ซึ่งสารนี้อาจส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมน และกระทบต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

ครีมกันแดด (Chemical Sunscreen)

ครีมกันแดดแบบเคมี (Chemical Sunscreen) ที่มีส่วนผสมของ Oxybenzone, Avobenzone, Octisalate และ Octocrylene อาจดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดและรบกวนการทำงานของฮอร์โมน จึงควรหลีกเลี่ยงและหันมาใช้ครีมกันแดดแบบกายภาพ (Physical Sunscreen) ที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide หรือ Titanium Dioxide ในการปกป้องผิวแทน

ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อ (Antiperspirant)

ผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อมักมีส่วนผสมของน้ำหอมและสารประกอบอะลูมิเนียม ซึ่งกระทบต่อการทำงานของฮอร์โมน และทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากน้ำหอมหรือสารเคมี

 

คุณแม่ดูแลผิวโดยหลีกเลี่ยงครีมที่คนท้องห้ามใช้

 

เทคนิคการดูแลผิวสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

นอกจากการหลีกเลี่ยงสารอันตรายแล้ว คุณแม่สามารถดูแลผิวพรรณระหว่างตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีเหล่านี้

  • ล้างหน้าด้วยน้ำอุ่นและผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน ควรเลือกที่ไม่มีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิวที่รุนแรง (Harsh Surfactants) และไม่มีน้ำหอม
  • ใช้ครีมบำรุงผิวที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ช่วยลดการเกิดฝ้าและจุดด่างดำ รวมทั้งกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนซึ่งช่วยป้องกันผิวแตกลาย แต่ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นไม่สูงเกินไป เพื่อให้ดูดซึมเข้าสู่ผิวในปริมาณที่เหมาะสม
  • ใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว เนื่องจากในช่วงตั้งครรภ์ ผิวมักจะแห้งกว่าปกติ โดยควรใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีน หรือกรดไฮยาลูรอนิก เพื่อช่วยเก็บกักความชุ่มชื้นและช่วยลดอาการระคายเคือง
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางแดดจัด และใช้ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และมีสรรพคุณในการบำรุงผิว เช่น ผัก ผลไม้ และดื่มน้ำให้เพียงพอจะช่วยให้ผิวพรรณสดใสจากภายใน

การได้รู้และเข้าใจเกี่ยวกับครีมที่คนท้องห้ามใช้เพราะมีความเสี่ยงต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ คงช่วยให้การเลือกผลิตภัณฑ์มาใช้งานง่ายยิ่งขึ้น เพราะกว่าจะตั้งครรภ์สำเร็จ คุณแม่ต้องทุ่มเททั้งร่างกายและความพยายามมากมาย การดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่และลูกน้อย

สำหรับคู่แต่งงานที่ต้องการเพิ่มโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ ที่ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ให้บริการเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ทันสมัย โดยทีมแพทย์ของศูนย์รักษาผู้มีบุตรยาก พร้อมให้การดูแลอย่างใส่ใจ ทั้งยังครบครันด้วยอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย และห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานระดับสากล ให้บริการตั้งแต่การตรวจวินิจฉัย วางแผนการรักษา ไปจนถึงการดูแลสุขภาพของมารดาและทารกระหว่างตั้งครรภ์

 

บทความโดย แพทย์ศรมน ทรงวีรธรรม

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.