เปิดทุกวัน 8:00 น. - 17.00 น

เวลาทำการ

Follow Us

ประสบการณ์จริง: เป็นโรค PCOS แต่ทำ ICSI ครั้งแรกก็สำเร็จ

Table of Contents

เรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจสำหรับคนอยากมีลูกของคุณวรรณาและคุณฉัตรวิทย์ ซึ่งคุณวรรณาเป็นโรค PCOS (ถุงน้ำในรังไข่หลายใบ) และปัญหาท่อนำไข่ตันข้างหนึ่ง แต่ใครจะคิดบ้างว่า เมื่อเข้ารับการรักษาด้วยการทำ ICSI ก็สามารถตั้งครรภ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรก

“อยากมีลูก ไม่อยากให้อายุมากไปกว่านี้ อยู่กันสองคนมันเงียบเหงา เลี้ยงน้องหมาก็ไม่เหมือนมีลูกจริง ๆ การมีลูกจึงเป็นความหวังของเรา”

คำพูดเปิดใจของคุณวรรณา ผู้ที่เผชิญกับภาวะมีบุตรยาก ซึ่งทั้งคุณฉัตรวิทย์และคุณวรรณาได้พยายามมีบุตรมาแล้วกว่า 6 ปีโดยไม่เคยคุมกำเนิด แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ ซึ่งสาเหตุมาจากทั้งสองฝ่าย โดยฝ่ายชายมีปัญหาเชื้ออสุจิไม่แข็งแรง ส่วนฝ่ายหญิงมีภาวะของโรค PCOS ทำให้ไข่ตกไม่สม่ำเสมอ บวกกับภาวะท่อนำไข่ตัน จึงต้องเข้ารับการผ่าตัดก่อนเริ่มรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์

การตัดสินใจเลือกทำ ICSI ที่ VFC Center

หลังจากปรึกษาคุณหมอวนากานต์ สิงหเสนา ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) ทั้งคุณวรรณาและคุณฉัตรวิทย์ได้รับคำแนะนำให้ทำ ICSI (Intracytoplasmic Sperm Injection) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง เหมาะกับผู้ที่มีปัญหาเรื่องคุณภาพไข่หรืออสุจิ อีกทั้งการทำ ICSI ยังช่วยเพิ่มโอกาสสำเร็จของการปฏิสนธิได้มากกว่าการทำ IVF แบบทั่วไป

การตัดสินใจ “ข้ามขั้น” และเลือกทำ ICSI ทันที โดยไม่ขอเสี่ยงกับการทำ IVF นั่นก็เป็นเพราะว่าทั้งคู่อยากให้การรักษาได้ผลเร็วที่สุด

คุณวรรณากล่าวว่า “ตอนนั้นอายุ 34 ปี และอยากมีลูกก่อนที่อายุจะมากไปกว่านี้ และเรามั่นใจในแพทย์ของ VFC Center เพราะมีการอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ยิ่งได้ปรึกษาคุณหมอก็ยิ่งมั่นใจในเรื่องการดูแล และความเชี่ยวชาญของห้องแล็บที่ได้มาตรฐานสากลของที่นี่”

ขั้นตอนการรักษาและความใส่ใจจากทีมแพทย์

ในกรณีของผู้ที่เป็นโรค PCOS ทำ ICSI แพทย์จะต้องปรับปริมาณยากระตุ้นไข่ให้เหมาะสม เพราะผู้ป่วยมีถุงน้ำจำนวนมากในรังไข่ หากกระตุ้นไข่มากเกินไปอาจเสี่ยงต่อภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกิน (OHSS)

คุณวรรณาเล่าว่า “คุณหมอใช้ยากระตุ้นไข่ในขนาดที่พอดี แม้จะมีอาการแน่นท้องเล็กน้อยแต่ไม่เจ็บและไม่ปวดเลย จากนั้นคุณหมอคอยอัลตราซาวนด์เพื่อติดตามผลถี่มาก ทำให้มั่นใจในทุกขั้นตอนของการรักษา”

หลังจากกระตุ้นไข่และเก็บไข่ได้สำเร็จ ทีมแพทย์ได้นำอสุจิมาฉีดเข้าไข่โดยตรงในห้องแล็บ ผ่านกระบวนการ ICSI จากนั้นเลี้ยงตัวอ่อนจนแข็งแรง ก่อนเลือกใส่กลับเข้ามดลูกเพียง “หนึ่งตัว” เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการตั้งครรภ์แฝด เนื่องจากคุณวรรณามีน้ำหนักเกินและเป็นโรคเบาหวาน

ผลลัพธ์คือการทำ ICSI สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก

ปรึกษาเพื่อรักษาภาวะมีบุตรยากที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V-Fertility Center)

ความรู้สึกหลังได้เป็นคุณแม่อย่างที่ตั้งใจ

“ตอนที่รู้ว่าติดแล้วน้ำตาไหลเลยค่ะ ตัวเดียวติดเลย พอได้มองหน้าลูกตอนนี้มีกำลังใจมาก เขาเป็นสายใยของเราจริง ๆ” คุณวรรณาพูดด้วยความตื้นตัน และเล่าต่อว่า “ทีมแพทย์ของ VFC Center ดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงช่วงตั้งครรภ์ประมาณ 12 สัปดาห์แรก ก่อนส่งต่อเพื่อไปฝากครรภ์ต่อกับสูตินรีแพทย์ทั่วไป โดยคุณหมอดูแลด้วยความใจเย็น และอธิบายอย่างละเอียดในทุก ๆ ขั้นตอน ทำให้เรารู้สึกสบายใจในทุกสเต็ปของการรักษา”

แม้เป็นโรค PCOS ก็ทำ ICSI สำเร็จและมีลูกได้: ประสบการณ์ที่อยากส่งต่อสำหรับคนที่ยังลังเล

“สำหรับคนที่ปล่อยเพื่อมีลูกด้วยวิธีธรรมชาติมานานแล้ว อยากบอกว่าอย่ารอค่ะ เพราะระบบภายในของผู้หญิงซับซ้อนมาก ทั้งมดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ เราไม่มีทางรู้เลยว่ามีปัญหาตรงไหน ถ้าไม่มาพบแพทย์ ยิ่งอายุมาก โอกาสสำเร็จก็จะลดลง”

คำแนะนำของคุณวรรณา สะท้อนความจริงที่ว่าการวางแผนมีบุตรเร็ว และปรึกษาแพทย์เฉพาะทางตั้งแต่เนิ่น ๆ คือสิ่งสำคัญที่สุด โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีภาวะ PCOS หรือโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่อาจกระทบต่อคุณภาพไข่และการตั้งครรภ์

ทำไมควรเลือกใช้บริการ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เมื่อวางแผนมีลูก ?

  • ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทางด้านมีบุตรยากมากประสบการณ์
  • ห้องแล็บ Embryology ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล (JCI)
  • ทีม Embryologist ได้รับการรับรองระดับ Senior Clinical Embryologist จาก ESHRE
  • วางแผนการรักษาเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะกับสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย
  • บริการให้คำปรึกษาอย่างอบอุ่น พร้อมดูแลตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงตั้งครรภ์สำเร็จ

ทุกความพยายามมีความหมาย เมื่อไม่หยุดหวัง

เรื่องราวของคุณวรรณาและคุณฉัตรวิทย์เป็นตัวอย่างที่พิสูจน์ว่า แม้จะเป็นโรค PCOS เมื่อทำ ICSI ก็มีโอกาสสำเร็จในการตั้งครรภ์ หากได้รับการดูแลจากทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมกับสุขภาพของแต่ละบุคคล เพราะทุกความแตกต่างของร่างกาย ล้วนสามารถปรับให้เหมาะกับการตั้งครรภ์ได้ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน

หากคุณกำลังเผชิญปัญหาที่คล้ายกัน หรืออยู่ในช่วงตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นอย่างไร สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำอิ๊กซี่ (ICSI Treatment) เพื่อเข้าใจขั้นตอนและโอกาสความสำเร็จของการรักษาด้วยเทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ หรือนัดหมายปรึกษาทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เพื่อเริ่มวางแผนมีบุตรอย่างมั่นใจได้เลยวันนี้

แพ็กเกจที่เกี่ยวข้อง

บทความโดยแพทย์วนากานต์ สิงหเสนา

ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่

VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร

Hotline: 082-903-2035

LINE Official: @vfccenter

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

Q : ถ้ามีภาวะ PCOS สามารถทำ ICSI ได้ไหม ?

A: แม้จะเป็นโรค PCOS (ถุงน้ำในรังไข่) ก็สามารถทำ ICSI ได้ โดยแพทย์จะวางแผนการกระตุ้นไข่ให้เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นมากเกินไป โดยมีผู้ป่วยหลายรายประสบความสำเร็จในการทำ ICSI แม้มีปัญหาสุขภาพหลายอย่างร่วมด้วย

Q : ทำ ICSI ครั้งแรกมีโอกาสสำเร็จมากน้อยแค่ไหน ?

A: โอกาสสำเร็จในการทำ ICSI ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อายุ คุณภาพของไข่และตัวอสุจิ ภาวะสุขภาพโดยรวม และการดูแลรักษาจากทีมแพทย์ โดยเฉพาะในศูนย์ที่มีห้องแล็บและแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง เช่น VFC ซึ่งมีอัตราความสำเร็จเฉลี่ยสูงถึง 81.66%

Q : หากมีภาวะท่อนำไข่ตัน จะยังสามารถทำ ICSI ได้ไหม ?

A: ได้แน่นอน การทำ ICSI ไม่ได้ใช้ท่อนำไข่ในการปฏิสนธิ เพราะเป็นการนำไข่และอสุจิมาผสมกันภายนอกห้องแล็บ แล้วจึงใส่ตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ดังนั้นแม้ท่อนำไข่จะตัน ก็ยังสามารถทำ ICSI และตั้งครรภ์ได้สำเร็จ

Q : การทำ ICSI สำหรับผู้หญิงที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นเบาหวานปลอดภัยหรือไม่ ?

A: ปลอดภัยหากได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ โดยในเคสของคุณวรรณา แม้มีน้ำหนักเกินและเป็นเบาหวาน ก็สามารถประสบความสำเร็จในการทำ ICSI ได้ เนื่องจากได้รับการวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมและมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

Q : หากทำ ICSI สำเร็จ VFC Center จะดูแลจนถึงช่วงไหนของการตั้งครรภ์ ?

A: โดยทั่วไป ศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากจะดูแลจนถึงช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (ประมาณ 11–12 สัปดาห์แรก) หลังจากนั้นจะส่งต่อให้ฝากครรภ์กับสูตินรีแพทย์ทั่วไปตามขั้นตอนปกติ เพื่อให้คุณแม่และทารกได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง

Dr. Wannakan Singhasena, a fertility specialist in Thailand

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

No Comments

Sorry, the comment form is closed at this time.