หลังขั้นตอนการเก็บไข่ (Egg Retrieval) ไม่ว่าจะเพื่อการฝากไข่ หรือเตรียมเข้าสู่กระบวนการทำ ICSI ว่าที่คุณแม่หลายคนมักมีความกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย โดยเฉพาะคำถามที่ว่า “หลังเก็บไข่กี่วันถึงจะมีประจำเดือนมา ?” และ “เลือดที่ออกมาถือว่าผิดปกติหรือไม่ ?” ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาภายในประมาณ 7–10 วัน หากไม่มีการใส่ตัวอ่อนในรอบนั้น โดยใน 24 ชั่วโมงแรกอาจมีเลือดออกกะปริบกะปรอยสีน้ำตาลหรือแดงอ่อนจากแผลเล็ก ๆ ที่รังไข่ ซึ่งมักหายได้เองภายใน 1–2 วันและถือว่าเป็นภาวะปกติ แต่หากเลือดออกมากผิดปกติ ปวดท้องรุนแรง ไม่มีประจำเดือนเกิน 3 สัปดาห์ หรือมีไข้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินเพิ่มเติม พร้อมทั้งดูแลตัวเองด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงยกของหนัก ดื่มน้ำมาก ๆ และจดบันทึกอาการ เพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมสำหรับการย้ายตัวอ่อนหรือการตั้งครรภ์ในรอบถัดไป
เมื่อฮอร์โมนจากการกระตุ้นไข่ส่งผลให้ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ความเข้าใจเรื่องรอบเดือนและการมีประจำเดือนหลังเก็บไข่จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่ต้องใส่ใจ มาเช็กอาการข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนหลังจากการเก็บไข่ พร้อมคำแนะนำในการดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ในรอบถัดไปกัน
ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายหลังการเก็บไข่
กระบวนการเก็บไข่เป็นส่วนหนึ่งของการทำ ICSI (Intra-Cytoplasmic Sperm Injection) หรือการฉีดอสุจิเข้าภายในไข่โดยตรง ก่อนจะคัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดมาฝังในโพรงมดลูก
แต่ก่อนที่จะถึงวันเก็บไข่ แพทย์จะให้ยากระตุ้นรังไข่ เพื่อให้ไข่เจริญเติบโตพร้อมกันหลายใบ เมื่อถึงระยะที่เหมาะสม แพทย์จะเจาะดูดไข่ออกจากถุงรังไข่โดยใช้เข็มขนาดเล็กผ่านช่องคลอด สำหรับขั้นตอนนี้อาจส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน และมีผลต่อรอบเดือนในระยะสั้น รวมถึงยังอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงอื่น ๆ ดังนี้
- ปวดท้องน้อยเล็กน้อย คล้ายปวดประจำเดือน
- มีเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อยภายใน 24 ชั่วโมง
- ท้องอืด แน่นท้องเล็กน้อยจากการขยายของรังไข่
- อ่อนเพลีย หรือรู้สึกง่วงจากยาระงับความรู้สึก
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อวางแผนเข้าสู่กระบวนการเก็บไข่
เลือดออกหลังเก็บไข่ ถือว่าผิดปกติไหม ?
หลังการเก็บไข่ 24 ชั่วโมงแรก ฝ่ายหญิงอาจพบเลือดออกทางช่องคลอดเล็กน้อย ลักษณะเป็นเลือดจาง ๆ หรือสีน้ำตาลคล้ายประจำเดือนเก่า ซึ่งหลายคนอาจสับสนว่าเป็นประจำเดือนหลังเก็บไข่หรือไม่ อาการนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเกิดจากการสอดเครื่องมือในระหว่างทำหัตถการเพื่อทำการดูดไข่ออกจากรังไข่
เพื่อลดผลข้างเคียงจากการเก็บไข่ หลังกระบวนการเสร็จสิ้น คุณผู้หญิงควรปฏิบัติตัวตามแนวทางเหล่านี้
- พักผ่อนมาก ๆ หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหรือยกของหนักในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดอาการปวดท้องน้อย
- หากปวดท้องสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้ทุก 4-6 ชั่วโมง ตามที่แพทย์สั่ง
- หากเลือดออกมากจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1-2 ชั่วโมง หรือมีไข้สูง หน้ามืด ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที
หลังเก็บไข่ ประจำเดือนเลื่อนไหม กี่วันจึงจะมีประจำเดือนมา ?
โดยทั่วไป หลังเก็บไข่แล้ว ฮอร์โมนเพศหญิงจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ “รอบเดือนสั้นลง” กว่าปกติเล็กน้อย และมักมีประจำเดือนภายใน 7-10 วันหลังเก็บไข่ หากไม่ได้มีการใส่ตัวอ่อนในรอบนั้น
สาเหตุหลักที่ทำให้ประจำเดือนเลื่อนหลังเก็บไข่คือ หลังการเก็บไข่ รังไข่ไม่ได้สร้างฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนต่อเนื่องเหมือนรอบธรรมชาติ ส่งผลให้เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกเร็วขึ้น ประจำเดือนจึงมาถี่ขึ้นกว่าปกติเล็กน้อย
อย่างไรก็ตาม หากมีการย้ายตัวอ่อนสด (Fresh Transfer) แพทย์จะให้ยาฮอร์โมนพยุงเยื่อบุโพรงมดลูก ซึ่งอาจทำให้ประจำเดือนมาช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ หรือหากมีการตั้งครรภ์ ประจำเดือนจะไม่มา
ความแตกต่างระหว่างเลือดออกหลังเก็บไข่และประจำเดือนจริง
เลือดที่ออกหลังเก็บไข่กับการมีประจำเดือนหลังเก็บไข่มีความแตกต่างกันหลายประการ ได้แก่
| เลือดออกหลังเก็บไข่ | ประจำเดือน | |
| สีและลักษณะของเลือด | สีแดงอ่อนหรือสีน้ำตาล | สีแดงเข้ม มีลิ่มเลือดปน |
| ปริมาณและระยะเวลาที่เป็น | ปริมาณน้อย หายไปเองได้ใน 1-2 วัน | ปริมาณมาก โดยปกติมีระยะเวลา 3-5 วัน |
| อาการร่วม | ปวดท้องน้อยเล็กน้อย หรือไม่ปวดเลย ร่วมกับอาการคัดเต้านมและคลื่นไส้ | ปวดหน่วงรุนแรงกว่า อ่อนเพลีย หงุดหงิดง่าย โดยรวมเรียกว่าอาการ PMS |
| สาเหตุ | ผลกระทบจากการทำหัตถการ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน | เยื่อบุโพรงมดลูกหลุดลอกตามรอบเดือน |
หากไม่แน่ใจว่าเลือดที่ออกคือผลจากการทำหัตถการหรือประจำเดือนหลังเก็บไข่กันแน่ แนะนำให้จดบันทึกวันและอาการที่เกิดขึ้น แล้วปรึกษาทีมแพทย์เพื่อประเมินร่วมกับระดับฮอร์โมนหรือการตรวจอัลตราซาวนด์ จะเป็นการดีที่สุด
นัดหมายเข้ารับคำปรึกษาก่อนเก็บไข่กับสูตินรีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์
อาการข้างเคียงหลังเก็บไข่ที่ควรพบแพทย์โดยด่วน
หลังเก็บไข่ ควรสังเกตอาการตัวเองอย่างใกล้ชิด และควรติดต่อแพทย์ทันทีหากมีอาการต่อไปนี้
- เลือดออกมากหรือไม่หยุดภายใน 48 ชั่วโมง
- ปวดท้องรุนแรง ท้องอืดมาก คลื่นไส้ หายใจลำบาก ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของภาวะรังไข่ถูกกระตุ้นเกิน
- ไม่มีประจำเดือนเกิน 3 สัปดาห์หลังเก็บไข่โดยไม่มีการใส่ตัวอ่อน
- มีไข้ หรือรู้สึกเจ็บแผลภายในมากผิดปกติ
การดูแลตัวเองให้ร่างกายฟื้นตัวหลังเก็บไข่
กระบวนการเก็บไข่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการทำ ICSI และการวางแผนตั้งครรภ์ ซึ่งหลังจากเก็บไข่แล้ว ฝ่ายหญิงควรดูแลร่างกายให้ฟื้นตัว เพื่อให้รอบเดือนกลับมาปกติและเตรียมพร้อมสำหรับการใส่ตัวอ่อนในรอบถัดไป
- พักผ่อนให้เพียงพอ นอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อช่วยลดอาการท้องอืดและล้างฮอร์โมนส่วนเกินออกจากร่างกาย
- รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นโปรตีน ไขมันดี และผักผลไม้สด
- งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และคาเฟอีน
- จดบันทึกอาการหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกายทุกวัน
การมีประจำเดือนหลังเก็บไข่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวล และหากมีเลือดออกเล็กน้อยหลังเก็บไข่ถือเป็นอาการปกติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและผลจากการทำหัตถการ ส่วนประจำเดือนจริงมักจะมาภายใน 7-10 วัน หลังเก็บไข่ และจะกลับมาเป็นรอบปกติในเดือนถัดไป
สอบถามราคาและรายละเอียดแพ็กเกจฝากไข่กับ VFC Center
นอกจากการสังเกต ว่าหลังเก็บไข่กี่วัน ประจำเดือนจึงจะมาแล้ว สิ่งสำคัญที่ควรทำคือการพักผ่อนให้เพียงพอ รวมถึงสังเกตอาการของตนเอง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วและพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปของการตั้งครรภ์ และสำหรับผู้ที่ต้องการฝากไข่ เพื่อทำ ICSI หรือวางแผนการตั้งครรภ์และรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยวิธีอื่น ๆ ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เราพร้อมให้คำปรึกษาและดูแลการรักษาทุกขั้นตอนอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ทำให้กระบวนการตั้งครรภ์ดำเนินไปด้วยความมั่นใจตั้งแต่วันแรก
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
Q : การมีประจำเดือนหลังเก็บไข่ถือเป็นสัญญาณว่าร่างกายฟื้นตัวสมบูรณ์หรือยัง ?
A : การมีประจำเดือนหลังเก็บไข่ภายใน 7-10 วัน บ่งชี้ว่าฮอร์โมนเริ่มกลับเข้าสู่สมดุล แต่ยังไม่ถือว่ารังไข่ฟื้นตัวเต็มที่ ควรรอให้ผ่านไปอย่างน้อย 1 รอบเดือน ก่อนเริ่มกระบวนการย้ายตัวอ่อนหรือกระตุ้นรอบใหม่ เพื่อให้เยื่อบุโพรงมดลูกแข็งแรงและพร้อมรับการฝังตัวมากที่สุด
Q : หลังเก็บไข่แล้วไม่มีประจำเดือนเกิน 3 สัปดาห์ แต่ไม่มีอาการที่บ่งชี้ว่าตั้งครรภ์ ควรทำอย่างไร ?
A : ควรพบสูตินรีแพทย์เพื่อประเมินระดับฮอร์โมน เช่น เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และโปรแลกติน รวมถึงตรวจอัลตราซาวนด์ดูการทำงานของรังไข่ เพราะอาจเกิดภาวะลูเทียลเฟสล้มเหลว (Luteal Phase Defect) หรือรังไข่พักตัวชั่วคราวจากยากระตุ้นไข่ได้
Q : ประจำเดือนหลังเก็บไข่มีผลต่อการวางแผนย้ายตัวอ่อนหรือไม่ ?
A : มีผลโดยตรง เพราะแพทย์จะใช้วันแรกที่มีประจำเดือนเป็นจุดเริ่มต้นในการนับรอบใหม่ เพื่อกำหนดช่วงให้ยาฮอร์โมนและเตรียมเยื่อบุโพรงมดลูก หากรอบเดือนผิดปกติควรแจ้งแพทย์ทันที เพื่อปรับตารางการรักษาให้เหมาะสม
Q : สามารถตรวจการตั้งครรภ์หลังเก็บไข่ได้เมื่อใด ?
A: หากมีการย้ายตัวอ่อนสดหลังการเก็บไข่ ควรตรวจหลังย้ายตัวอ่อนไปแล้ว 12-14 วัน เพื่อให้ระดับฮอร์โมน hCG ขึ้นชัดเจน ลดโอกาสการเกิดผลลวง
Q : ประจำเดือนหลังเก็บไข่มีปริมาณมากกว่าปกติ ถือว่าผิดปกติหรือไม่ ?
A : หลังการกระตุ้นรังไข่ เยื่อบุโพรงมดลูกอาจหนากว่ารอบธรรมชาติ ทำให้ประจำเดือนที่มาหลังเก็บไข่มีปริมาณมากหรือนานกว่า 5 วันได้ แต่หากเลือดออกมากผิดปกติหรือมีอาการอ่อนเพลีย ควรรีบพบแพทย์เพื่อประเมินภาวะโลหิตจางและการทำงานของฮอร์โมน
บทความโดย แพทย์หญิงศรมน ทรงวีรธรรม
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ ได้ที่พ.ญ.ศรมน ทรงวีรธรรม
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.