รีวิวครอบครัวกิตติคุณ: เคสทำ ICSI สำเร็จ หลังจากทำ IUI ไม่ได้ผล

เคสของคุณศุภมาสและคุณกฤษฏาเป็นตัวอย่างชัดเจนของ เคสทำ ICSI สำเร็จ หลังจากพยายามมีบุตรด้วยวิธีธรรมชาติมานานกว่า 2 ปี และทำ IUI ถึง 3–4 ครั้งแต่ไม่เห็นผล การตัดสินใจใช้ เทคโนโลยีช่วยการมีบุตร อย่าง ICSI ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์เฉพาะทางที่ VFC Center พร้อมการวิเคราะห์และปรับแผนการรักษาแบบรายบุคคล รวมถึงการใช้เทคโนโลยีเสริมอย่าง PGT-A ในรอบที่สอง ทำให้การย้ายตัวอ่อนประสบความสำเร็จและนำไปสู่การตั้งครรภ์ในที่สุด เรื่องราวนี้สะท้อนว่า แม้เส้นทางจะมีความล้มเหลวมาก่อน แต่การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมและศูนย์รักษาที่มีประสบการณ์ สามารถเพิ่มโอกาสและเปลี่ยนความหวังให้กลายเป็นความจริงได้

เรื่องราวเคสนี้ เป็นอีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่แสดงให้เห็นว่า แม้เส้นทางจะมีความท้าทาย แต่ความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีการแพทย์ที่เหมาะสม จะนำไปสู่ความสุขที่รอคอยได้ในที่สุด หลังจากพยายามมีบุตรตามธรรมชาติมาถึง 2 ปี และลองทำ IUI อยู่หลายครั้งแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งคู่จึงตัดสินใจเลือกทำ ICSI เพื่อเติมเต็มความฝันของครอบครัว

การตัดสินใจทำ ICSI เทคโนโลยีช่วยการมีบุตรเพื่อเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

คุณศุภมาสเล่าถึงจุดเริ่มต้นของการตัดสินใจทำ ICSI ว่า “เราปล่อยตามธรรมชาติมาประมาณสองปีแต่ก็ยังไม่สำเร็จ เลยลองศึกษาหาข้อมูลว่าจะใช้เทคโนโลยีไหนดี รอบแรกได้ลองทำ IUI ประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่ตั้งใจ จึงตัดสินใจว่าจะมาทำ ICSI พอลองหาข้อมูลเปรียบเทียบกัน สุดท้ายก็เลือกที่ VFC Center ค่ะ”

การเลือกวิธี ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีช่วยการมีบุตร ถือเป็นตัวเลือกที่ดีในด้านการเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ หลังจากที่เคยผ่านวิธีธรรมชาติมายาวนานกว่า 2 ปี และลองทำ IUI แต่ไม่สำเร็จมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง

เข้ารับคำปรึกษากับ นพ.วรวัฒน์ ศิริปุณย์ (คุณหมอเต้) และเริ่มต้นการวางแผนที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

นอกจากการหาข้อมูลเปรียบเทียบ ทั้งจากรีวิวคู่รักที่ทำ ICSI แพ็กเกจต่าง ๆ และความน่าประทับใจด้านบริการแล้ว ประสบการณ์ที่ได้จากการเข้าพบคุณหมอ ยังทำให้คุณศุภมาสและคุณกฤษฏารู้สึกอุ่นใจในการักษา อีกทั้ง นพ.วรวัฒน์ ศิริปุณย์ หรือ คุณหมอเต้ แพทย์ผู้ให้การรักษายังมีความเข้าใจและพร้อมให้คำปรึกษาในด้านต่าง ๆ รวมถึงมีการประเมิน และวางแผนอย่างใส่ใจ ซึ่งถือว่าเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทั้งคู่เลือกที่จะทำ ICSI กับทาง VFC Center 

“คุณหมอน่ารัก ใส่ใจ ก็เลยตัดสินใจที่จะทำที่นี่เลย พอผลจากห้องแล็บออกมาคุณหมอเต้ก็แนะนำให้ทำ ICSI พร้อมกับแนะนำถึงเรื่องการเตรียมตัว การเก็บไข่ การย้ายตัวอ่อน ทำให้เราทั้งคู่เข้าใจกระบวนการรักษามากยิ่งขึ้น”

นับเป็นความประทับใจจากการปรึกษาโดยละเอียดกับ นพ.วรวัฒน์ ศิริปุณย์ ซึ่งเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นที่ทำให้ทั้งคู่มีความมั่นใจและพร้อมที่จะเดินหน้าตามแผนการรักษาที่ถูกออกแบบมาเฉพาะกับคู่ของเรา

วางแผนการตั้งครรภ์กับทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

 

การวิเคราะห์และปรับแผนสู่ความสำเร็จ (ICSI 2 ครั้ง)

แม้ว่าเส้นทางการรักษาภาวะมีบุตรยากอาจไม่ได้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก แต่ทุกความพยายามถือเป็นข้อมูลสำคัญที่ช่วยให้ทีมแพทย์สามารถวิเคราะห์และปรับแผนการรักษาได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

การปรับแผนการรักษาที่นำไปสู่ความสำเร็จ

สำหรับเคสทำ ICSI สำเร็จของคุณศุภมาสและคุณกฤษฏา ทีมแพทย์ได้ทำการวิเคราะห์ถึงสาเหตุที่ทำให้กระบวนการไม่ประสบความสำเร็จจากการใส่ตัวอ่อนในครั้งแรก ซึ่งพบว่า ประสิทธิภาพของตัวอ่อนยังไม่เป็นไปตามเกณฑ์ จึงมีการปรับเปลี่ยนแผนการรักษา เพื่อให้บรรลุผลและเพิ่มอัตราความสำเร็จในการทำ ICSI ภายใต้แนวทางสำคัญ ดังนี้

• การเรียนรู้จากความพยายามแรก : ทีมแพทย์ได้นำผลลัพธ์จากความพยายามครั้งแรกที่ตัวอ่อนไม่ฝังตัว มาเป็นบทเรียนในการปรับกลยุทธ์การรักษา โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการคัดกรองตัวอ่อน
• การตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ : ในการทำ ICSI ครั้งที่สอง ทีมแพทย์แนะนำให้ทำการตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT-A) เพื่อคัดเลือกเฉพาะตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมปกติ (Euploid) ซึ่งมีศักยภาพสูงสุดสำหรับการย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ซึ่งเป็นการเพิ่มโอกาสในการฝังตัวและลดความเสี่ยงของการแท้ง

ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดและการให้กำลังใจจากคุณหมอเต้และทีมงาน การย้ายตัวอ่อนในครั้งที่สองจึงประสบความสำเร็จตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งตอกย้ำถึงความสำคัญของการตัดสินใจใช้เทคโนโลยีช่วยการมีบุตรที่ถูกต้องและเหมาะสมของแต่ละเคส

วางแผนการตั้งครรภ์กับทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

 

ข้อคิดและคำแนะนำสำหรับคู่รักที่วางแผนมีบุตรด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์

คุณกฤษฏาได้ฝากข้อคิดที่สำคัญสำหรับคู่รักที่กำลังวางแผนมีบุตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้ตัดสินใจมีบุตรในทันที

“เราไม่รู้หรอกว่าเรามีปัญหาจนกระทั่งเราได้มาตรวจ ซึ่งการตรวจก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะมีความผิดปกติ แต่มาตรวจก่อนว่าเรามีแผนที่จะมีลูกในอีกกี่ปี แล้ววางแผนฝากไข่เอาไว้ หรือทำล่วงหน้าและมีตัวไว้ก่อน จากนั้นเราจะไปใช้ชีวิตกี่ปีเราก็ใช้ได้ กลับมาเราก็จะมีความเสี่ยงที่น้อยลง เพราะว่าเราได้ฝากสิ่งที่สมบูรณ์เอาไว้ที่นี่แล้ว”

“สำหรับคนที่แต่งงานอายุ 30 ขึ้นไปแล้ว อาจจะมีความเสี่ยงมากขึ้น ความเป็นไปได้ก็จะเริ่มต่ำลงเรื่อย ๆ อยากจะให้มาเช็กกัน ราคาไม่สูงอย่างที่คิดครับ”

เริ่มต้นวางแผนเชิงรุก เพื่อเตรียมพร้อมสู่การมีบุตรในวัยที่ต้องการไปกับ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

เรื่องราวของคุณคุณศุภมาสและคุณกฤษฏา คือแรงบันดาลใจสำหรับหลายคู่รักที่กำลังอยู่ระหว่างเส้นทางของการมีบุตร สำหรับคู่แต่งงานที่ต้องการเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ การรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยการมีบุตรที่เหมาะสม และได้รับการดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ จะช่วยให้ความฝันของคุณใกล้ความจริงยิ่งขึ้น ไม่ว่าเส้นทางจะยากแค่ไหน ก็สามารถสัมฤทธิผลได้เมื่อใจเรายังมีความหวังอย่างเต็มเปี่ยม 

หากคุณกำลังวางแผนมีบุตร และกำลังมองหาศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากที่คุณสามารถไว้วางใจได้ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร พร้อมอยู่เคียงข้างคุณ

 

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q : เคสนี้ตัดสินใจเปลี่ยนจากการทำ IUI มาเป็น ICSI เพราะอะไร ?

A : คุณศุภมาสและคุณกฤษฏาพยายามตั้งครรภ์ตามธรรมชาติมา 2 ปี และลองทำ IUI (Intrauterine Insemination) ประมาณ 3-4 ครั้ง แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยการมีบุตรที่มีอัตราความสำเร็จสูงกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์และไม่ต้องการเสียเวลาไปมากกว่านี้

Q : PGT-A (การตรวจคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน) มีความสำคัญอย่างไรต่อความสำเร็จในการทำ ICSI ?

A :  PGT-A มีความสำคัญอย่างยิ่งในการเพิ่มอัตราความสำเร็จและลดความเสี่ยง การวิเคราะห์จากความพยายามครั้งแรกที่ไม่สำเร็จ ทำให้ทีมแพทย์แนะนำให้ตรวจ PGT-A ในครั้งที่สอง เพื่อคัดเลือกเฉพาะตัวอ่อน Euploid (ตัวอ่อนที่มีจำนวนโครโมโซมปกติ) ซึ่งเป็นตัวอ่อนที่มีศักยภาพสูงสุดในการฝังตัวและลดความเสี่ยงของการแท้งในระยะแรก

Q : คู่รักควรเริ่มมาปรึกษาแพทย์เรื่องการมีบุตรเมื่อไหร่ ?

A : แนะนำให้คู่รักที่วางแผนมีบุตรเข้ามาตรวจประเมินสุขภาพการเจริญพันธุ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ แม้จะยังไม่พบปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคู่รักที่แต่งงานแล้วแต่ยังไม่ได้วางแผนมีบุตรในทันที หรือผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป เพราะการตรวจก่อนจะช่วยให้สามารถวางแผนเชิงรุก เช่น การฝากไข่ การตรวจคุณภาพอสุจิ หรือการวิเคราะห์โอกาสตั้งครรภ์ในอนาคต เพื่อลดความเสี่ยงที่มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มขึ้นได้

Q : ทำไมหลายคู่ถึงเลือกทำ ICSI ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) ?

A : เพราะ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center) มีอัตราความสำเร็จตั้งครรภ์สูงถึง 81.66% ทั้งยังได้รับการรับรองระดับสากลทั้ง JCI และ CCPC (world’s first) มีทีมแพทย์เฉพาะทางและ Embryologist ระดับ Senior Clinical ที่ผ่านการรับรองจาก ESHRE รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้มาตรฐาน ทำให้คนไข้รู้สึกผ่อนคลายและไว้วางใจได้ตลอดกระบวนการรักษา

 

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร 

Hotline: 082-903-2035 

LINE Official: @vfccenter