
หากพูดถึงคำว่า “เป็นหมัน” หรือ “ทำหมัน” หลายคนคงเข้าใจว่าเป็นภาวะที่ไม่สามารถมีบุตรได้ ไม่ว่าจะจากการผ่าตัดหรือสภาพร่างกายตามธรรมชาติก็ตาม หรือคู่สมรสบางรายอาจเลือกทำหมันเพื่อคุมกำเนิดแบบถาวร แต่เมื่อเวลาผ่านไป ความต้องการมีลูกอาจเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า “ทำหมันแล้วท้องได้ไหม ?” หรือ “คนเป็นหมันสามารถมีลูกได้ไหม ?” ซึ่งคำตอบของคำถามนี้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น วิธีการทำหมันที่ใช้ ระยะเวลาหลังจากทำหมัน รวมถึงทางเลือกทางการแพทย์ที่สามารถช่วยให้กลับมาตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง
เจาะลึกการทำหมันในผู้ชายและผู้หญิง
การทำหมันเป็นวิธีการคุมกำเนิดถาวรที่สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์แบบถาวรในผู้ที่ไม่ต้องการมีลูกเพิ่มหรือไม่ต้องการมีลูกเลย สำหรับคนที่มีความสนใจในเรื่องนี้ แต่ยังไม่เข้าใจดี มาทำความเข้าใจเรื่องการเป็นหมันและการทำหมันได้ที่นี่
การเป็นหมัน
การเป็นหมัน คือภาวะที่ร่างกายไม่สามารถมีบุตรได้โดยธรรมชาติ เกิดขึ้นได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งก็มีสาเหตุและอาการที่แตกต่างกันไป ดังนี้
1. อาการเป็นหมันในผู้ชาย
สาเหตุการเป็นหมันในเพศชายเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
- ความผิดปกติของโครโมโซม ทำให้ร่างกายสามารถผลิตอสุจิได้ปริมาณน้อยกว่าคนทั่วไป
- ความผิดปกติจากอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับระบบสืบพันธุ์ เช่น ท่อน้ำเชื้อ อัณฑะ อวัยวะเพศ
- การติดเชื้อหรืออาการป่วยบางประเภท
อาการที่อาจสังเกตได้คือปริมาณและความเข้มข้นของน้ำเชื้อ แต่เพื่อความแน่นอน ควรเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติมกับแพทย์โดยละเอียด
2. อาการเป็นหมันในเพศหญิง
แล้วถ้าถามว่า ผู้หญิงเป็นหมันได้ไหม ? มีลักษณะอย่างไร ? คำตอบคือสามารถเป็นหมันได้เช่นเดียวกับผู้ชาย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ภาวะนี้จะเกิดจากความผิดปกติทางร่างกาย เช่น ไม่มีรังไข่ ไม่มีมดลูก ช่องคลอดไม่สมบูรณ์ ช่องคลอดตีบตัน หรือปัญหาทางฮอร์โมนที่มีผลกระทบต่อการทำงานของต่อมไร้ท่อและรังไข่ นอกจากนี้ ยังอาจเกิดได้จากสาเหตุของโรคติดเชื้อหรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น เชื้อหนองใน เนื้องอกในมดลูก และโรคเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
การทำหมัน
การทำหมันคือวิธีการคุมกำเนิดถาวรที่สามารถทำได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง โดยแต่ละเพศจะมีลักษณะดังนี้
1. การทำหมันชาย
การทำหมันในผู้ชาย (Vasectomy) เป็นการผ่าตัดเพื่อตัดหรือผูกท่อนำอสุจิ วิธีนี้จะทำให้อสุจิไม่สามารถผสมกับไข่ได้ แม้ว่าจะยังคงหลั่งน้ำอสุจิได้ตามปกติ แต่น้ำอสุจิจะไม่มีตัวอสุจิอยู่ อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสเกิดภาวะ “หมันหลุด” ได้ในบางกรณี เช่น ท่อนำอสุจิกลับมาต่อกันเองตามธรรมชาติ
2. การทำหมันหญิง
สำหรับการทำหมันในเพศหญิง (Tubal Ligation) คือ การทำให้ท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง อุดตัน แยกจากกัน หรือตัดออก เพื่อทำให้อสุจิไม่สามารถเข้าถึงไข่เพื่อปฏิสนธิได้ โดยแบ่งเป็น 2 ประเภทด้วยกัน คือ
- การทำหมันเปียก เป็นการทำหมันทันทีหลังคลอดลูกไม่เกิน 72 ชั่วโมง โดยแพทย์จะทำการเจาะหน้าท้องบริเวณใต้สะดือเพื่อเข้าไปหาท่อนำไข่ แล้วทำการตัดท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง
- การทำหมันแห้ง เป็นการทำหมันในช่วงเวลาที่ฝ่ายหญิงสะดวก โดยแพทย์จะผ่าตัดทางหน้าท้องเหนือกระดูกหัวหน่าวเล็กน้อย และใช้วิธีการผูกท่อนำไข่และตัดท่อนำไข่บางส่วนออก เพื่อป้องกันไม่ให้ไข่กับอสุจิผสมกันจนเกิดเป็นการตั้งครรภ์ มีประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดสูงถึง 99%
หมันหลุดคืออะไร ? มีโอกาสเกิดขึ้นได้หรือไม่?
แม้ว่าการทำหมันจะมีประสิทธิภาพสูง แต่ก็มีโอกาสเกิดภาวะ “หมันหลุด” ได้เช่นกัน ซึ่งหมายถึงท่อนำอสุจิหรือท่อนำไข่กลับมาต่อกันเอง ส่งผลให้สามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง
อาการหมันหลุดที่ควรสังเกต
- รู้สึกเจ็บ คัดตึงเต้านม
- ประจำเดือนขาดหรือมาไม่ปกติ
- มีอาการแพ้ท้อง คลื่นไส้ อ่อนเพลีย
- มีความไวต่อกลิ่น จะรู้สึกไม่ค่อยสบายเมื่อได้กลิ่นอาหารบางชนิด
- มีอาการปวดท้องคล้ายอาการตั้งครรภ์
วิธีตรวจสอบและป้องกันหมันหลุด
หากสงสัยว่าหมันหลุด ควรตรวจการตั้งครรภ์ทันที โดยฝ่ายชายสามารถเข้ารับการตรวจน้ำเชื้อเพื่อประเมินว่าท่อนำอสุจิกลับมาต่อกันหรือไม่ สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันภาวะหมันหลุด ควรติดตามผลกับแพทย์หลังทำหมันอย่างสม่ำเสมอ และใช้วิธีคุมกำเนิดเพิ่มเติมในช่วงแรกหลังทำหมัน เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพของการคุมกำเนิด
ผู้ชายทำหมันสามารถมีลูกได้ไหม? หรือผู้หญิงเป็นหมัน มีโอกาสท้องไหม?
เพราะบางครั้ง แผนการสร้างครอบครัวอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ทำให้คู่รักหลายคู่อยากรู้ว่า หากผู้ชายเป็นหมัน มีลูกได้ไหมหรือผู้หญิงเป็นหมันท้องได้ไหม ซึ่งคำตอบก็คือ หากเป็นหมันหรือทำหมันแล้วอยากมีลูกขึ้นมา ก็สามารถทำให้มีลูกได้ แต่ต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากสูตินรีแพทย์ และใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ช่วยในการเจริญพันธุ์ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) หรือการผ่าตัดแก้หมัน ซึ่งทั้งสองวิธีนี้ได้รับการพัฒนาให้มีอัตราความสำเร็จสูงขึ้น โดยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าวิธีใดเหมาะสมกับคู่สมรสแต่ละรายมากที่สุด
แนะนำ 3 เทคโนโลยีทางการแพทย์ ช่วยให้ตั้งครรภ์ได้แม้ทำหมันแล้ว
สำหรับคู่สมรสที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหมัน โดยเฉพาะฝ่ายชายที่ทำหมันตัดท่อนำอสุจิแล้วกังวลว่าจะมีลูกได้ไหม ปัจจุบันได้มีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าช่วย ทำให้สามารถกลับมามีบุตรได้ ซึ่งหลัก ๆ มักนิยมใช้ 3 วิธีนี้
1. การแก้หมัน
- แก้หมันสำหรับผู้ชาย : การผ่าตัดต่อท่อนำอสุจิ (Vasectomy Reversal) เป็นการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อท่อนำอสุจิที่เคยถูกตัดหรือผูกไว้ให้กลับมาทำงานได้ตามปกติ
- แก้หมันสำหรับผู้หญิง : การผ่าตัดต่อท่อนำไข่ (Tubal Reversal) เป็นการผ่าตัดเพื่อเชื่อมต่อท่อนำไข่ที่เคยถูกตัดหรือผูกไว้
สำหรับอัตราความสำเร็จของการผ่าตัดแก้หมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เวลาที่ผ่านไปนับจากการทำหมัน และเทคนิคที่ใช้ในการทำหมันครั้งแรก
2. การทำ IVF
การทำเด็กหลอดแก้ว หรือ การทำ IVF (In Vitro Fertilization) เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคู่สมรสที่ต้องการมีบุตรหลังจากทำหมัน วิธีนี้เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิงที่เคยทำหมัน โดยมีขั้นตอนดังนี้
- แพทย์จะเลือกเก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด และผ่าตัดเก็บอสุจิจากอัณฑะโดยตรงในกรณีที่ฝ่ายชายทำหมัน
- นำไข่มาผสมกับอสุจิในห้องปฏิบัติการ
- เลี้ยงตัวอ่อนที่ได้จากการปฏิสนธิเป็นเวลา 3-5 วัน
- ย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่มดลูกของผู้หญิง เพื่อให้เกิดการฝังตัวและเกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
3. การทำ ICSI
Intracytoplasmic Sperm Injection (ICSI) เป็นเทคนิคพิเศษของการทำ IVF ที่ใช้ในกรณีที่ผู้ชายมีปัญหาเกี่ยวกับคุณภาพหรือมีจำนวนอสุจิน้อย วิธีนี้จะใช้การฉีดเชื้ออสุจิที่สมบูรณ์ที่สุดเพียงตัวเดียวเข้าสู่เซลล์ไข่โดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ได้มากกว่า
สำหรับคู่สมรสที่กำลังพิจารณาทางเลือกในการมีบุตรหลังจากทำหมัน สิ่งสำคัญที่สุดคือการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินสภาพร่างกาย ความเป็นไปได้ และทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละคู่ ด้วยการวางแผนที่ดีและการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม ก็จะทำให้มีโอกาสประสบความสำเร็จในการมีบุตรได้
ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด การตัดสินใจเกี่ยวกับการมีบุตรเป็นเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ รวมถึงควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะด้าน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณและครอบครัว แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าควรไปทำ IVF หรือทำ ICSI ที่ไหนดี สามารถเข้ามาปรึกษากับสูตินรีแพทย์ผู้ชำนาญการได้ที่ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร VFC Center เราให้การรักษาที่ครอบคลุมด้านการมีบุตร มั่นใจในความปลอดภัยด้วยเทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย พร้อมเครื่องมือและห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานสากล
บทความโดย นายแพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter
อ่านบทความสุขภาพ : https://www.v-ivf.com/article/

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.