เด็กหลอดแก้วคือเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ (IVF / ICSI) ที่ช่วยให้คู่สมรสที่มีภาวะมีบุตรยากสามารถตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย โดยเป็นการเก็บไข่และอสุจิมาผสมกันในห้องแล็บภายใต้การควบคุมอย่างใกล้ชิด เลือกใช้เฉพาะไข่และตัวอ่อนที่มีคุณภาพดี พร้อมตรวจคัดกรองโครโมโซม (PGT) ลดความเสี่ยงความผิดปกติแต่กำเนิด ทำให้เด็กหลอดแก้วมีโอกาสเติบโตแข็งแรงไม่ต่างจากเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ หากอยู่ในความดูแลของแพทย์และทีมผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะเจริญพันธุ์อย่างเหมาะสม
ว่าที่คุณพ่อคุณแม่หลายคู่ที่พยายามมีบุตรตามธรรมชาติแต่ไม่ประสบความสำเร็จ มักเผชิญกับภาวะการมีบุตรยาก ซึ่งอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ความเป็นกรดในช่องคลอดที่ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของอสุจิ คุณภาพน้ำเชื้อที่ลดลง ปัญหาสุขภาพของทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิง รวมถึงอายุที่เพิ่มมากขึ้น การปรึกษาแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์จึงเป็นก้าวสำคัญ เพื่อค้นหาสาเหตุอย่างละเอียดและวางแนวทางรักษาได้อย่างตรงจุด
หนึ่งในเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพคือ การทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI / IVF) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ที่ปลอดภัยและได้รับการยอมรับทั่วโลก โดยแพทย์จะประเมินสภาพร่างกายของทั้งคู่ก่อนเลือกแนวทางที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกขั้นตอนเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงสุด
นัดหมายปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อวางแผนตั้งครรภ์ในผู้ป่วยภาวะมีบุตรยาก
การทำเด็กหลอดแก้วคืออะไร ?
การทำเด็กหลอดแก้ว คือการช่วยให้คู่สมรสที่มีบุตรยากตั้งครรภ์ได้ โดยทีมแพทย์และนักเพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Embryologist) จะควบคุมทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่การกระตุ้นไข่ การเก็บไข่ การผสมไข่กับอสุจิภายนอกร่างกาย หรือฉีดอสุจิเข้าไข่โดยตรง (ICSI) ไปจนถึงการเลี้ยงตัวอ่อนในห้องแล็บที่ปลอดเชื้อและควบคุมอุณหภูมิ
นักวิทยาศาสตร์ตัวอ่อน (Embryologist) มีบทบาทสำคัญในการดูแลและการพัฒนาของตัวอ่อนในแต่ละวัน เพื่อให้มั่นใจว่าทุกตัวอ่อนที่คัดเลือกมีความสมบูรณ์พร้อมสำหรับการฝังตัว ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล และเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้ว
การทำเด็กหลอดแก้ว เป็นทางเลือกสำหรับคู่รักที่มีบุตรยาก และถึงแม้ว่าจะเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน แต่สามารถสรุป กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วได้หลัก ๆ ดังนี้
- การกระตุ้นไข่ : เริ่มต้นด้วยการใช้ยากระตุ้นเพื่อให้รังไข่ผลิตไข่หลายใบ เพื่อเพิ่มโอกาสในการปฏิสนธิ
- การเก็บไข่ : เมื่อไข่เจริญเติบโตเต็มที่ แพทย์จะทำการเก็บไข่ออกมาอย่างปลอดภัย
- การปฏิสนธิ (IVF / ICSI) : นำอสุจิที่ผ่านการคัดคุณภาพมาผสมกับไข่ในห้องแล็บ หรือฉีดอสุจิเข้าไปในไข่โดยตรง
- การเลี้ยงตัวอ่อน : ตัวอ่อนจะถูกเพาะเลี้ยงในห้องแล็บที่ควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และสภาพแวดล้อมอย่างเข้มงวด เป็นเวลา 5-7 วัน
- การคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) : เพื่อเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงและไม่มีความผิดปกติทางพันธุกรรม
- การย้ายตัวอ่อน : ตัวอ่อนที่พร้อมจะถูกย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของคุณแม่ในช่วงเวลาที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสในการฝังตัวและตั้งครรภ์ในที่สุด
เด็กหลอดแก้วจะแข็งแรงไหมเมื่อเกิดมา ? ความจริงจากมุมมองแพทย์
หนึ่งในคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยคือ “เด็กหลอดแก้วจะมีสุขภาพแข็งแรงเหมือนเด็กที่เกิดตามธรรมชาติหรือไม่ ?” ความเชื่อนี้มักเกิดจากข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือความเข้าใจคลาดเคลื่อน ว่าทารกที่เกิดจากการปฏิสนธิภายนอกร่างกายอาจไม่สมบูรณ์หรือมีโอกาสเกิดความผิดปกติสูง
ความจริงแล้ว เด็กที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว (ICSI/IVF) จะมีสุขภาพแข็งแรงไม่ต่างจากเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ เพราะในทุกขั้นตอนของกระบวนการ แพทย์ผู้ดูแลจะทำการคัดเลือกไข่และน้ำเชื้อมีคุณภาพดีที่สุดมาทำการปฏิสนธิภายใต้สภาวะที่ปลอดภัยและควบคุมอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ตัวอ่อนที่แข็งแรงและมีโอกาสฝังตัวสำเร็จสูงสุด
นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีการคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) ที่ช่วยตรวจหาความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคดาวน์ซินโดรม และความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคโลหิตจาง ธาลัสซีเมีย ก่อนย้ายตัวอ่อนกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ทำให้ลดความเสี่ยงของทารกที่มีภาวะผิดปกติแต่กำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่า ลูกน้อยที่เกิดมาจากการทำเด็กหลอดแก้ว จะมีสุขภาพที่แข็งแรงไม่ต่างจากเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ ทั้งนี้ คู่รักที่กำลังวางแผนมีบุตรควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ เพื่อวางแผนการรักษาและดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสมตั้งแต่เริ่มต้น
ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว
นอกจากการทำเด็กหลอดแก้วจะมีข้อดี ที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้มีบุตรยากสามารถมีลูกได้มากขึ้น ยังมีข้อดีอีกหลายด้าน ได้แก่
- ควบคุมคุณภาพตัวอ่อนได้ : แพทย์สามารถคัดเลือกไข่และตัวอ่อนที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนย้ายเข้าสู่มดลูก
- ลดความเสี่ยงการตั้งครรภ์ผิดปกติ : สามารถตรวจโครโมโซมตัวอ่อนก่อนฝังตัว ช่วยลดโอกาสเกิดความผิดปกติตั้งแต่กำเนิด
- เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์สำหรับผู้หญิงที่มีอายุมาก : การทำเด็กหลอดแก้วด้วยวิธี ICSI จะช่วยให้ผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไปมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น
วางแผนทำ ICSI หรือ IVF กับสูตินรีแพทย์ที่ VFC Center
ทำไมต้องศูนย์ V Fertility Center ?
VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากที่ทันสมัย ได้รับการรับรองจากราชวิทยาลัยสูตินรีเวชแห่งประเทศไทย และยังเป็นศูนย์ที่ได้รับมาตรฐานรายโรค CCPC จาก JCI ด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ที่นี่ ผู้เข้ารับการรักษาภาวะมีบุตรยาก จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ และนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อนที่ผ่านการรับรองจาก ESHRE ยุโรป ไม่ว่าจะเป็นการทำ ICSI หรือ IVF ทุกขั้นตอนของการทำเด็กหลอดแก้วจะได้รับการดูแลอย่างใส่ใจ รวมถึงการรักษาด้านภาวะการเจริญพันธุ์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จ
วางแผนการรักษาภาวะมีบุตรยากอย่างเหมาะสมกับทีมแพทย์ที่ VFC Center ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร (V Fertility Center) เราใส่ใจในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณได้เติมเต็มความฝันของการมีบุตรอย่างมั่นใจ
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
เด็กหลอดแก้วคืออะไร ?
เด็กหลอดแก้ว คือกระบวนการที่แพทย์นำไข่ของฝ่ายหญิงมาผสมกับอสุจิของฝ่ายชายภายนอกร่างกายในห้องแล็บ เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิและพัฒนาจนเป็นตัวอ่อน จากนั้นจึงย้ายตัวอ่อนที่แข็งแรงกลับเข้าสู่โพรงมดลูกของคุณแม่ เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ตามธรรมชาติ เป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้คู่รักที่มีภาวะมีบุตรยากสามารถมีลูกได้อย่างปลอดภัย
เด็กหลอดแก้วแข็งแรงไหม ?
เด็กที่เกิดจากการทำเด็กหลอดแก้ว มีสุขภาพแข็งแรงไม่ต่างจากเด็กที่เกิดตามธรรมชาติ เนื่องจากกระบวนการนี้ใช้ไข่และอสุจิที่สมบูรณ์ที่สุด พร้อมทั้งมีการคัดกรองโครโมโซมตัวอ่อน (PGT) เพื่อยืนยันว่าเด็กที่เกิดมาปราศจากความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น โรคดาวน์ซินโดรม หรือโรคโลหิตจางธาลัสซีเมีย
ขั้นตอนการทำเด็กหลอดแก้วเป็นอย่างไร ?
กระบวนการทำเด็กหลอดแก้วเริ่มจากการกระตุ้นไข่ เพื่อให้รังไข่ผลิตไข่หลายใบ ตามด้วยการเก็บไข่ และ ผสมไข่กับอสุจิในห้องแล็บ จากนั้นตัวอ่อนจะถูกเลี้ยงเป็นเวลา 5-7 วัน และคัดเลือกตัวอ่อนที่แข็งแรงที่สุดเพื่อย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูก ขั้นตอนทั้งหมดนี้อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และนักเพาะเลี้ยงตัวอ่อน ที่มีการรับรองมาตรฐาน
ข้อดีของการทำเด็กหลอดแก้ว ?
การทำเด็กหลอดแก้วช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้แก่คู่สมรสที่มีปัญหามีบุตรยาก โดยสามารถคัดกรองโครโมโซมเพื่อลดความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรม เช่น ธาลัสซีเมีย หรือดาวน์ซินโดรม นอกจากนี้ยังสามารถเก็บตัวอ่อนแช่แข็ง เพื่อใช้ในอนาคต ทำให้กระบวนการนี้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูง
ผลกระทบของการทำเด็กหลอดแก้วมีหรือไม่ ?
โดยทั่วไปแล้ว การทำเด็กหลอดแก้วไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพของคุณแม่หรือเด็ก แต่ควรทำภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทาง เนื่องจากบางกรณีอาจพบภาวะรังไข่ตอบสนองต่อยากระตุ้นมากเกินไป (OHSS) ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสม
บทความโดย แพทย์วรวัฒน์ ศิริปุณย์
ติดต่อสอบถามหรือนัดหมายแพทย์ได้ที่
VFC ศูนย์เทคโนโลยีเพื่อการมีบุตร
Hotline: 082-903-2035
LINE Official: @vfccenter

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านสูติ-นรีเวชวิทยาและเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์




No Comments
Sorry, the comment form is closed at this time.